พาณิชย์ มั่นใจ ส่งออกเกินเป้า ชี้ครึ่งปีหลังอาหารส่งออกมาแรง

พาณิชย์ มั่นใจส่งออกปี 60 โตมากกว่า 5% ชี้ครึ่งปีหลังส่งออกอาหารมาแรง ส่วนยานยนต์ได้กลุ่มรถยนต์ส่วนบุคคล ชดเชยปริมาณส่งออกรถปิกอัพที่ลดลง พร้อมเปิด 'ไทยแลนด์ พาวิลเลียน' ขายสินค้าไทยในเว็บไซต์ jd.com เจาะตลาดจีน...

วันที่ 10 ส.ค.60 นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เห็นตรงกันว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยปี 60 จะขยายตัวได้มากกว่า 5% จากเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ที่ 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน

สำหรับสาเหตุที่ทำให้แนวโน้มการส่งออกขยายตัวได้ดีขึ้น เป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว โดยสินค้าที่การส่งออกขยายตัวได้ดี คือ กลุ่มอาหารและอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะกุ้งสดแช่แข็งและแปรรูป ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ที่หลายประเทศต้องการนำเข้ามากขึ้น เพราะประสบปัญหาไข้หวัดนกระบาดภายในประเทศ เช่น เกาหลีใต้ รวมทั้งไข่ไก่ที่คาดว่าจะส่งออกได้ดี

ขณะที่กลุ่มยานยนต์ แม้ในช่วงครึ่งปีแรก การส่งออกลดลง เพราะการส่งออกรถกระบะไปตะวันออกกลางหดตัว จากการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบภายในใหม่ แต่จากการหารือกับผู้ส่งออก เชื่อว่าแม้ปริมาณการส่งออกยานยนต์จะลดลง แต่มูลค่าไม่ลด เพราะมีการส่งออกรถยนต์ส่วนบุคคล และชิ้นส่วนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาชดเชยการส่งออกรถกระบะที่มีปริมาณลดลง

ส่วนปัจจัยเสี่ยง ที่จะกระทบต่อการส่งออกไทยในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะค่าเงินบาทแข็งค่านั้น จากการสอบถามเอกชนรายใหญ่พบว่า ยังสามารถบริหารจัดการได้ แต่ต้องการให้ค่าเงินอ่อนค่าลง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางด้านราคาเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

“เรื่องค่าเงินบาท เอกชนอยากให้อ่อนค่าลงมา แต่จากการสอบถามขณะนี้พบว่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมายังไม่กระทบต่อยอดสั่งซื้อสินค้าในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 หากเงินบาทมีเสถียรภาพ ไม่ผันผวนมากเกินไป ก็ไม่น่าจะกระทบต่อภาพรวมการส่งออกไทย” นายสมเด็จ กล่าว

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้ร่วมมือกับเว็บไซต์เจดีดอทคอม (www.jd.com) ของบริษัท จิงตง จำกัด (Jingdong) ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ ออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงเป็นลำดับ 2 ในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน และมีฐานลูกค้ากว่า 200 ล้านคนนั้น เปิดร้านไทยแลนด์ พาวิลเลียน (Thailand Pavilion) บนเว็บไซต์ดังกล่าว เพื่อเปิดช่องทางประชาสัมพันธ์สินค้าไทยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจีนมากขึ้น

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการไทยที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อจัดแสดงในไทยแลนด์ พาวิลเลียน มี 3 ประเภท ได้แก่ สินค้าอาหาร สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม และสินค้าไลฟ์สไตล์ โดยส่วนหนึ่งมาจากสินค้าของศูนย์สร้างโอกาสธุรกิจไทยสู่จีนที่ได้รับเครื่องหมาย Thailand Trust Mark (T mark) ซึ่งรับประกันคุณภาพจากประเทศไทย ว่าเป็นสินค้าที่มีภาพลักษณ์ดี มีแบรนด์เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และอีกส่วนหนึ่งมาจากการคัดสรรจากการจัดกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจที่กรมฯ จัดขึ้น เน้นสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ และของแต่งบ้าน ทั้งนี้กรมฯ คาดว่าแผนเจาะตลาดจีนดังกล่าว จะช่วยผลักดันให้ภาพรวมการส่งออกในตลาดจีนปีนี้ขยายตัวตามเป้าหมายที่ 4%.