เด้งรับเลือกตั้ง! สูงสุดรอบ 6 ปี ดัชนีอุตสาหกรรมเดือน ก.พ.พุ่ง

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เด้งรับเลือกตั้ง! สูงสุดรอบ 6 ปี ดัชนีอุตสาหกรรมเดือน ก.พ.พุ่ง

Date Time: 22 มี.ค. 2562 08:21 น.

Summary

ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.พ. เด้งรับเลือกตั้งสูงสุดในรอบ 6 ปี ส.อ.ท.หวังหลังเลือกตั้งตั้งรัฐบาลใหม่ได้ เศรษฐกิจในประเทศเติบโตแน่นอน เตรียมเสนอสมุดปกขาวแนะเร่งฟื้นแรงซื้อในประเทศ

Latest

คนไทยรัก ต่างชาติหลง รวม 8 แบรนด์ไทยสร้างภาพจำระดับโลก ปี 2025

ส.อ.ท.ชงสมุดปกขาวรัฐบาลใหม่ฟื้นเศรษฐกิจ

ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.พ. เด้งรับเลือกตั้งสูงสุดในรอบ 6 ปี ส.อ.ท.หวังหลังเลือกตั้งตั้งรัฐบาลใหม่ได้ เศรษฐกิจในประเทศเติบโตแน่นอน เตรียมเสนอสมุดปกขาวแนะเร่งฟื้นแรงซื้อในประเทศ เพื่อยกระดับราคาสินค้าเกษตร ชี้เอกชนยังห่วงค่าบาทแข็ง

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมประจำเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ดัชนีอยู่ระดับ 95.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 93.8 เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค. โดยเป็นค่าดัชนี ที่สูงสุดในรอบ 72 เดือน หรือ 6 ปีนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2556 ที่มาจากปัจจัยหลักจากความต้องการบริโภค ในประเทศที่เพิ่มขึ้น สะท้อนจากความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศของกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ก่อสร้าง ยานยนต์ โดยได้แรงหนุนจากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ รวมทั้งกิจกรรมต่างๆในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งส่งผลดีต่อการใช้จ่ายในประเทศโดยเฉพาะสิ่งพิมพ์ ยานยนต์ อาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ

ทั้งนี้ เชื่อว่าหากการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลดำเนินไปด้วยความสงบเรียบร้อยแล้ว การลงทุนและเศรษฐกิจภายในประเทศจะดีขึ้นแน่นอน โดยส่วนของภาคเอกชนมองว่า หน้าตาของรัฐบาลที่จะเหมือนในปัจจุบันคงเป็นไปได้ยาก เพราะจะต้องมีนักการเมืองเข้ามาเพิ่มเติม แต่นโยบายหลักๆ จะคงเดิม อาทิ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และสิ่งที่เอกชนต้องการให้รัฐบาลใหม่เร่งดำเนินการคือ การดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนฐานรากให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ยกระดับราคาสินค้าเกษตร และลดความเหลื่อมล้ำ ส่วนในแง่อุตสาหกรรมต้องการให้รัฐมองเอกชนเป็นกำลังหลักในการทำงานร่วมกับรัฐบาล เป็นต้น

“ในสัปดาห์นี้ ส.อ.ท.จะจัดส่งสมุดปกขาวที่เป็นนโยบายของ ส.อ.ท. ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่รับไปพิจารณาบรรจุเป็นนโยบายการทำงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ไปให้กับพรรคการเมืองทุกพรรคเพื่อนำไปพิจารณาประกอบการดำเนินงานหากมีการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคตที่จะยกระดับรายได้ประเทศ โดยในช่วงที่ผ่านมา เอกชนเองได้ทำงานร่วมกับภาครัฐและได้นำสิ่งดีๆเข้ามา เช่น การยกเลิกต่ออายุใบอนุญาตโรงงานอุตสาหกรรม หรือ รง.4 รวมทั้งการลดภาษีนิติบุคคล ฯลฯ”

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของ ส.อ.ท. ที่ตอบแบบสอบถาม ยังคงมีความกังวลต่อความผันผวนของค่าเงินบาททำให้กระทบต่อการวางแผนและการกำหนดราคา รวมทั้งการส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก สะท้อนจากค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯของยอดคำสั่งซื้อและยอดขายในต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง

ส่วนกรณีที่กรมสรรพสามิตเตรียมส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) โดยยกเว้นภาษี 3 ปี หรือคิดเป็น 0% เป็นมาตรการชั่วคราวที่ให้เพิ่มจากการส่งเสริมของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อกระตุ้นให้ผลิตทันทีภายในปี 2564 ส.อ.ท.มองว่า แม้ว่าภาษีจะเป็น 0% ก็ยังไม่ได้จูงใจให้เกิดการผลิตหรือประชาชนมีความ ต้องการซื้อ เนื่องจากราคารถยนต์ก็ยังคงอยู่ในระดับแพงมาก ประกอบกับสถานีชาร์จแบตเตอรี่ก็ยังมีไม่มากพอ

ดังนั้น รัฐบาลควรบังคับให้รถยนต์โดยสารสาธารณะทั้งหมดปรับไปสู่โหมดอีวีก่อนนำร่องเพื่อสร้างตลาดและพัฒนาชิ้นส่วนในประเทศ ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคล เห็นว่าควรกำหนดว่าหากซื้อรถอีวีที่เป็นการผลิตในประเทศสามารถนำมาหักภาษีได้จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ