Barron Trump เศรษฐีหน้าใหม่ รวยขึ้นหลังพ่อคืนอำนาจ ผู้ร่วมปั้นธุรกิจคริปโตฯ ของครอบครัว

Business & Marketing

Corporates & Leadership

Tag

Barron Trump เศรษฐีหน้าใหม่ รวยขึ้นหลังพ่อคืนอำนาจ ผู้ร่วมปั้นธุรกิจคริปโตฯ ของครอบครัว

Date Time: 21 ธ.ค. 2568 08:00 น.

Video

Broadcom ทำธุรกิจแบบไหน? ถึงกลายเป็น “ผู้ควบคุมนวัตกรรม” แห่งยุค AI | Digital Frontiers EP.49

Summary

  • Barron Trump ลูกคนที่ 5 ของ Donald Trump ขึ้นแท่นเป็นเศรษฐี ด้วยความมั่งคั่งสุทธิกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงกว่าทรัพย์สินของ Melania Trump แม่ และ Ivanka กับ Tiffany Trump พี่สาว
  • Barron Trump ในวัย 19 ปีคือหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง “World Liberty Financial” บริษัทคริปโตฯ ของครอบครัว
  • ประธานาธิบดี Donald Trump เคยเล่าว่า Barron เป็นคนสอนเรื่องคริปโตฯ ให้กับเขาหลายอย่าง

Latest


“ผมมีลูกชายคนหนึ่งตัวสูงมากชื่อ Barron มีใครเคยได้ยินชื่อเขาไหม?” 

คำถามของ Donald Trump ที่กล่าวระหว่างงานพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนมกราคม เป็นการแนะนำลูกชายคนสุดท้องของตัวเองกลาย ๆ ให้ทั่วโลกได้รู้จัก ก่อนที่ “Barron Trump” ลูกชายที่มีส่วนสูงถึง 206 เซนติเมตร จะยืนขึ้นและโบกมือทักทายคนภายในงาน ขณะที่ประธานาธิบดีสาธยายต่อว่า ลูกชายคนนี้ช่วยดึงเสียงจากคนอายุน้อยได้

Barron Trump เป็นลูกคนที่ 5 ของ Donald Trump และเป็นลูกเพียงคนเดียวของสตรีหมายเลขหนึ่งในปัจจุบันหรือภรรยาคนที่สามของประธานาธิบดี Melania Trump และเรียกได้ว่าเป็นลูกคนเดียวของตระกูลที่ไม่ค่อยจะออกมาโชว์ตัวต่อสาธารณชนบ่อย ๆ 

แต่ลูกชายคนนี้คือหนึ่งในผู้ที่บุกเบิกและผลักดันให้ตระกูล Trump ลุยธุรกิจคริปโตฯ โดย Donald Trump เคยออกมาอวยด้วยว่า Barron คือคนที่สอนเขาให้รู้จักอะไรในคริปโตฯ หลายอย่าง และด้วยวัยเพียงเท่านี้ Barron ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง “World Liberty Financial” บริษัทคริปโตฯ ของครอบครัวที่มีพี่ชายและพ่อร่วมด้วย 

บทความนี้ Thairath Money คอลัมน์ How to Make Money จะพาไปทำความรู้จักกับลูกชายคนเล็กของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลูกชายคนที่ไม่ค่อยจะออกหน้ากล้อง แต่กลับเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้ตระกูลมีความมั่งคั่งเพิ่มมากขึ้น และเป็นชายอายุ 19 ปีที่มีทรัพย์สินมากถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทั้งหมดล้วนมาจากธุรกิจคริปโตฯ


ลูกชายคนเล็กของตระกูลเศรษฐี

ปฏิเสธไม่ได้ว่าตระกูล Trump นั้นเป็นตระกูลมหาเศรษฐี เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยของ Fred Trump เจ้าพ่ออสังหาผู้ชาญฉลาด ก่อนจะส่งต่อดีเอ็นเอความเป็นนักธุรกิจมาสู่มือของ Donald Trump และตอนนี้ประธานาธิบดีคนที่ 45 และ 47 ของสหรัฐอเมริกาก็กำลังส่งต่อให้กับลูก ๆ ของเขาทั้ง 5 คน

Donald Trump มีภรรยาทั้งหมด 3 คน โดยคนแรก Ivana Trump มีลูกด้วยกัน 3 คน คือ Donald Trump Jr. (47), Ivanka Trump (44) และ Eric Trump (41) ในขณะที่ภรรยาคนที่สอง Marla Maples นักร้องนักแสดง มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน คือ Tiffany Trump (32) และกับภรรยาคนปัจจุบัน สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา Melania Trump มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน นั่นคือ Barron Trump วัย 19 ปี

Barron Trump เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ปี 2006 เป็นช่วงที่ Donald Trump กำลังรุ่งโรจน์ทั้งจากธุรกิจอสังหาฯ คาสิโน และสื่อ แถมยังเป็นลูกชายคนเดียวของ Melania Trump เธอจึงดูแลและหวงแหนเป็นพิเศษ เลี้ยงให้ Barron เติบโตมาท่ามกลางมหานครนิวยอร์ก บนหอคอยงาช้างอย่าง Trump Tower

วัยเด็กของ Barron คือลูกเศรษฐีดี ๆ นี่เอง โดย Melania เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาชื่นชอบเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์เป็นพิเศษ และมักจะชอบเวลาที่ได้ไปพักผ่อนที่ Mar-a-Lago รีสอร์ทหรูของพ่อ พร้อมกับใช้ช่วงเวลาในครอบครัวไปกับการเล่นกอล์ฟ 

Melania เล่าว่า เธอเรียกลูกชายคนนี้ว่า “Little Donald” เพราะเขาคนนี้มีบุคลิกคล้ายกับพ่อของเขามาก “เป็นเด็กที่มีความคิดหนักแน่นมาก เป็นคนฉลาด มีความเป็นตัวของตัวเองสูง กล้าแสดงความเห็น และรู้ชัดเจนว่าตัวเองต้องการอะไร” เธอกล่าว

ในเรื่องของการเรียน Barron Trump ได้เข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนหลายแห่ง ตอนอยู่ที่นิวยอร์ก เขาเรียนที่ Columbia Grammar and Preparatory School ในย่าน Upper West Side ของแมนฮัตตัน และแม้ว่าจะคาบเกี่ยวกับช่วงที่ Trump ได้เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก แต่ Barron ก็ยังคงตัดสินใจเรียนต่อในนิวยอร์กจนจบ

หลังจากนั้น ในเดือนพฤษภาคม ปี 2017 ก็มีประกาศออกมาว่าเขาจะย้ายไปเข้าเรียนที่ St. Andrew’s Episcopal School ในเมืองโพโทแมค รัฐแมริแลนด์ และย้ายไปอยู่ในธรรมเนียบขาวกับพ่อที่กำลังรับตำแหน่ง ซึ่งค่าเล่าเรียนของที่นี่อยู่ที่ประมาณ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีเลยทีเดียว และเป็นค่าใช้จ่ายที่ครอบครัว Trump ต้องรับผิดชอบ

และหลังจาก Donald Trump หมดวาระในสมัยแรก Barron ก็ได้ย้ายไปเรียนต่อที่ Oxbridge Academy เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ก่อนจะสำเร็จการศึกษาในปี 2024 และปัจจุบันเขาได้ย้ายกลับไปที่นิวยอร์กอีกครั้ง และกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่สองใน New York University

ตามรายงานของนิตยาสาร People ระบุว่า ตลอดช่วงปิดเทอมฤดูร้อนที่ผ่านมา นักศึกษาธุรกิจหนุ่มอย่าง Barron Trump ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเข้าประชุมกับพาร์ตเนอร์ พัฒนาโปรเจกต์ด้านเทคโนโลยี รวมถึงวางดีลและแผนงานต่าง ๆ เพื่อเตรียมเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองอีกด้วย


ช่วยปั้นธุรกิจคริปโตฯ ของครอบครัว

ที่ผ่านมา จะมีชื่อของลูก ๆ Donald Trump ที่เราเห็นอยู่บนหน้าข่าวบ่อย ๆ ในช่วงนี้ก็จะมี Eric Trump และ Donald Trump Jr. ที่ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐี โดยมีความมั่งคั่งสุทธิที่ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ แต่ทั้งหมดนี้กลับไม่ได้มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบที่คุณปู่ Fred และพ่อ Donald สร้างไว้ แต่ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจคริปโตฯ

“World Liberty Financial” คือชื่อของบริษัทคริปโตฯ ของตระกูล Trump โดยทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance) หรือ DeFi เปิดตัวในปี 2024 ก่อนหน้าการเลือกตั้งเพียงไม่นาน โดยมีเป้าหมายจะสร้าง “ระบบการเงินรูปแบบใหม่” ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ครอบคลุมบริการปล่อยกู้ การกู้ยืม และการสร้างผลตอบแทนจากสินทรัพย์ดิจิทัล

แพลตฟอร์มนี้มีโทเคนชื่อ $WLFI ควบคู่กับสเตเบิลคอยน์ที่ผูกมูลค่ากับดอลลาร์สหรัฐในชื่อ USD1 โดยวางตำแหน่งตัวเองเป็นเครื่องมือทำให้การเงินเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในวงกว้าง ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับ Trump Organization ด้วย

ตามรายงานของบริษัท ผู้ก่อตั้งของบริษัทนี้ประกอบไปด้วย Donald Trump เอง ลูกชาย 3 คน คือ Eric Trump, Donald Trump Jr. และ Barron Trump 

โดยมีบริษัทถือหุ้นในโครงการ World Liberty คือ DT Marks Defi LLC ซึ่งเป็นบริษัทของตระกูลเช่นเดียวกัน ได้รับคริปโตฯ เป็นโทเคน $WLFI รวมทั้งสิ้น 22,500 ล้านโทเคนเมื่อเดือนกันยายน 2024 แลกกับการช่วยโปรโมตโครงการและอนุญาตให้ใช้ชื่อ “Trump” ในการทำตลาด บริษัทดังกล่าวยังได้รับส่วนแบ่ง 75% ของรายได้ทั้งหมดของ World Liberty หลังจากรายได้ส่วนแรก 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


150 ล้านมาจากไหนบ้าง?

จากเอกสารเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่ Donald Trump ยื่นไว้ในฐานะประธานาธิบดี ระบุว่า ณ ต้นปีนี้ Trump ถือหุ้น 70% ใน Trump Marks Defi LLC ส่วนอีก 30% เป็นของสมาชิกในครอบครัว โดยลูกชายทั้งสามคนถูกระบุชื่อเป็นผู้ร่วมก่อตั้งทั้งหมด หากสมมติว่าแบ่งหุ้น 30% นี้เท่า ๆ กัน เท่ากับว่าแต่ละคนถือหุ้น 10% แต่ก็เป็นไปได้ว่า ภายหลังอาจมีการเจรจาดีลเพิ่มเติมที่ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเปลี่ยนแปลงไป

ในช่วงแรกหุ้นสัดส่วน 10% นี้แทบไม่มีมูลค่ามากนัก เนื่องจากโทเคนของ World Liberty ไม่สามารถนำไปขายต่อหรือโอนเปลี่ยนมือได้หลังจากซื้อแล้ว และยอดขายโทเคนก็อยู่ในระดับปานกลาง

แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจาก Trump ชนะการเลือกตั้ง ยอดขายโทเคนก็พุ่งขึ้นแทบจะในทันที ภายในเดือนสิงหาคม World Liberty สามารถขายโทเคนได้คิดเป็นมูลค่ารวมราว 675 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยออกมา หากคำนวณส่วนแบ่งของ Barron Trump หลังหักภาษีแล้ว จะอยู่ที่ประมาณ 38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ต่อมาในเดือนมีนาคม World Liberty ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ สเตเบิลคอยน์ชื่อ USD1 โดยมูลค่าตลาดของเหรียญนี้อยู่ที่ประมาณ 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่าธุรกิจที่อยู่เบื้องหลังอาจมีมูลค่าราว 880 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีรายงานว่า หน่วยธุรกิจหนึ่งของครอบครัวทรัมป์ถือหุ้น 38% ในกิจการนี้ ซึ่งหมายความว่า ส่วนแบ่งของ Barron อาจมีมูลค่าราว 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากนั้นในเดือนสิงหาคม World Liberty ยังได้ทำข้อตกลงกับบริษัทเฮลธ์แคร์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ชื่อ Alt5 Sigma ซึ่งกำลังเปลี่ยนตัวเองให้เป็นบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์คริปโตฯ เป็นหลัก (Cryptocurrency Treasury Company) เป็นโมเดลแบบเดียวกับ Strategy

ภายใต้ดีลนี้ Alt5 ได้แลกโทเคน $WLFI มูลค่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับหุ้นสามัญจำนวน 1 ล้านหุ้น วอร์แรนต์จำนวน 99 ล้านหน่วย ซึ่งจะไม่มีค่าใด ๆ หากราคาหุ้นยังต่ำกว่า 7.50 ดอลลาร์ (ณ วันที่ 2 ต.ค. หุ้นอยู่ที่ 2.78 ดอลลาร์) และวอร์แรนต์อีก 20 ล้านหน่วย ที่สามารถใช้สิทธิได้ในราคาที่สูงยิ่งกว่า

Alt5 ใช้เงินทุนที่ระดมมาเพื่อซื้อโทเคน World Liberty Financial มูลค่า 717 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถูกส่งต่อไปยังบริษัทของครอบครัว Trump และคาดว่า Barron ได้รับส่วนแบ่งราว 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐหลังหักภาษี

นอกจากนี้ Barron Trump ยังได้รับโทเคน World Liberty จำนวน 2,250 ล้านโทเคน ซึ่งคิดเป็น 10% ของโทเคนทั้งหมดที่บริษัทได้รับตั้งแต่แรก ซึ่ง Forbes ประเมินมูลค่าโทเคนเหล่านี้ไว้ที่ 0 ดอลลาร์สหรัฐ เพราะไม่สามารถนำไปขายได้

อย่างไรก็ตาม ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ถือโทเคนได้ลงมติให้ปลดล็อกโทเคน 20% ของทั้งหมด (ยกเว้นโทเคนของผู้ก่อตั้ง) และยังมีการคาดการณ์ว่าจะมีการลงมติเพิ่มเติมในอนาคต ว่าจะปลดล็อกโทเคนส่วนที่เหลือหรือไม่ รวมถึงจะอนุญาตให้ครอบครัว Trump และนักลงทุนรายใหญ่สามารถซื้อขายโทเคนได้หรือไม่

ในตลาดปัจจุบัน โทเคนที่มีจำนวนจำกัดและสามารถซื้อขายได้มีราคาประมาณ 20 เซนต์ต่อเหรียญ แต่เนื่องจากโทเคนส่วนใหญ่ยังถูกล็อกอยู่ มูลค่าโทเคนที่ Barron ถืออยู่นั้นจึงยังต่ำมาก เมื่อคำนวณทุกปัจจัยแล้ว ส่วนแบ่ง 10% ของ Barron ถูกประเมินว่ามีมูลค่าราว 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน

เมื่อรวมรายได้และมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน Barron Trump มีทรัพย์สินรวมมากกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไม่ใช่จำนวนเงินเล็กน้อยเลยสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 19 ปี และยังเป็นมูลค่าทรัพย์สินที่สูงกว่าแม่ Melania Trump ที่มีอยู่ที่ราว 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีสูงกว่าพี่สาว Ivanka Trump ที่มีทรัพย์สินอยู่ราว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Tiffany Trump ยังไม่ติดลิสต์เศรษฐีของ Forbes เลย


ที่มา: Forbes [1][2][3], People [1][2], Biography, Yahoo! Finance 


ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney



Author

Thanthida Thongphet

Thanthida Thongphet
Digital Economy & Future of Finance