
"โออิชิ" เปิดกลยุทธ์ปี 62 ทุ่ม 1,000 ล้าน รุกธุรกิจ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม และอาหารพร้อมทานเต็มสูบ ลุยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ของคนรักสุขภาพ เผยเครื่องดื่มโออิชิมาแรงที่สุดในกัมพูชา
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI เปิดเผยว่า ธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มในตลาดอาเซียนรวมทั้งไทย ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ที่หลากหลาย
ส่วนภาพรวมของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มโออิชิในช่วงปีที่ผ่านมา เรายังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นได้อย่างแข็งแกร่ง และต่อเนื่อง โดยแผนธุรกิจในปี 2562 เรายังเน้นการพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์เมกะเทรนด์ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ และมุ่งเน้นขยายธุรกิจไปสู่ตลาดอาเซียน
อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 เราเตรียมงบประมาณเพื่อขับเคลื่อน 3 กลุ่มธุรกิจจำนวน 1,000 ล้านบาท เช่น เครื่องดื่ม ร้านอาหาร และอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานที่จะปรับหีบห่อใหม่ สำหรับยอดขายในปี 2561 อยู่ที่ 12,596 ล้านบาท กำไรอยู่ที่ 1,008 ล้านบาท
ขณะนี้ในตลาดกัมพูชาและลาว ชาเขียวโออิชิ ก็เป็นที่ 1 สำหรับเป้าหมายในระยะยาวก็อยากจะเป็นที่ 1 ในทุกที่แต่จะยังคงเน้นขายในประเทศ และเชื่อว่าปีหน้าตลาดของทั้ง 3 ธุรกิจจะกลับมาฟื้นแน่นอน
เครื่องดื่มโออิชิ ยังครองมาร์เก็ตแชร์ทิ้งห่างคู่แข่ง
นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปี 2561 นี้นับเป็นปีที่ท้าทายของโออิชิ กรีนที ที่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากภาษีสรรพสามิต ที่ส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง ตลาดรวมชาเขียวพร้อมดื่มหดตัว แต่การวางแผนรับมืออย่างดีทำให้โออิชิสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่องด้วย ส่วนแบ่งการตลาดที่ 45.4% (ข้อมูลจาก: Nielsen เฉลี่ย 12 เดือน ล่าสุดถึงตุลาคม 2561)
ขณะเดียวกัน ในส่วนของตลาดต่างประเทศ เราก็ประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน โดยตลาดกัมพูชา เราเติบโตถึง 59% ส่วนที่ลาว เราก็เข้าไปบุกเบิกจากการสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดที่เหมาะกับแต่ละประเทศ รวมทั้งออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบรับกับความชื่นชอบของผู้บริโภคท้องถิ่น อาทิ โออิชิรสทับทิม และโออิชิ องุ่นเคียวโฮ นำร่องทำตลาดในประเทศลาว เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นเป็นหลัก
สำหรับกลยุทธ์ในปี 2562 เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดชาเขียวพร้อมดื่มให้ได้อย่างต่อเนื่อง เราจะมุ่งเน้นไปที่ 1. เพิ่มการบริโภคชาเขียว (Penetration) โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของผู้บริโภค และสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดที่สร้างความแปลกใหม่โดนใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
โดยโฟกัสผลิตภัณฑ์กลุ่ม Healthy Premium เพื่อตอบรับแนวโน้มเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพที่เริ่มมีมากขึ้นในปัจจุบัน ส่งสุดยอดชาพรีเมียมใหม่ ดีต่อสุขภาพ เอาใจกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ ได้แก่ โออิชิ โกลด์ เก็นไมฉะ ชาข้าวคั่วญี่ปุ่นสูตรเฉพาะตั้งแต่ปี 1930 โดยมีส่วนผสมจากข้าวคั่วญี่ปุ่นชั้นดี และยอดอ่อนใบชาคุณภาพนำเข้า 100% จากไร่ชา มัตสึดะ เมืองโอมาเอะซากิ ประเทศญี่ปุ่น ไร่ชาระดับรางวัลจักรพรรดิญี่ปุ่น The Emperor’s Cup เป็นแหล่งปลูกชา พรีเมี่ยมมานานกว่า 100 ปี รวมทั้ง โออิชิ โกลด์ คาบูเซฉะ ชาที่ถูกปกคลุมเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อรักษารสชาติและคงคุณประโยชน์จากสารคาเทชินที่ช่วยเพิ่มการต้านอนุมูลอิสระ
2. ตอกย้ำและครองใจกลุ่มวัยรุ่นด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความแปลกใหม่และความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง อย่าง โออิชิ รสน้ำผึ้งผสมมะนาว สูตรดับเบิ้ลเลมอน ชูจุดเด่นด้วยความเปรี้ยวจี๊ดจากเลมอน 2 เท่าและลดความหวานลง
โดยใช้ BNK48 เป็นพรีเซ็นเตอร์ ด้วยความเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีคาแรกเตอร์ความเป็นญี่ปุ่น สนุกสนาน ตรงกับแบรนด์ ดีเอ็นเอของโออิชิ จึงสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและโดนใจวัยรุ่นได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
3. มุ่งเน้นสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจผู้บริโภคท้องถิ่น จัดกิจกรรมการตลาดแบบ customized ให้โดนใจคอนซูมเมอร์ในแต่ละประเทศ เพื่อผลักดันให้โออิชิเป็นแบรนด์ในดวงใจผู้บริโภคในต่างประเทศ ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ระดับ Regional ของโออิชิ
ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจอาหาร King of Japanese Food
นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในรอบปีที่ผ่านมาธุรกิจอาหาร กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น โออิชิ สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมาย จากการกำหนดแผนกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ จึงสร้างการเติบโตทั้งรายได้และผลกำไร
อีกทั้งขยายสาขาได้ครอบคลุม ปรับโฉมแบรนด์คอนเซปต์ร้านอาหารรูปแบบใหม่ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการจากการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและการส่งมอบคุณภาพสินค้าและบริการที่ประทับใจ
สำหรับปี 2562 นี้ เราตั้งเป้าหมายรักษาความเป็น เจ้าตำรับอาหารญี่ปุ่น (King of Japanese Food) อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน พร้อมกำหนด 3 กลยุทธ์หลักขับเคลื่อนธุรกิจ ประกอบด้วย
1. Driving Organic Growth มุ่งเน้นสร้างคุณค่าของสินค้าและบริการ เพื่อการเติบโตที่มั่นคงยั่งยืน
2. Driving Operational Excellence มุ่งเน้นพัฒนากระบวนการทำงานด้านต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
3. Store Expansion มุ่งเน้นขยายพื้นที่ให้บริการและสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ ๆ ผ่านการผนึกกำลังกับทุกแบรนด์ในเครือ พร้อมประยุกต์รูปแบบการขยายธุรกิจมาสู่โมเดลธุรกิจร้านอาหารที่มีขนาดเล็กลงแต่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถเลือกเปิดได้ในทำเลที่น่าสนใจ เจาะตลาดจังหวัดเมืองรอง เข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้มากยิ่งขึ้น
ในส่วนของร้านอาหารจะเปิดเพิ่ม 19 สาขา เน้นเปิดหัวเมืองรอง อีกทั้งมีการเน้นการดิลิเวอรี่ทำให้พื้นที่ของร้านถูกปรับขนาดให้เล็กลง และเปิดนอกห้างสรรพสินค้า เพื่อให้สะดวกต่อการให้บริการ รวมทั้งจะลดเวลาในการจัดส่งจาก 45 นาที เหลือเพียง 30 นาที ปัจจุบันมี 56 สาขาที่เป็นเดลิเวอรี่
ลุยธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง-พร้อมทานเต็มสูบ
นางสาวเมขลา เนติโพธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง พร้อมทานได้เข้ามามีบทบาทกับวิถีชีวิตของคนในชุมชนเมืองมากขึ้น นับเป็นโอกาสและความท้ายทายของธุรกิจอาหาร โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารสำเร็จรูป ทั้งแบบ Ready-To-Cook(พร้อมปรุง) และแบบ Ready-To-Eat (พร้อมทาน) ในปี 2562 นี้
ทั้งนี้ เราตั้งเป้าสร้างแบรนด์อาหารสำเร็จรูป โออิชิ ให้แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักมากขึ้นภายใต้กลยุทธ์ One Brand หรือ การสร้างแบรนด์ภายใต้ร่มแบรนด์ใหญ่เดียวกัน สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันให้กับแบรนด์ ควบคู่ไปกับการบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายและการกระจายสินค้าเชิงรุกผ่านการผนึกกำลังกับพันธมิตรกลุ่มธุรกิจในเครือ
โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดขายทั้งในช่องทางหลักซึ่ง ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ และมุ่งเน้นเจาะตลาดใหม่ ได้แก่ OMT (Other Modern Trade) Food Service และ HORECA ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาส 2/2562 เป็นต้นไป