“สมคิด” ปลื้มอีอีซีจุดติดแล้ว “บีโอไอ” โชว์ต่างชาติขอลงทุนทะลุ 9 แสนล้าน

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“สมคิด” ปลื้มอีอีซีจุดติดแล้ว “บีโอไอ” โชว์ต่างชาติขอลงทุนทะลุ 9 แสนล้าน

Date Time: 10 ม.ค. 2562 09:32 น.

Summary

  • “สมคิด” ปลื้มคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 61 ทะลุ 9 แสนล้าน สูงกว่าเป้า 25% ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้า 7.5 แสนล้าน มุ่งเน้นคุณภาพของนักลงทุนมากขึ้น

Latest

ซีคอนฯ ทุ่ม 2,500 ล้าน เปิดตัว “MyScape” พร้อมปรับโฉม 2 ห้างใหญ่ หวังเป้ารายได้ปี 68 โต 10%

“สมคิด” ปลื้มคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 61 ทะลุ 9 แสนล้าน สูงกว่าเป้า 25% ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้า 7.5 แสนล้าน มุ่งเน้นคุณภาพของนักลงทุนมากขึ้น พร้อมเดินหน้าอัดสิทธิประโยชน์จูงใจนักลงทุนสร้างความเจริญให้ท้องถิ่น คุยฟุ้งมั่นใจ “อีอีซี” จุดติดไปแล้ว

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังมอบนโยบายการทำงานและการส่งเสริมการลงทุนในปี 2562 ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่า ในปีนี้บีโอไอได้ตั้งเป้าหมายมูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนไว้ที่ 750,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เพราะสถานการณ์โลกมีความไม่แน่นอน จึงไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้สูง แต่ปีนี้จะเน้นคุณภาพของนักลงทุน โดยต้องการเห็นบทบาทของบีโอไอในการสร้างความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างการพัฒนาและความเจริญในท้องถิ่นและภูมิภาคให้มากขึ้น นอกเหนือจากการดึงดูดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเหมือนที่ผ่านมา เพราะการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ได้เห็นการเติบโตมากขึ้น

“ต่อไปนี้ จะให้บีโอไอเน้นส่งเสริมเป็นพิเศษ ในธุรกิจที่มีการลงทุนแล้ว ไปสร้างความเจริญในการพัฒนาท้องถิ่น เช่น ธุรกิจเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม การพัฒนาวิสาหกิจชุมชน การตลาด การผลิต การสร้างบุคลากรในท้องถิ่น รวมถึงเส้นทางคมนาคม การท่องเที่ยวที่สร้างงานสร้างรายได้ในเมืองรอง และด้านการศึกษา โดยต้องการให้ธุรกิจเหล่านี้ ได้สิทธิประโยชน์สูงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการพัฒนาการท่องเที่ยวจะสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจได้มาก ซึ่งขณะนี้สัดส่วนการท่องเที่ยวอยู่ที่ 18-19% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แล้วจากเดิมอยู่ที่ประมาณ 15%”

นอกจากนี้ จะให้บีโอไอเน้นการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคใต้ (เอสอีซี) ใน 4 จังหวัด คือ ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช รวมถึงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ต้องการสร้างศูนย์กลางเทคโนโลยีชีวภาพหรือไบโอฮับด้วย

นายสมคิด ยังกล่าวถึงตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปี 2561 ที่มีมูลค่ารวม 901,770 ล้านบาท ว่า เป็นที่น่ายินดีที่ตัวเลขเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งในด้านจำนวนโครงการและมูลค่าที่นักลงทุนยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่รัฐบาลโปรโมตขึ้นมาถือว่าจุดติดแล้ว ปริมาณคำขอลงทุนในอีอีซีขยายตัวมาก อย่างไร ก็ตาม เนื่องจากรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ต้องอยู่ไปจนถึงเดือน พ.ค.2562 ยังมีเวลาอีก 5 เดือน ภายใต้ภาวการณ์ที่โลกมีความไม่แน่นอน ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีแรกต้องระมัดระวัง ดูแลและประคองเศรษฐกิจไป จึงต้องการให้บีโอไอทำงานอย่างกระตือรือร้นในช่วงครึ่งปีแรก เพราะว่าในภาวะที่โลกไม่แน่นอน การแข่งขันเพื่อดึงดูดนักลงทุนสูงมากและนักลงทุนจะมีแหล่งให้เลือกในการลงทุนมาก ดังนั้นหากรอให้มีการเลือกตั้งก่อนจะแพ้ประเทศอื่น

นายสมคิด กล่าวต่อว่า หลังจากทางจีนและญี่ปุ่นประชุมหารือเรื่องแนวทางการลงทุนเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้วและมีนโยบายที่จะไม่แข่งขันกันอย่างไม่สร้างสรรค์ จะร่วมมือกันในการลงทุนในประเทศที่สาม พร้อมระบุว่า ประเทศ ไทยเป็นประเทศแรกที่สนใจจะมาลงทุน ล่าสุดทางองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือเจโทร แจ้งว่า เจโทรอยู่ระหว่างดำเนินการจัดประชุมร่วมกันของนักลงทุนจีน ญี่ปุ่นและไทยเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยประมาณเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งบีโอไอและกระทรวงพาณิชย์ต้องเตรียมการให้ดี

ด้าน น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการบีโอไอกล่าวว่า ยอดการขอรับส่งเสริมการลงทุนในปี 2561 มี 1,626 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 901,770 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 720,000 ล้านบาท หรือ 25% และมากกว่าปี 2560 คิดเป็น 43% โดยภาพรวมของโครงการที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนในปี 2561 พบว่า อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นส่วนใหญ่คิดเป็น 84% หรือมูลค่าเงินลงทุนกว่า 758,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-curve) ได้แก่ ดิจิทัล การแพทย์ ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และอากาศยาน เงินลงทุนรวม 539,000 ล้านบาท และ 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายเดิม (First S-Curve) ได้แก่ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน ท่องเที่ยว และแปรรูปอาหาร เงินลงทุนรวม 219,000 ล้านบาท

สำหรับการขอรับส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี พบว่า มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริม 422 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 683,910 ล้านบาท เป็นคำขอลงทุนในพื้นที่ จ.ชลบุรีมากที่สุด 193 โครงการ เงินลงทุนรวม 576,910 ล้านบาท ตามด้วย จ.ระยอง 156 โครงการ เงินลงทุนรวม 58,700 ล้านบาท และ จ.ฉะเชิงเทรา 73 โครงการ เงินลงทุนรวม 48,300 ล้านบาท.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ