แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่ตลาดนาฬิกาทั่วโลกและไทยยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องมาจากกลุ่มคนที่ซื้อนาฬิกาส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงเป็นกลุ่มนักสะสม, กลุ่มมิลเลนเนียลซึ่งคุ้นหูกันในกลุ่มเจนวาย ตลอดจนกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ซื้อนาฬิกาเพื่อการลงทุนในระยะยาว
เพราะนาฬิกาจะมีการปรับราคาขึ้นทุกปี และมีการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณค่า เช่น ทอง เพชร ทองคำขาว ซึ่งยิ่งเพิ่มมูลค่าและราคาให้กับนาฬิกา โดยเฉพาะที่เป็นเรือนลิมิเต็ด อิดิชัน หรือนาฬิการุ่นหายาก จะยิ่งมีมูลค่าสูงมากเมื่อเวลาผ่านไป
สำหรับประเทศไทย อัตราการเติบโตของตลาดนาฬิกาจะอยู่ในไตรมาสสุดท้าย เพราะกำลังซื้อจะถูกกระตุ้นด้วยงานมหกรรมนาฬิกาที่ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และเป็นที่รอคอยของผู้ซื้อนาฬิกา เพราะจะได้ครอบครองนาฬิกาคอลเลกชันใหม่
กับโปรโมชันดีๆที่ผูกกับค่ายบัตรเครดิตต่างๆ และมอบส่วนลดสูงสุดถึง 70 เปอร์เซ็นต์เพื่อเป็นแรงจูงใจในการซื้อ
ห้างเซ็นทรัล ผู้ ริเริ่มการจัดมหกรรมนาฬิกาประจำปีที่ยิ่งใหญ่ในประเทศไทย จนกลายเป็นสุดยอดมหกรรมนาฬิกาแห่งภูมิภาคเอเชีย พร้อมตอกย้ำความเป็นกูรูงานนาฬิกาอีกครั้ง ผนึกค่ายนาฬิกาชั้นนำ ได้จัดงาน Central/ZEN International Watch Fair 2018 มหกรรมนาฬิกาสุดยิ่งใหญ่แห่งเอเชียประจำปี ครั้งที่ 20 ณ ดิ อีเวนต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม ระหว่างวันนี้ถึง 17 ก.ย.61 และแผนกนาฬิกา ห้างเซ็นทรัลทุกสาขาและเซน ถึงวันที่ 30 ก.ย.61
รวมสุดยอดนาฬิกาจากแบรนด์ดังระดับโลก และแบรนด์เอกซ์คลูซีฟเฉพาะห้างเซ็นทรัล นำคอลเลกชันใหม่ล่าสุด หรือลิมิเต็ด อิดิชัน ส่งตรงจากงานแสดงนาฬิการะดับโลกบาเซิลเวิลด์ และงานเอสไอเอชเอช ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มารวมไว้ในงานนี้ กว่า 180 แบรนด์ มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท
นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ตลาดนาฬิกาในประเทศไทยยังไปได้สวย ส่วนหนึ่งมาจากการนำเข้านาฬิกาที่มีลูกเล่น กลไก และดีไซน์ที่สวยงาม ด้วยการปรับตัวของบริษัทแม่ที่จะผลิตนาฬิกาให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ซื้อมากที่สุด ซึ่งนาฬิกาเหล่านี้แม้จะมีราคาที่สูงเป็นหลักล้าน แต่ก็เป็นที่ต้องการของกลุ่มนักสะสม นักลงทุน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ในประเทศจีนมีภาษีนำเข้าถึง 30% ต่างจากประเทศไทยที่มีภาษีนำเข้า 5% และยังมีส่วนลด โปรโมชันต่างๆอีกมากมาย
“ในปีนี้ได้จัดภายใต้คอนเซปต์ครบ ใหม่ คุ้ม ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ครบทุกเทรนด์และระดับราคาใหม่ คือ คอลเลกชันล่าสุดจาก 2 งานนาฬิการะดับโลกบาเซิลเวิลด์ และงานเอสไอเอชเอช ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะมาถึงประเทศไทยในช่วงเวลานี้พอดี และคุ้มทุกการช็อป นาฬิกาทุกเรือนจากงานนี้ จะได้รับข้อเสนอ ดีที่สุด คุ้มที่สุดในรอบปี กับทุกสิทธิพิเศษที่ลูกค้าจะได้รับจากบัตรเครดิตชั้นนำ”
ทางเซ็นทรัลได้ใช้กลยุทธ์ Target Marketing เพื่อมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง ตามไลฟ์สไตล์หรือความสนใจเฉพาะของลูกค้า ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ครอบคลุมทั้ง 360 องศา ไม่ว่าช่องทางไหน ลูกค้าก็รับรู้ข่าวสารได้ตลอดเวลา ทั้งลูกค้าในและต่างประเทศ สำหรับในประเทศไทย เราสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคผ่านสื่อทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1,200,000 คน,ไอจี มากกว่า 55,000 คน และแอปไลน์ กว่า 6 ล้านคนสำหรับการสื่อสารกับลูกค้าต่างชาติ
นอกจากนี้ยังมีบริการใหม่ล่าสุดที่ห้างเซ็นทรัลริเริ่มเป็นห้างแรกในประเทศไทย คือ Central on Demand ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนชื่อเป็น Central Chat & Shop ให้ช็อปปิ้งผ่านแอปไลน์ด้วยการแชตสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าในห้างเซ็นทรัลและเซนกับพนักงานได้โดยตรงเหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้าอยู่ที่ 2 แสนคน ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 5 แสนคน ภายในสิ้นปี โดยมีออเดอร์เข้ามา 400-500 ออเดอร์ต่อเดือน นับเป็นอีกช่องทางที่สะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
สำหรับภาพรวมของการจัดงานในครั้งนี้ ทางเซ็นทรัลตั้งเป้าว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน หรือประมาณ 500 ล้านบาท ถือว่าเติบโตมากกว่าจีดีพีของประเทศ และจะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อของชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น
ไม่แปลกใจที่ตลาดนาฬิกายังคงไปได้สวย นอกจากเป็นเครื่องบอกเวลาและสถานะทางสังคม นาฬิกายังเป็นอีกหนึ่งช่องทางการลงทุนที่น่าจับตามอง.
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th