พาณิชย์ ดึงห้างโมเดิร์นเทรด เจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ผลิตสินค้าโอทอป หวังเพิ่มช่องทางกระจายสินค้า เร่งดันยอดขายให้เติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมผลักดันผู้ประกอบการให้เข้มแข็ง..
วันที่ 11 ส.ค.60 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยในระหว่างการเป็นประธานเปิดงาน เจรจาธุรกิจ และเชื่อมโยงช่องทางการตลาด OTOP Select 2017 ว่า ผู้ประกอบการ และผู้ผลิตสินค้าโอทอป ในปัจจุบันมีจำนวนมาก แต่ยังประสบปัญหาที่ไม่สามารถทำให้ผลิตภัณฑ์ และยอดขายเติบโตได้แบบก้าวกระโดด เพราะไม่เข้าใจกลไกตลาด ไม่มีช่องทางการจำหน่าย รวมทั้งมีกำลังการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และเมื่อต้องผลิตสินค้าในปริมาณมาก จะมีปัญหาสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการรับรองคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อมั่น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่น ผ่านนโยบายเศรษฐกิจฐานราก เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับท้องถิ่น จึงได้ช่วยเจรจาจับคู่ธุรกิจผู้ประกอบการโอทอป กับห้างค้าปลีกสมัยใหม่ เพื่อสร้างเครือข่าย และช่องทางการจำหน่าย ให้สามารถขยายตลาดทั้งใน และต่างประเทศได้มากขึ้น และจะช่วยพัฒนาผู้ประกอบการโอทอปให้มีความเข้มแข็งและมีรายได้ที่ยั่งยืน
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนกว่า 40 ราย เข้าร่วมการคัดสรรผลิตภัณฑ์โอทอป 3-5 ดาว จาก 77 จังหวัด ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการประเมินมาตรฐานคุณภาพ 2,011 ราย แบ่งเป็น 4 ประเภทคือ อาหารและเครื่องดื่ม, ผ้าและเครื่องแต่งกาย, ของใช้ของตกแต่ง และสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร เพื่อเข้าร่วมคัดเลือกเป็นผลิตภัณฑ์โอทอป 3 ประเภท คือ OTOP Select 2017 ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์ 1,253 ราย, Best of OTOP Select 77 Experience (ระดับจังหวัด) มีผู้ผ่านเกณฑ์ 314 ราย และ TOP of The Best OTOP Select 77 Experience (ระดับประเทศ) มีผู้ผ่านเกณฑ์ 14 ราย ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้กับผู้ผลิตผลิตภัณฑ์โอทอปใช้ในการศึกษา และเป็นตัวอย่างในการพัฒนาสินค้าของตนเองต่อไป
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์โอทอป ที่ผ่านการคัดสรรในประเภทต่างๆ กว่า 50% มีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะพัฒนาต่อยอดให้ก้าวไปสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างไม่ยาก ดังนั้น กระทรวงฯ จะพัฒนาผู้ผลิต และผลักดันผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้เติบโต ควบคู่กับการสร้างมาตรฐานให้ที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงสร้างการรับรู้ให้ผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาไทยกลายเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายว่าในแต่ละปี การค้าของสินค้าโอทอปจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งในปีที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์โอทอป สร้างมูลค่าการค้าได้สูงถึง 125,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีผู้ประกอบการโอทอป ที่ขึ้นทะเบียนรวม 8,891 ราย มีผลิตภัณฑ์รวมกว่า 98,436 ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็นกลุ่มอาหาร 31,175 ราย, เครื่องดื่ม 4,146 ราย, เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย 21,203 ราย, ของใช้ของตกแต่งบ้านและของที่ระลึก 29,511 ราย รวมทั้งกลุ่มสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 12,401 ราย.