ข้าวต้มมัดนำทีมขนมไทยบุกตลาดโลก

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ข้าวต้มมัดนำทีมขนมไทยบุกตลาดโลก

Date Time: 11 พ.ค. 2562 05:01 น.

Summary

  • ช่วงที่ผ่านมามีโอกาสได้รับประทานข้าวต้มมัดสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ เป็นนวัตกรรมการผลิตแตกต่างจากข้าวต้มมัดที่ขายตามตลาดทั่วไปคือบรรจุในซองพลาสติก เพียงแค่ฉีกก็ทานได้เลย...

Latest

 OSP ชูกลยุทธ์ “แซนด์วิช”  ชิงตลาดชูกำลัง 2 หมื่นล้าน ครองส่วนแบ่งตลาด 45% กวาดผู้บริโภคทุกกลุ่ม

ช่วงที่ผ่านมามีโอกาสได้รับประทานข้าวต้มมัดสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ เป็นนวัตกรรมการผลิตแตกต่างจากข้าวต้มมัดที่ขายตามตลาดทั่วไปคือบรรจุในซองพลาสติก เพียงแค่ฉีกก็ทานได้เลย อีกทั้งมีรสชาติอร่อยใกล้เคียงกับข้าวต้มมัดดั้งเดิมที่ใช้ใบตองห่อ

เลยมีความสนใจและได้รับทราบข้อมูลที่น่าสนใจและไม่ธรรมดาจากฝีมือการคิดค้นและการบริหารของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอนาคตไกล “ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล” ที่ปัจจุบันมีตำแหน่งถึงประธานหอการค้า จังหวัด ชลบุรี และเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีอาร์ ไทยฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมไทยแบรนด์ “แม่นภา” ปัจจุบันจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปต่างประเทศกับยอดขายข้าวต้มมัดปีละถึง 70 ล้านบาท

“ธีรินทร์” กล่าวย้อนความหลังไปถึงธุรกิจของครอบครัว ภายหลังจบการศึกษาได้ทำงานออฟฟิศได้ 6 เดือน อยากจะทำธุรกิจส่วนตัวเลยมาช่วยทำธุรกิจเดิมขายข้าวถุงแบรนด์ไก่แจ้ ที่จังหวัดชลบุรี ขายใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง, พนัสนิคม, และศรีราชา ซึ่งคุณพ่อทำในระบบเถ้าแก่ เปิดร้านเขียนบิล เช็กของ ขึ้นของ เก็บเงินเองทุกอย่าง ตนมองว่าทำไมไม่ขยายตลาดไปพัทยา กรุงเทพฯ หรือที่ไหนก็แล้วแต่

“ผมเริ่มปรับการทำงานใหม่หมดเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว ทำการตลาดที่แตกต่างจากธุรกิจข้าว ซึ่งมีช่องว่างทางการตลาดเยอะมาก เนื่องจากคนสมัยก่อน ข้าวทุกแบรนด์จะแฮปปี้กับตัวเองที่มีตลาดอยู่ แต่ละอำเภอ หรือแต่ละจังหวัดจะมีแต่ละรายที่คุมตลาดอยู่ ไม่ข้ามเขตกัน เพราะมีความคิดว่าถ้าไปขายที่อื่นการขนส่งจะไม่คุ้ม ไกล และความเป็นข้าวไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้

เลยมาทำอย่างจริงจังพัฒนาเป็นรายแรกที่ทำบูธชิม ทำการตลาดผ่านสื่อขึ้นป้ายบิลบอร์ด ขยายตลาด จากไม่มีเซล มีพนักงานอยู่สิบกว่าคน ตอนที่เริ่มโกดังมีแค่ 80 ตารางวา มีรถ 2 คัน เริ่มมาจากยอดขายปีละ 10 กว่าล้าน จนยอดขายปีล่าสุดมากกว่า 2,500 ล้านบาท จากพนักงาน 10 กว่าคน ตอนนี้มีมากกว่า 500 คน และธุรกิจข้าว จากเริ่มมีแค่ 20-30 SKU ตอนนี้มีถึง 500-600 SKU

“ธีรินทร์” กล่าวว่า เมื่อทำธุรกิจข้าวได้มั่นคงระดับหนึ่ง จึงแตกแขนงออกไปสู่ธุรกิจขนม มองว่าอยากต่อยอดธุรกิจสร้างนวัตกรรมให้กับสินค้าที่เรามีให้กับวัตถุดิบที่มี อย่างข้าวเหนียวและข้าวสาร มองเห็นตลาดขนมไทยยังไม่ถูกทำการตลาดแบบจริงจัง เป็นอะไรไปซื้อตามร้าน บ้าน ตลาดมีข้อจำกัดมากมายไม่ว่าจะเป็นอายุจัดเก็บ เราไม่สามารถส่งออกได้นอกจากจะทำแบบแช่แข็ง เพราะมีกะทิ มะพร้าว และอีกหลายอย่างที่ทำให้เสียเร็วภายในวันสองวันจึงออกมาเป็นโครงการขนมแม่นภา เป็นข้าวต้มมัดอยู่ในซองที่ไม่ใช้สารกันบูด บนอุณหภูมิห้องที่สามารถอยู่ได้ระยะเวลาหนึ่งปี เริ่มขยายตลาดออกไปเรื่อยๆ

แต่กว่าจะเป็นข้าวต้มมัดบรรจุในถุงพลาสติกนี้และลูกค้าได้ให้การยอมรับได้ผ่านการลองผิดลองถูกมานานมาก และเชื่อว่าไม่มีใครที่จะสามารถพัฒนาได้จนมาถึงจุดนี้ได้เลยเป็นโอกาสที่จะขยายตลาดโดยไม่มีคู่แข่งขัน

เริ่มพัฒนาจากโจทย์ที่เซเว่น อีเลฟเว่น ตั้งไว้ว่า จะต้องสามารถทำให้อยู่ได้ในอุณหภูมิห้อง เพราะไม่ได้เข้าไปอยู่ในตู้เย็นอย่างน้อย 6 เดือน และต้องคงรสชาติ รวมทั้งไม่มีสารกันบูด ไม่มีสารเคมีเจือปนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ถ้าได้ตามนี้เซเว่นจะตกลงซื้อ จะรับสินค้าไปขาย

“ใช้เวลาลองพัฒนา 2 ปี อย่างไรก็แล้วแต่หากจะเทียบกับของสด ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ในความเป็นจริงจะทำยังไงให้ใกล้เคียงและคงสภาพให้ดีที่สุด เราลองทำช่วงแรกข้าวเหนียวสีเหลืองไป คล้ำไป บางทีนิ่มไป แข็งไป ถั่วแข็งไป นิ่มไป หรือการเปลี่ยนสีทำแป๊บเดียวเก็บได้แป๊บเดียวหนึ่งเดือนสีเริ่มเปลี่ยน รายละเอียดเยอะมาก ล่าสุดใช้แพ็กเกจซองพลาสติกใสให้ผู้บริโภคเห็นข้างในป้องกันผู้บริโภคชอบบีบเล่น นอกจากนี้ มีผลิตภัณฑ์อื่นๆจำพวกสแนกของทานเล่นแบรนด์นภาที่จะออกสู่ตลาดต่อเนื่อง”

ปัจจุบัน “ธีรินทร์” บริหารในเครือมากมายเริ่มจากข้าวสารแบรนด์ไก่แจ้, ขนมไทยแบรนด์นภา, ธุรกิจโรงแรม, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจด้านการขนส่งและธุรกิจส่งออก

สำหรับธุรกิจขนมไทยส่งออกไปทั่วโลกและทำตลาดอย่างจริงจัง ทำให้มีแบรนด์ คนไทยที่อยู่ต่างแดนและชาวต่างชาติที่เขาอยากลองประสบการณ์ขนมไทยต่อยอดจากธุรกิจอาหารไทยที่ได้รับความนิยมอย่างสูง!!

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ