คำถามจาก"รวิศ หาญอุตสาหะ"ที่คนหาเงินเก่งต้องหยุดคิด ทำไมการ "เหลือเงิน" ถึงสำคัญกว่าการ "หาเงิน"?

Business & Marketing

Executive Interviews

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

คำถามจาก"รวิศ หาญอุตสาหะ"ที่คนหาเงินเก่งต้องหยุดคิด ทำไมการ "เหลือเงิน" ถึงสำคัญกว่าการ "หาเงิน"?

Date Time: 23 ก.ย. 2568 15:32 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

“หาเงินเก่งไม่สำคัญเท่าเหลือเงินเก่ง”ประโยคที่ดูเรียบง่ายแต่สะท้อนความจริงทางการเงินที่หลายคนมองข้าม ถอดรหัสความคิด “รวิศ หาญอุตสาหะ”ที่ชวนให้เราทบทวนการใช้ชีวิต สร้างความมั่งคั่งให้ตัวเอง

ในโลกที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน และโอกาสในการสร้างรายได้ก็มีหลากหลายช่องทาง หลายคนอาจมุ่งเน้นไปที่การ "หาเงินให้ได้เยอะที่สุด" เพราะเชื่อว่านั่นคือหนทางสู่ความมั่งคั่ง แต่ “รวิศ หาญอุตสาหะ” ได้ตั้งคำถาม ที่ชวนให้เรากลับมาทบทวนความคิดนี้ในรายการ Thairath Money : Money Secret EP.7 ว่า "ยุคนี้หาเงินได้เท่าไร ไม่สำคัญเท่ากับเหลือเงินเท่าไร ?"

ประโยคนี้ไม่ใช่การด้อยค่า ความพยายามในการหารายได้ แต่เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการเงินที่หามาได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด “รวิศ” เปรียบเทียบเรื่องนี้กับการเดินทาง ที่การมีรายได้สูงเป็นเพียงครึ่งทางแรก แต่ครึ่งทางที่สองที่สำคัญไม่แพ้กันคือการที่คุณจะสามารถรักษาเงินนั้นไว้และทำให้มันเติบโตได้อย่างไร

"เรื่องของการหาเงินเยอะ ๆ เป็นแค่ครึ่งแรกของการเดินทาง ถ้าคุณหาเงินได้เยอะ แต่ใช้หมด มันก็ไม่ได้ทำให้คุณรวยขึ้น บางทีคนที่หาเงินได้น้อยกว่า แต่ออมและลงทุนเก่งกว่า กลับมีฐานะทางการเงินที่ดีกว่าในระยะยาว" 


ถอดรหัส "ความฉลาดทางการเงิน" 

“รวิศ” ยังได้แบ่งปันแนวคิดเรื่อง “ความฉลาดทางการเงิน” ที่ไม่ใช่แค่การมีเงินเก็บเยอะ ๆ แต่คือการเข้าใจว่าเงินทำงานอย่างไร และเราจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลข่าวสารและเครื่องมือทางการเงินเข้าถึงง่าย การเรียนรู้เรื่องการเงินจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญไม่แพ้การพัฒนาทักษะการทำงาน

หนึ่งในหลักการสำคัญที่ “รวิศ”เน้นย้ำคือ การเปลี่ยนพฤติกรรมจากการ "ใช้ก่อนเก็บ" มาเป็น "เก็บก่อนใช้" หลายคนมักจะรอให้ใช้จ่ายจนหมดก่อนถึงค่อยแบ่งเงินออม แต่ในความเป็นจริงแล้ว มักจะไม่เหลือเงินพอที่จะออมได้ตามเป้าหมาย  “รวิศ” จึงแนะนำให้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและตัดเงินส่วนนั้นออกไปทันทีที่เงินเดือนเข้าบัญชี เพื่อสร้างวินัยและทำให้การออมเป็นเรื่องอัตโนมัติ

"เงินเดือนเข้าปุ๊บ โอนไปเลย 10% หรือ 20% ไปในบัญชีเงินออมที่ใช้สำหรับลงทุนหรือเก็บไม่ต้องคิดว่าจะต้องใช้ก่อน ถ้าคุณทำแบบนี้ทุกเดือน คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน" 

เงินเล็ก ๆ ที่เติบโตเป็นเงินก้อนใหญ่ นี่คือพลังของ “ดอกเบี้ยทบต้น” 

แนวคิด "เก็บก่อนใช้" ของ “รวิศ” นั้น เชื่อมโยงกับหลักการ “พลังของดอกเบี้ยทบต้น” ซึ่งเป็นเครื่องมือทรงพลังในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว การนำเงินออมที่แบ่งไว้ไปลงทุนอย่างสม่ำเสมอในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาว เช่น กองทุนรวม หรือหุ้น จะช่วยให้เงินของคุณทำงานแทนคุณและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

โดย “รวิศ” เปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า เงินจำนวนเล็กน้อยที่ถูกนำไปลงทุนอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกเดือน จะสามารถเติบโตเป็นเงินก้อนใหญ่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ในอนาคต สิ่งสำคัญคือ "ความสม่ำเสมอ" ไม่ใช่เรื่องของจำนวนเงินที่ต้องมาก แต่คือการทำอย่างต่อเนื่องโดยไม่ขาดตอน ซึ่งเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่มองข้ามไป เพราะมักจะมองหาแต่ผลตอบแทนที่รวดเร็ว จนลืมไปว่าการลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนระยะยาว


Mindset การเงินที่เปลี่ยนชีวิต: ทำไมถึงควรเริ่มตั้งแต่วันนี้?

“รวิศ” นักเล่าเรื่องแห่งยุค ยังปิดท้ายด้วยการเน้นย้ำถึง "Mindset" หรือกรอบความคิดทางการเงินที่ถูกต้อง โดยให้เราเริ่มต้นจากการ ให้ความสำคัญกับการออมและการลงทุนตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยไหน หรือมีรายได้เท่าไรก็ตาม เพราะยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไร คุณก็ยิ่งมีโอกาสที่จะไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้นเท่านั้น

"รวิศ" ยังกล่าวอีกว่า การจัดการเงินก็เหมือนกับการดูแล "เพื่อน" ที่จะคอยช่วยเหลือเราในยามคับขัน และมอบความมั่นคงให้กับเราในอนาคต หากเราดูแลมันอย่างดี มันก็จะเติบโตและกลับมาดูแลเราเช่นกัน การสร้างความมั่งคั่งจึงไม่ใช่เรื่องของความบังเอิญ แต่คือการวางแผน การมีวินัย และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง 

บทสัมภาษณ์ของ “รวิศ”ในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนเข็มทิศที่ช่วยชี้ทางให้เห็นว่า การมีวินัยในการเก็บออมและต่อยอดเงินที่หามาได้นั้น สำคัญกว่าการหาเงินให้ได้เยอะ ๆ โดยไม่มีการวางแผนในระยะยาว


อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ