พาณิชย์ สั่งสอบห้างค้าปลีก ขึ้นราคาทีวี ฉวยโอกาสช่วง ”ช็อปช่วยชาติ” เอาเปรียบผู้บริโภค พร้อมถอดร้านธงฟ้าประชารัฐ 7 แห่ง ทำผิดเงื่อนไข พร้อมลุยต่อ เฟส 2 หนุนขายสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน-โอทอป...
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในตรวจสอบพฤติกรรมห้างค้าปลีกรายหนึ่ง หลังถูกผู้บริโภคร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมฉวยโอกาส โดยได้เปลี่ยนแปลงราคาขายโทรทัศน์ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นราคาหลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการช็อปช่วยชาติ ถือเป็นพฤติกรรมที่เอาเปรียบประชาชน โดยหากผลตรวจสอบออกมาแล้วพบว่า กระทำผิดจริงจะถูกลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังได้ให้ทำหนังสือไปถึงผู้ประกอบการห้างร้านทั้งหมด รวมถึงผู้ผลิตสินค้า ที่เข้าร่วมโครงการช็อปช่วยชาติ เพื่อแจ้งเตือนไม่ให้ฉวยโอกาสและมีพฤติกรรมเอาเปรียบประชาชน
“กรณีนี้ ผู้บริโภคร้องเรียนว่า ห้างค้าปลีกรายหนึ่ง เดิมติดป้ายขายราคาทีวีเท่านี้ แต่พอรัฐบาลออกมาตรการช็อปช่วยชาติ กลับเปลี่ยนป้ายแสดงราคาขายสูงขึ้น หากอ้างว่าเป็นการจัดโปรโมชั่น โดยการเปลี่ยนแปลงราคาเพราะยกเลิกโปรโมชั่น ก็ต้องพิสูจน์ว่าการจัดโปรโมชั่นมีกำหนดระยะเวลาถึงเมื่อใด หากเดิมประกาศจัดโปรโมชั่นเลยวันเริ่มต้นช็อปช่วยชาติ คือ วันที่ 11 พ.ย.นี้ ก็ต้องขายราคาโปรโมชั่นต่อไปจนกว่าจะพ้นช่วงเวลาการจัด แต่การปรับขึ้นราคาทั้งๆ ที่ยังไม่หมดโปรโมชั่น ถือว่าจงใจเอาเปรียบประชาชนโดยใช้นโยบายของรัฐ”
นอกจากนี้ยังได้ปลดร้านค้าปลีก (โชห่วย) 7 แห่ง ออกจากโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ และยึดเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) คืน เพราะทำผิดเงื่อนไขโครงการ ทั้งการจัดรวมชุดสินค้าในร้านชุดละ 200-300 บาท ตามวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ถือบัตร โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถือบัตรมีสิทธิ์เลือกซื้อสินค้าเอง, นำเครื่องรูดบัตรอีดีซีภายในร้านไปใช้กับร้านอื่น, ขายสินค้าเกินราคาที่กำหนด รวมถึงยังสั่งปรับอีก 1 ร้าน เพราะไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าด้วย
ส่วนความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องอีดีซีในร้านธงฟ้าประชารัฐว่า ล่าสุด ได้ติดตั้งแล้ว 12,000 แห่ง ภายในสิ้นเดือน พ.ย.คาดว่าจะติดตั้งได้ครบตามเป้าหมายที่ 18,000 แห่ง โดยส่วนที่เหลืออีก 6,000 แห่ง จะเน้นให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และเน้นในพื้นที่ที่มีผู้ใช้บริการมากๆ ส่วนรถธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ (โมบาย ยูนิต) มีจำนวน 96 คัน คาดว่าจะครอบคลุมกับความต้องการใช้บริการของผู้ถือบัตรได้ทุกพื้นที่
“การดำเนินงานในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ถือบัตรใช้จ่ายผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐรวม 2,700 ล้านบาท หรือสัดส่วน 80% ของยอดวงเงินที่รัฐโอนให้เดือนละประมาณ 3,000 ล้านบาท และเชื่อว่าเมื่อถึงสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ยอดการซื้อสินค้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,400-5,500 ล้านบาท”
สำหรับการดำเนินงานโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐในระยะสอง (เฟส 2) จะผลักดันสินค้าชุมชน สินค้าโอทอป เข้าไปขายในร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยต้องเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการในแต่ละพื้นที่ มีคุณภาพ ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดช่วยดูว่า มีสินค้าเกษตรใดที่ล้นตลาด ก็ควรนำมาจำหน่ายผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐด้วย.