ยุทธศักดิ์ สุภสร
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้จัดกิจกรรม “อะเมซซิ่ง ไทยแลนด์ ลักชัวรี เทรด มีท” เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อเป็นเวทีเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการชาวไทย ที่เกี่ยวข้องกับสินค้ากลุ่มลักชัวรี 35 ราย อาทิ โรงแรมและรีสอร์ต สปา บริษัทนำเที่ยว สายการบิน กับผู้ซื้อซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทนำเที่ยวที่ทำตลาดลักชัวรี เพื่อสร้างฐานตลาดไฮเอนด์ให้กับไทย ตามเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่อหัวของนักท่องเที่ยว มุ่งสู่การทำรายได้มากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยว โดยมีผู้ซื้อเข้ามาร่วมงานจากเอเชียตะวันออก นำโดย จีนมากที่สุด 12 ราย ตามด้วยจากอาเซียน, เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้ 9 ราย, สหภาพยุโรป, แอฟริกาและตะวันออกกลาง 10 ราย และสหรัฐฯ 4 ราย ซึ่งทุกตลาดมีศักยภาพ แต่ในด้านการเติบโตที่รวดเร็ว ต้องจับตามองตลาดเอเชีย โดยเฉพาะจีน ที่ ททท.มีกลยุทธ์เข้าไปจับกลุ่มเศรษฐีในเมืองหลัก เช่น ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้
ทั้งนี้ ททท.มีเป้าหมายให้ทุกสำนักงานต่างประเทศ เพิ่มฐานตลาดกำลังซื้อสูงให้มีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งแต่เดิมได้กำหนดโดยการใช้เกณฑ์รายได้ประชากรไม่ต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี (1.89 ล้านบาท) แต่ปัจจุบันพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป เช่น บางคนที่มาใช้จ่ายระหว่างท่องเที่ยวในไทย อาจเป็นคนที่มีรสนิยมสูง แต่ฐานรายได้ไม่ได้สูงถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จึงต้องเน้นไปที่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยว และวางเครือข่ายการทำตลาดให้เข้าถึงคนกลุ่มที่มีกำลังจับจ่ายในระดับสูง
“การใช้เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพจะทำให้ ททท.ประสบความสำเร็จ เช่น การจัดงานไทยแลนด์ ลักชัวรี ส่วนการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องคือ การเข้ามาทำงานร่วมกับธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มลักชัวรี เช่น โรงแรมระดับ 5-6 ดาว เพื่อร่วมทำตลาดเข้าถึงลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานสากลควบคู่ไปกับเอกลักษณ์ของความเป็นไทย”.