เจาะความสำเร็จ BOYY แบรนด์กระเป๋าแห่งยุคที่ถูกใจเซเลปทั่วโลก

เรียกเสียงฮือฮาอีกครั้งสำหรับอีเวนต์ล่าสุดเมื่อ ลิซ่า Blackpink ที่ได้รับเชิญให้ไปร่วมสร้างสีสันด้วยบทบาท ผู้โบกธงเมื่อเข้าเส้นชัยในงานแข่งขันระดับโลกอย่าง F1โดยงานนี้ ลิซ่า ที่มักจะมาพร้อมกับหลากหลายแฟชั่นลุคที่ล้วนแล้วแต่ทำให้แบรนด์เครื่องแต่งกายไปจนถึงเครื่องประดับกลายเป็นเทรนด์โด่งดังชั่วข้ามคืนก็ได้เลือกหยิบ ‘กระเป๋าหมวกกันน็อก’ หรือ BOYY Helmet bag ที่มีมูลค่าใบละแสน อันเลื่องชื่อจากแบรนด์ BOYY กระเป๋าที่ออกแบบและผลิตโดยดีไซเนอร์คนไทยไปคอมพลีทลุคสุดสตรีทในครั้งนี้

Thairath Money คอลัมน์ BrandStory ครั้งนี้ชวนเจาะความสำเร็จ บอย 'BOYY' กระเป๋าแบรนด์เนมสัญชาติไทย-อิตาลี ที่นำเสนอดีไซน์เตะตาของสายเข็มขัด (Buckle) บนตัวกระเป๋าอันเป็นเอกลักษณ์ของ BOYY ซึ่งโด่งดังและแพร่หลายมากในหมู่แฟชั่นไอคอนและเซเลบริตี้ทั่วโลก มากไปกว่านั้นยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเจ็ดดีไซเนอร์ของโลกที่น่าจับตามองจาก New York Times อีกด้วย เส้นทางเกือบ 20 ปีของการปั้นแบรนด์แฟชั่นแข่งขันในระดับโลก ทำอย่างไรให้ BOYY เฉียบคม เรียบหรู และแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ถึงปัจจุบัน จนเรียกได้ว่า “นี่คือแบรนด์กระเป๋าแห่งยุค”  

สำหรับผู้อ่านที่อาจจะยังไม่รู้จัก BOYY แบรนด์กระเป๋าและเครื่องหนังที่ก่อตั้งขึ้นโดยสองผู้ร่วมก่อตั้ง บอย-วรรณศิริ คงมั่น ดีไซเนอร์สาวไทย และเจสซี่ ดอร์ซี่ (Jesse Dorsey) ดีไซเนอร์ชาวแคนาดา 

ทั้งสองเริ่มต้นบริหารธุรกิจพ่วงด้วยบทบาทของครีเอทีฟไดเรกเตอร์ที่ขับเคลื่อนแบรนด์จากความหลงใหลในแฟชั่นและกระบวนการสร้างสรรค์กระเป๋า ตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปัจจุบัน จากจุดเริ่มต้นในมหานครนิวยอร์กซิตี้สู่คอนเซปต์สโตร์แห่งใหม่ล่าสุดใจกลางกรุงเทพมหานคร ปัจจุบัน BOYY มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี และกรุงเทพฯ ประเทศไทย

ด้านผลประกอบการสามปีย้อนหลังจากข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจและการค้าของ บริษัท บีโอ วาย วาย จำกัด (BOYY COMPANY LIMITED)  BOYY คว้ารายได้และกำไรในหลักร้อยล้าน  

ปี 2566 รายได้สุทธิ 439,900,321 บาท กำไรสุทธิ 20,272,571 บาท 

ปี 2565 รายได้สุทธิ 653,645,822 บาท กำไรสุทธิ 78,979,800 บาท 

ปี 2564 รายได้สุทธิ 510,769,125 บาท กำไรสุทธิ 53,567,049 บาท 

BOYY แบรนด์กระเป๋าแห่งยุค "18 ปีแห่งการสะท้อนความเป็นตัวเอง"

ย้อนกลับไปช่วงเริ่มแรกของการปั้นแบรนด์กระเป๋าท่ามกลางการแข่งขันในโลก Fashion Bag ยุคปลาย 90s ที่ตลาดกำลังคึกคักอย่างมากท่ามกลางสาวๆ ที่มีกำลังซื้อตั้งแต่ปานกลางไปจนถึงกลุ่มไฮเอนด์ โดยเฉพาะที่สมัยนั้น เทรนด์ ‘It Bag’ หรือกระเป๋าถือของผู้หญิงที่เน้นภาพลักษณ์ไฮเอนด์สวยสง่าจากบรรดาแบรนด์ชั้นนำส่วนใหญ่ได้รับความนิยมสูง

ขณะนั้น BOYY โพสิชันตัวเองเป็น Young Luxury Brand ในฐานะแบรนด์กระเป๋าหนังเล็กๆ ที่จะมาเจาะตลาดกระเป๋าถือผู้หญิงในขณะนั้นด้วยระดับราคาและคุณภาพที่สูงเทียบแบรนด์ High-End แต่ไม่ได้แพงจนเข้าถึงยากจนเกินไป ด้วยความเชื่อที่ว่า คุณภาพของกระเป๋า คือ สิ่งที่สะท้อนคุณค่าในตัวเองได้ดีที่สุด ทำให้ BOYY ไม่ทำการตลาดแบบทั่วไป แต่เลือกที่จะมุ่งนำเสนอจุดแข็งหลักของแบรนด์นอกเหนือจากคุณภาพวัสดุ นั่นก็คือ คาแรกเตอร์และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง 

ความนอกกรอบและอิสรภาพในงานดีไซน์ 

การต่อต้านและความกบฏหน่อยๆ ของ BOYY กลายเป็นคุณลักษณะสำคัญของแบรนด์

แรงผลักดันเบื้องหลัง BOYY คือ ความคิดสร้างสรรค์และความทะเยอทะยานในการสร้างแฟชั่นที่มาจากความรู้สึกนึกคิด การตัดสินใจที่มาจากสัญชาตญาณของตนเอง กลิ่นอายความเท่ ความเข้มแข็งแบบผู้ชาย ผสมผสานอย่างลงตัวกับความมั่นใจและลูกเล่นสีสันที่สร้างความสนุกสนานแบบผู้หญิง มากไปกว่านั้นคือความหรูหราที่เปิดให้เข้าถึงได้ ได้สะท้อน ‘ความเป็น BOYY’ ผ่านทุกมิติของการออกแบบกระเป๋าในแต่ละคอลเลกชัน ความเป็น BOYY ส่งเสริมให้กลยุทธ์ทำตลาดของ BOYY ที่ดูท้าทายแต่มั่นใจ เจาะตลาดได้สำเร็จ 

BOYY ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน 'Anti-It bag’ ที่สะท้อนความเป็นอิสระของแบรนด์และผู้ออกแบบ และมากไปกว่านั้น คือ การสะท้อนถึงความรู้สึกและสัญชาตญาณที่เชื่อมโยงกับผู้เสพแฟชั่น BOYY ฉีกขนบดีไซน์กระเป๋าถือของผู้หญิงสไตล์หวานหรูแบบเดิมๆ สู่กระเป๋าถือผู้หญิงที่มีดีไซน์สดใหม่ ปราดเปรียว เท่ ทันสมัย 

ดีไซน์ที่เกิดจากความรู้สึกและไอเดียของ บอยและเจสซี่ เปลี่ยนภาพกระเป๋าถือของผู้หญิงและสร้างความรู้สึกใหม่ขึ้นในขณะนั้น อย่างกิมมิกเล็กๆ ของการตั้งชื่อกระเป๋าคอลเลกชันแรกๆ Karl, Bobby และ Fred ที่แบรนด์ตั้งใจหยิบชื่อของผู้ชายมาใช้ เพื่อตอบโต้กระแสแฟชั่นในขณะนั้นที่แบรนด์ส่วนใหญ่มักจะตั้งชื่อตามนักแสดง นางแบบ หรือนักร้องหญิง 

BOYY เอาชนะใจเหล่านักวิจารณ์แฟชั่นไปจนถึงบรรณาธิการแฟชั่นไลฟ์สไตล์ในเมืองนิวยอร์กที่ให้ต่างให้ความสนใจในตัวแบรนด์ กระทั่งชื่อเสียงและฝีมือการสร้างสรรค์ของเธอเริ่มได้รับการบอกต่อปากต่อปาก บวกกับผลงานของเธอที่เริ่มผ่านหน้าผ่านตาในวงการแฟชั่นจากการหยิบใช้ของเหล่าแฟชั่นไอคอน ศิลปิน เซเลบริตี้ชื่อดัง พร้อมด้วยบทบาทของแบรนด์ในการสร้างกรอบใหม่ของความเป็นลักชัวรี่ที่ต้องสัมผัสได้ สะท้อนความคิดได้ 

ปัจจุบัน BOYY ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์กระเป๋า แต่ยังขยายมิติของการดีไซน์สู่ไลฟ์สไตล์ ตลอดจนการออกแบบพื้นที่ร้านค้าให้เป็นเสมือนพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ การคอลแลบส์กับศิลปินและพาร์ตเนอร์ธุรกิจอย่างหลากหลายเพื่อออกแบบไอเดียสดใหม่ ทลายกรอบของแฟชั่นและประสบการณ์ลักชัวรี่ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งของธุรกิจ ซึ่งทั้งสองยังคงเชื่อมั่นอย่างหนักแน่ว่า การนำเสนอศักยภาพในมิติ Creativity คือเรื่องเดียวกับการเพิ่มยอดขายเพิ่มกำไรให้กับตนเอง 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney