จะอยู่การบินไทยไปเรื่อยๆ

หลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ บมจ.การบินไทย ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.68 มีความพยายามสับขาหลอกปล่อยข่าวให้เกิดความสับสนกันไปทั่วเมืองว่า...

บอร์ดชุดใหม่ถอดด้าม ซึ่งมาจากผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ใส่เงินใหม่เข้าไปจำนวนมากจะเข้าไปเป็นเจ้าข้าวเจ้าของการบินไทย หรือไปเปิดทางให้นักการเมืองยื่นมือเข้าไปล้วงตับไตไส้พุง จนการบินไทยต้องกลับคืนสู่สภาพเดิมอีก

สภาพเดิมที่ว่านี้ ไม่ทราบว่าหมายถึงการโกงกินกันในสมัยเดิมๆ การซื้อเครื่องบินที่ไม่โปร่งใส หรือการทำธุรกิจผิดพลาดถึงขั้นเกิดปัญหาขาดทุนจนล้มละลายเช่นที่ผ่านมาหรือไม่? 

พูดตรงๆไม่ได้กล่าวหาใครนะ ก่อนล้มละลายก็มี ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กับ ชาญศิลป์ ตรีนุชกร เข้าไปนั่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของการบินไทยรวมอยู่ด้วย

ตัดกลับมา ถ้าจะว่ากันตามมาตรา 90/1172 พ.ร.บ.ล้มละลาย ที่บัญญัติว่าเมื่อศาลมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผนยกเลิกการฟื้นฟูกิจการแล้วให้ศาลแจ้งคำสั่งแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้บริหารแผน ลูกหนี้โดยไม่ชักช้า

และเมื่อได้รับทราบคำสั่งศาล ผู้บริหารแผนต้องส่งมอบทรัพย์ที่เกี่ยวกับทรัพย์สินแก่ลูกหนี้ หรือผู้บริหารของลูกหนี้เร็วที่สุด โดยให้นำบทบัญญัติมาตรา 90/106 มาบังคับใช้โดยอนุโลม

เมื่อออกจากแผนฟื้นฟูแล้วการบินไทยก็ต้องกลับมาดำเนินธุรกิจตามปกติ ภายใต้การบริหารงานของบอร์ดชุดใหม่ซึ่งมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

กระทรวงการคลังโดย ปลัดกระทรวง ลวรณ แสงสนิท ใส่เงินเพิ่มทุนกว่า 40,000 ล้านบาทรักษาการบินไทยไว้ พร้อมเอาธนาคารรัฐร่วมใส่เงินด้วย เนื่องจากแบงก์พาณิชย์ทั้งไทยและเทศไม่ปล่อยเงินกู้ให้ เช่นที่เจ้าหนี้เดิมก็ไม่ใส่เงินเพิ่มทุนให้อีก

ภายใต้การบริหารแผนที่มีผู้เพิ่มทุนให้สบายแฮนี้ ทำให้ผลดำเนินงานน่าพอใจ โดยเฉพาะไตรมาสแรกปี 68 การบินไทยชำระหนี้แล้ว 94,000 ล้านบาท ยังมีหนี้คงเหลือต้องชำระอีก 95,500 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยชำระหมดในปี 79

ตัวเลขก่อนการฟื้นฟู (14 ก.ย.63) ทุนติดลบ 127,235 ล้านบาท หลังฟื้นฟูกลับมาเป็นบวก 55,221 ล้านบาท มีกำไร 9,839 ล้านบาท ในไตรมาสแรกปี 68

ส่วนความพยายามสร้างข่าวอ้างถึงเหตุไม่เรียกประชุมผู้ถือหุ้นหลังออกจากแผนฟื้นฟู เพราะไม่เชื่อถือกรรมการชุดใหม่ เนื่องจากมีบุคคลที่เคยทำให้การบินไทยเสียหายนั้น

มีคำถามว่า แล้วกรรมการเก่า แถมเป็นผู้บริหารแผนซึ่งครบวาระจะต้องออกอย่าง ปิยสวัสดิ์และชาญศิลป์ เหตุใดจึงยังลอยหน้าอยู่ ซ้ำมีสิทธิใดเช่าเครื่องบินที่ผู้โดยสารรับไม่ได้ เช่น เครื่องบินที่ผู้โดยสารหันหน้าชนกันหมดเหมือนร้านนวดเท้า

คิดในแง่บวก ปิยสวัสดิ์กับชาญศิลป์อาจจะอยากอยู่ดูแลแผนขยายฝูงบินใหม่เอง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 79 ลำ, ปี 68 มีแผนเช่า 4 ลำ อยู่ในขั้นเจรจา 8 ลำ, ปี 69 เช่า 32 ลำ, ปี 70 เช่า 14 ลำ จนถึงปี 76 จะทยอยรับจนครบ 30 ลำ สิริรวม 167 ลำ...ความไม่ไว้ใจคนอื่นทำให้ต้องอยู่การบินไทยต่อไปเรื่อยๆน่ะซี!!

มิสไฟน์

คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม