กระแส K-Beauty ดันหุ้น APR พุ่ง 200% ซีอีโอหนุ่มเกาหลีวัย 36 ขึ้นแท่นมหาเศรษฐี รวยพันล้านใน 1 ปี

Business & Marketing

Corporates & Leadership

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

กระแส K-Beauty ดันหุ้น APR พุ่ง 200% ซีอีโอหนุ่มเกาหลีวัย 36 ขึ้นแท่นมหาเศรษฐี รวยพันล้านใน 1 ปี

Date Time: 10 ก.ค. 2568 08:15 น.

Video

Oracle ขายอะไร โตแบบเงียบๆ แต่กินเรียบทุกยักษ์ AI ? | Digital Frontiers EP.47

Summary

ซีอีโอหนุ่มวัย 36 ปีของ APR บริษัทเครื่องสำอางและบิวตี้เทคโนโลยีจากเกาหลีใต้ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีคนใหม่ หลังราคาหุ้นของบริษัทพุ่งแรงกว่า 200% ในปีนี้ หลังเข้าตลาดได้เพียง 1 ปี จากกระแส K-Beauty ที่ขยายตัวไปทั่วโลก เน้นทำการตลาดผ่านเซเลบริตี จนทำรายได้จากต่างประเทศสูงถึง 70% ของรายได้ทั้งหมด และบริษัทยังก้าวขึ้นเป็นบริษัทบิวตี้จดทะเบียนใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเกาหลีใต้เลยทีเดียว

Latest


กระแส Booster Pro เครื่องบูสต์ผิวในแบรนด์ Medicube เจ้าดังจากเกาหลีกำลังเขย่าตลาดเครื่องสำอางไปทั่วโลก เมื่อ Kylie Jenner หยิบเครื่องนี้มาใช้งานพร้อมถ่ายคลิปลง TikTok เคลมว่าจะช่วยให้ผิวหน้าดูดซึมเซรั่มได้ดีกว่า จนคลิปกลายเป็นไวรัลมีผู้เข้าชมหลายล้านครั้ง และก็เป็นเหตุผลที่ช่วยปลุกกระแส K-Beauty ให้ขยายไปทั่วโลก

จากกระแสนี้ก็ช่วยส่องสปอตไลท์ให้กับ APR Corp. บริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ ที่เป็นเจ้าของแบรนด์นี้ แถมกระแส K-Beauty นี้ยังดันให้มีการกำเนิดเศรษฐีใหม่ อย่าง Kim Byung Hoon ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง APR วัย 36 ปี ที่ปัจจุบันถือหุ้นใน APR อยู่ที่ 31% มีทรัพย์สินรวมกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีคนล่าสุดของเกาหลีใต้ หลังราคาหุ้นพุ่งแรงกว่า 200% ในปีนี้


รู้จัก APR อาณาจักรพันล้าน ที่หวังจะเป็น “Apple แห่งวงการบิวตี้”

เบื้องหลังความสำเร็จของ APR ก็คงหนีไม่พ้นแนวคิด Kim Byung Hoon ที่หากย้อนไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน Kim Byung Hoon มีโอกาสได้ไปเรียนแลกเปลี่ยนที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะได้สัมผัสกับคลื่นสมาร์ทโฟนในยุคบุกเบิก จนจุดประกายความฝันในเส้นทางสตาร์ทอัพ

เมื่อ Kim Byung Hoon กลับมาเกาหลีใต้ ก็ได้ริเริ่มทำแอปพลิเคชันมือถือ ซึ่งรวมไปถึงแอปฯ หาคู่ ก่อนที่ในปี 2014 จะหันมาก่อตั้ง APR (หรือชื่อเดิมคือ APRILSKIN) โดยโฟกัสที่เครื่องสำอาง และขยับขยายไปรุกตลาดพัฒนาอุปกรณ์บิวตี้ไฮเทคสำหรับใช้เองที่บ้านแบบ “สปาเคลื่อนที่” จนในปี 2024 ที่ผ่านมา APR ก็ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดเกาหลีใต้ และปัจจุบันบริษัทก็มูลค่าตลาดกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นบริษัทบิวตี้จดทะเบียนอันดับ 2 ของเกาหลีใต้เลยทีเดียว

สิ่งที่ทำให้ APR แตกต่างจากแบรนด์เกาหลีรุ่นเก่า คือการไม่พึ่งตลาดจีนหรือดิวตี้ฟรีเหมือนในอดีต แต่หันมาใช้พลังโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok และการพัฒนาอุปกรณ์เทคโนโลยีบิวตี้ เพื่อเจาะตลาดออนไลน์โดยตรง

Kim Byung Hoon เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นของเกาหลีว่า “ถ้าถามว่าเป้าหมายชีวิตผมคืออะไร ตอนนี้ผมอยากสร้างบริษัทที่ทุกคนรู้จัก เหมือน Apple ผมอยากให้เราสร้างนวัตกรรมในวงการบิวตี้ให้ได้มากที่สุด” เพราะได้รับแรงบันดาลใจในการสร้าง APR มาจากโมเดลธุรกิจของ Apple และ Tesla นั่นเอง


แบรนด์ Medicube เรือธงสร้างรายได้

APR เลือกที่จะปักธงชูสินค้าจากแบรนด์ Medicube ให้กลายเป็นที่รู้จักในหมู่คนดังทั่วโลก โดยก่อนหน้านี้ในช่วงปลายปี 2023 นางแบบและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอย่าง Hailey Bieber ได้โพสต์พูดถึงมาส์กเจลของ Medicube โดยไม่ได้รับสปอนเซอร์ ซึ่งสร้างกระแสให้แบรนด์กลายเป็นที่สนใจจนสามารถออกแคมเปญร่วมกับ Kylie Jenner และ Kendall Jenner รวมถึง Khloe Kardashian ได้ในปี 2024

Shin Jae Ha, CFO ของ APR กล่าวว่า “ตอนนี้ K-Beauty เข้าสู่ช่วงที่ขยายจาก Early Adopter ไปสู่ตลาดแมสเต็มรูปแบบแล้ว”

จากข้อมูลบนเว็บไซต์ของ Medicube ระบุว่า Medicube อุปกรณ์ Booster Pro (ที่เหล่าเซเลบริตี้ใช้งาน) เปิดตัวเมื่อปี 2023 มีราคาประมาณ 240 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8,000 บาท มาในรูปทรงทรงกระบอกเรียวยาว มีจุดขายคือ ช่วยดูดซึมเซรั่มให้ล้ำลึก เพิ่มความกระจ่างใส ความยืดหยุ่น กระชับรูขุมขน และมอบผิวแบบ Glass Glow หรือผิวใสวาวแบบสาวเกาหลีที่เป็นเอกลักษณ์ของ K-Beauty

อย่างไรก็ตาม APR ไม่ได้มีเพียง Medicube เท่านั้น แต่ยังเป็นเจ้าของแบรนด์เกาหลีชื่อดังอีกหลายแบรนด์ เช่น Aprilskin (เครื่องสำอาง), Forment (น้ำหอมและผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย) และแบรนด์เสริมอาหาร Glam.D Bio

โดยไลน์สินค้าปัจจุบันของ APR จะเน้นไปที่กลุ่มลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น และผิวกระจ่างใส โดยบริษัทส่งสัญญาณว่าอาจขยายไปสู่สินค้าสุขภาพในอนาคตอีกด้วย


ตลาดสหรัฐฯ โตแรงแซงจีน

แม้จีนยังเป็นตลาดส่งออกใหญ่สุดของสินค้าบิวตี้จากเกาหลี แต่ปัจจุบันตลาดสหรัฐอเมริกากลับเติบโตเร็วกว่า และทำกำไรได้มากกว่า เพราะผู้บริโภคยอมจ่ายสินค้าพรีเมียมมากขึ้น โดยพบว่าขณะนี้กว่า 70% ของรายได้ของ APR มาจากต่างประเทศ โดยมีสหรัฐอเมริกา เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในตลาดนอกประเทศ

นอกจากนี้ Medicube ยังได้เตรียมขยายช่องทางขายแบบออฟไลน์ในสหรัฐอเมริกา โดยจะเริ่มจำหน่ายผ่านร้าน Ulta Beauty ทั่วประเทศในเดือนสิงหาคมนี้ เป็นการเสริมจากช่องทางออนไลน์ที่มีอยู่แล้วทั้งใน Amazon และเว็บไซต์ของทางการตัวเอง


ที่มา: Bloomberg, Business Insider, APR


ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ