กรมการค้าภายในดันเที่ยวตลาดประชารัฐ หนุนความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

กรมการค้าภายในดันเที่ยวตลาดประชารัฐ หนุนความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก

Date Time: 11 มี.ค. 2562 18:35 น.

Video

จุดจบธุรกิจ Forever 21 รุ่งแค่ไหนก็ร่วงได้ | BrandStory EP.17

Summary

  • กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นำคณะสื่อมวลชน ร่วมสัมผัส มนต์เสน่ห์ตลาดประชารัฐต้องชม ยลถิ่นแดนใต้ เส้นทางพัทลุง-สงขลา หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวตลาดประชารัฐต้องชม สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น

Latest


กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นำคณะสื่อมวลชน ร่วมสัมผัส มนต์เสน่ห์ตลาดประชารัฐต้องชม ยลถิ่นแดนใต้ เส้นทางพัทลุง-สงขลา หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวตลาดประชารัฐต้องชม สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 11 มี.ค.62 นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในเดินหน้าผลักดันการพัฒนาตลาดชุมชนอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ “ตลาดประชารัฐต้องชม” ภายใต้แนวคิด “เอกลักษณ์พาณิชย์ อัตลักษณ์ของชุมชน” ตั้งแต่ปี 2559 ปัจจุบันส่งเสริมเป็นตลาดประชารัฐต้องชมแล้ว จำนวน 229 แห่งทั่วประเทศ สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการจำนวน 32,245 ราย โดยปี 2561 ตลาดประชารัฐต้องชมมีมูลค่าการซื้อขาย กระจายรายได้สู่ชุมชนกว่า 1,276 ล้านบาท นอกจากนี้กรมฯ ได้ขยายผลและยกระดับตลาดประชารัฐต้องชมโดยเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว เพื่อให้คนทุกเพศทุกวัย ทั้งไทยและต่างชาติ ได้สัมผัสถึงเสน่ห์ และอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นที่น่าสนใจ ภายใต้แนวคิด “ตลาดเที่ยวได้...สไตล์ไทยๆ” เมืองไทยมีดี วิถีชุมชน เพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจจากการบริโภคภายในประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนให้มีความเข้มแข็งในระยะยาว รวมทั้งสร้างช่องทางการจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน และเพิ่มขีดความสามารถให้กับชุมชนในพื้นที่มากขึ้น

สำหรับครั้งนี้ กรมการค้าภายในได้นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมตลาดประชารัฐต้องชม ซึ่งได้สร้างความประทับใจในการได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน และสินค้าท้องถิ่น ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ซึ่งแต่ละตลาดล้วนแล้วแต่มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ตลาดประชารัฐต้องชมในจังหวัดพัทลุงและสงขลาล้วนแล้วแต่เป็นตลาดคุณภาพระดับเกรด A ซึ่งเป็นตลาดที่มีความพร้อมในทุกด้าน ได้แก่ โครงสร้างตลาดและทัศนียภาพ ความสะอาด การมีส่วนร่วมของชุมชน มีกิจกรรมของตลาดที่แสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตในท้องถิ่น โดยในทั้ง 2 จังหวัด มีตลาดประชารัฐต้องชม จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ ตลาดใต้โหนด ตลาดป่าไผ่สร้างสุข ตลาดกรีนมุ้งมิ้ง และตลาดนัดต้นไม้ชายคลอง จังหวัดพัทลุง และตลาดริมน้ำคลองแดน ตลาดน้ำคลองแห ตลาดเกษตร มอ. และตลาดสยาม จังหวัดสงขลา ซึ่งตลาดริมน้ำคลองแดนในอดีตเป็นศูนย์กลางทางการค้าขายทางน้ำที่ยิ่งใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 3 คลอง 2 จังหวัด ที่รุ่งเรืองมาก แต่เมื่อมีถนนตัดผ่านรูปแบบการค้าและการขนส่งจึงเปลี่ยนแปลงไป เจ้าอาวาสและคนในชุมชนจึงได้ฟื้นฟูจุดเด่นดั้งเดิมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในนาม “ชุมชนวิถีพุทธคลองแดน” โดยภายในตลาดมีห้องแถวเก่าเรียงรายริมแม่น้ำ มีสะพานไม้เชื่อมสองฝั่งคลอง และมีสินค้าอาหารมากมาย

ตลาดน้ำคลองแห ซึ่งเป็นตลาดน้ำเชิงวัฒนธรรมแห่งแรกของภาคใต้ ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองตรงข้ามกับวัดคลองแห ภายในตลาดผสมผสานระหว่างตลาดน้ำที่จำหน่ายสินค้าในเรือและตลาดโบราณที่จำหน่ายสินค้าบนบก เป็นตลาดที่นำเอาอาหารพื้นเมือง สินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น และผลิตผลทางการเกษตรมาจำหน่าย โดยมีชาวบ้านภายในท้องถิ่นเป็นผู้จำหน่ายและให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเพิ่มเสน่ห์กลิ่นอายโบราณด้วยการแต่งกายชุดไทยพื้นบ้านและภาชนะธรรมชาติ อาทิ ภาชนะใส่อาหารจำพวก กะลา กระบอกไม้ไผ่ หม้อดินเผาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ตลาดใต้โหนด ตลาดนัดพื้นบ้านสีเขียวสุดเก๋ไก๋ให้ชาวบ้านนำสินค้าปลอดสารพิษ อาหารพื้นเมือง ที่มีความสดสะอาด และสินค้าแฮนด์เมคมาจำหน่ายภายใต้คอนเซปต์ "กินดี มีสุข" สอดคล้องกับวิถีชีวิตภูมินิเวศน์ ป่า นา เล ของชาวใต้ ตลาดกรีนมุ้งมิ้ง ตลาดชุมชนในพื้นที่ร้านค้าแบบไทย

โดยทีมงานเครือข่ายกินดี มีสุข พัทลุง ร่วมกับร้านค้าแบบไทย เปิดพื้นที่อาคารแบบไทยและอำนวยความสะดวก โดยมีเจตนาเป็นการให้เพื่อคืนกำไรสู่สังคมและร่วมกับชุมชนกำหนดทิศทางพัฒนาตลาด โดยเน้นสุขภาพ ธรรมชาติ และการอนุรักษ์วิถีไทย พร้อมกันนี้ยังร่วมกันอนุรักษ์ขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง เอกลักษณ์ถิ่นปักษ์ใต้ และรณรงค์การปรุงอาหารปลอดผงชูรส หลีกเลี่ยงการรับประทานสัตว์ใหญ่ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งชุมชนเป็นผู้ผลิต มีพืชผัก ผลไม้พื้นบ้าน งานทำมือ หัตถกรรมประยุกต์ร่วมสมัย เป็นต้น

โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาเป็น “ตลาดประชารัฐต้องชม” ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ
1. สถานที่ โดยพิจารณาถึงทำเลที่ตั้ง ความสะอาด สาธารณูปโภคพื้นฐาน สุขาภิบาลตลาด 2. สินค้า เป็นสินค้าพื้นถิ่น มีความหลากหลาย และเป็นผลผลิตจากคนในชุมชน 3. การประกอบการค้า มีความเป็นธรรมทางการค้า 4. ความพร้อมของตลาด การให้ความร่วมมือกับภาครัฐ และ 5.ลักษณะเฉพาะที่เป็นจุดเด่นของตลาดทั้งด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยวหรือกิจกรรมสนับสนุนวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งกรมฯ ได้มีการจัดเกรดตลาดประชารัฐต้องชม เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาแต่ละตลาดแตกต่างกันตามการจัดแบ่งกลุ่มตลาด 3 เกรด คือ เกรด A เกรด B และเกรด C ตามสภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก ความพร้อมและความต้องการของตลาด โดยได้กำหนดกรอบแนวทางในการพัฒนาตลาดแต่ละเกรดไว้ด้วยแล้ว

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ 2562 กรมฯ มีแผนส่งเสริมจัดตั้งตลาดประชารัฐต้องชมแห่งใหม่ จำนวน 10 แห่ง พร้อมจัดกิจกรรมและการประชาสัมพันธ์ต่างๆ อาทิ กิจกรรมกระตุ้นและเชื่อมโยงการซื้อขายสินค้าชุมชน การจัดงานตลาดประชารัฐต้องชม EXPO การจัดกิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพการเป็นตลาดท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมเส้นทางท่องเที่ยวตลาด การจัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาองค์ความรู้และศักยภาพผู้ประกอบการในตลาด และการประชาสัมพันธ์ตลาดประชารัฐต้องผ่านช่องทางสื่อออนไลน์และออฟไลน์ต่างๆ

กรมฯ ตั้งใจดำเนินโครงการนี้ โดยมุ่งหวังให้นักท่องเที่ยวได้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่จะได้สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในชุมชน ได้ชมสินค้าของดีของเด่นของจังหวัด ได้ชิมอาหารพื้นถิ่นที่บางรายการหาทานได้ยาก และได้อิ่มกับศิลปวัฒนธรรมผ่านการแสดงของเยาวชนในชุมชน จึงขอเรียนเชิญทุกท่านเข้ามาเที่ยวชมตลาด และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจชุมชน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ