นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รีบเปิดตัวสถาบันนโยบายสาธารณะและการพัฒนา ตามที่ ครม.ได้เห็นชอบให้งบประมาณไปแล้ว เพื่อมาเสริมการทำงานของ สศช. ขณะที่การทำงานของ สศช.ต้องเสียงดังและมีพลัง ให้เหมือนสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ต้องมีเลขาธิการ สศช. คือนายเสนาะ อูนากูล ยืนอยู่ข้างๆเพื่อให้คำปรึกษาเสมอ “สศช.ต้องบอกได้ว่าการทำโครงการไหนเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ต้องกลับไปอยู่ในจุดนั้นให้ได้ ต้องยืนให้แข็ง ถ้าผมทำไม่ดีต้องบี้ ผมเลย และต้องคอยรายงาน ครม.ถึงความก้าวหน้าโครงการตามนโยบายรัฐบาลว่าติดที่กระทรวงหรือหน่วยงานไหนไม่ทำงาน เพื่อรัฐบาลจะได้ตามงานถูก เช่น การไปรายงานนายกรัฐมนตรี เรื่อง World Competitiveness Center ของ International Institute for Management (IMD) สวิตเซอร์แลนด์ ได้จัดอันดับความสามารถการแข่งขันของประเทศปรับตัวดีขึ้น 5 อันดับ จากอันดับที่ 30 มาเป็นอันดับที่ 25 ในปี 62 นั้น ไม่ใช่บอกว่าขึ้นมา 5 อันดับแล้วจบ แต่ต้องบอกด้วยว่าส่วนไหนที่ยังเป็นปัญหาและต้องแก้ไขอย่างไร ถึงจะดีขึ้นกว่านี้”
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สศช.กล่าวว่า สถาบันนโยบายสาธารณะและการพัฒนาจะทำหน้าที่ทำนายแนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจและวางนโยบายสำคัญใน 5-10 ปีข้างหน้า ให้ประเทศสามารถเตรียมความพร้อมและมีนโยบายที่เหมาะสม มีโครงสร้าง 2 ส่วนหลักคือ 1.สำนักคลังสมองเศรษฐกิจ (Economic Intelligence) ทำหน้าที่ติดตามการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจมหภาค และคาดการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตอย่างมียุทธศาสตร์ 2.สำนักวิเคราะห์นโยบาย (Policy Analysis) มีหน้าที่วิเคราะห์นโยบายด้านต่างๆที่เกี่ยวกับการพัฒนาประเทศในอนาคต รวมทั้งทำในส่วนที่เกี่ยวกับการศึกษาและทดลองนโยบายใหม่ๆ (Policy labs) เช่น การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่รวดเร็วและรุนแรง เมืองใหม่หรือสมาร์ทซิตี้ การพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสู่การเป็นเอสเอ็มอีดิจิทัล การลดความยากจนและสร้างความเท่าเทียมในสังคม เป็นต้น.