มิซึมิ ‘MizuMi’ สกินแคร์คนไทยยอดขายร้อยล้าน ที่คนเข้าใจผิดว่าเป็นของญี่ปุ่น

สาวๆ คนไหนใช้เวลาเตรียมผิวก่อนแต่งหน้านานกว่าแต่งหน้าออกจากบ้านบ้าง ยกมือขึ้น!

การเตรียมผิวหน้าต้องผ่านหลายขั้นตอนที่ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์จำนวนมาก ตั้งแต่เซรั่มครีมบำรุงไปจนถึงครีมกันแดดและเครื่องสำอาง โดยปัจจุบันเรื่องการดูแลผิวหน้าไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มผู้หญิงอีกต่อไป เราเริ่มเห็นผู้ชาย รวมถึงวัยรุ่นหนุ่มสาวไปจนถึงผู้สูงอายุหลายท่านหันมาใส่ใจเรื่องการดูแลผิวหน้ามากขึ้น โดยเริ่มต้นจากการหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและครีมกันแดดที่เหมาะกับตัวเองมาใช้งาน 

และด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อนและร้อนขึ้นทุกๆ วัน ทำให้ครีมกันแดดคือสิ่งสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจนเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะแสงแดดทำให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพเร็ว เกิดปัญหาฝ้ากระ หมองคล้ำ หรือร้ายแรงถึงขั้นมะเร็งผิวหน้าเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการจะหาครีมกันแดดดีๆ ที่แมตช์กับสภาพผิวและสภาพอากาศเมืองไทยเป็นเรื่องที่ยากมากในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ หลายคนต้องเจอกับปัญหาเนื้อครีมเหนียวหนักหน้า ซึมยาก ทำให้หน้าเยิ้ม ซึ่งหากทำความสะอาดไม่ดีก็อาจนำไปสู่ปัญหาผิวอุดตัน เกิดสิว ทำร้ายผิวหน้าในระยายะยาว และยิ่งไปกว่านั้นสำหรับคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายแล้วยังต้องค้นหาโปรดักต์กลุ่มที่ปราศจากสารเคมีอีกด้วย ยากเข้าไปใหญ่ ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ต้องหันไปถึงผลิตภัณฑ์เวชสำอางจากต่างประเทศ เพราะครีมกันแดดไทยหลายตัวที่มีในท้องตลาดนั้นไม่ตอบโจทย์นั่นเอง

ความเหน็ดเหนื่อยกับการตามหาครีมกันแดดที่ถูกใจ ทำให้ หนุย วริษฐา สืบพันธ์วงษ์ CEO, Founder ของ บริษัท มิซึฮาดะ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตแบรนด์สกินแคร์ มิซึมิ ‘Mizumi’ หนึ่งในสาวผิวแพ้ง่ายตัดสินใจเริ่มต้นทำครีมกันแดดในฝันของตนเองขึ้น

MizuMi ครีมกันแดดในฝัน ทางเลือกใหม่ของสาวไทย ใช้แล้วสบายใจ 

วริษฐา เริ่มต้นจากปัญหาใหญ่ของครีมกันแดด นั่นก็คือ เรื่อง ‘สารกันแดด’ (Chemical Sunscreen) ที่มีคุณสมบัติป้องกันแสงแดดด้วยการดูดซับรังสี UV ไม่ให้ทะลุผ่านไปยังผิวหน้า และเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนที่ไม่เป็นอันตราย แต่ขณะเดียวก็ทำให้ผู้ใช้ที่มีปัญหาผิวบอบบางไวต่อสารกันแดดแรงรู้สึกระคายเคืองผิว ซึ่งครีมกันแดดส่วนใหญ่ที่มีมาก่อนหน้ามักจะมีส่วนประกอบของสารกันแดดอยู่นั่นเอง 

วริษฐา จึงเกิดไอเดียทำครีมกันแดดที่เป็นตัวเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้ ชูเนื้อสัมผัสแบบน้ำ ไม่เหนียวเหนอะหนะ นำเสนอ ‘ความอ่อนโยน’ แต่ไม่ทิ้งประสิทธิภาพ ชูคุณสมบัติ ครีมกันแดด ‘ไร้สารกันแดดแบบเคมี’ เพื่อคนผิวแพ้ง่ายที่ Non-Chemical 100% ด้วยการพัฒนาสูตรแบบ Physical Sunscreen ที่ใช้หลักการสะท้อนรังสี UV ออกจากผิวแทน 

ซึ่งหลังจากเดินสายเก็บข้อมูลกับกลุ่มลูกค้าและเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นเวลานานถึงหนึ่งปี วริษฐาก็ได้เปิดตัว “MizuMi UV Water Serum” ครีมกันแดดเนื้อน้ำตัวแรกในปี 2557 ซึ่งกลายเป็นโปรดักต์ตัวดังที่ทำให้ MizuMi เริ่มเป็นที่รู้จักหลังจากนั้น  

ชนะใจตลาดคนผิวแพ้ง่าย บอกความจริง ทำให้คนเห็นถึงคุณภาพที่แท้จริง

ตลอดหลายปีตั้งแต่เปิดตัว MizuMi เน้นสร้างความจริงใจกับผู้ใช้ในทุกช่องทางการสื่อสาร เพราะ เรื่องผิวบอบบางแพ้ง่าย เป็นเรื่องใหญ่มาก การได้รับข้อมูลเพื่อตอบทุกความสงสัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ

MizuMi ใช้เวลาในการสร้างความเข้าใจให้กับผู้ใช้ถึงความต่างของครีมกันแดดในท้องตลาดกับครีมกันแดดของ MizuMi ตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบันนี้ โดยเริ่มแรกใช้กลยุทธ์ทางการตลาดในโซเชียลมีเดียด้วยการส่งครีมกันแดดให้บรรดาบล็อกเกอร์ทดลองใช้จนได้รับการบอกต่อถึงคุณภาพของ MizuMi แบบปากต่อปาก

นอกจากนี้ยังมีการกำหนดหลักการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า "5-FREE" เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ทุกผลิตภัณฑ์ปราศจากสารระคายเคืองผิว 5 ประการ ได้แก่ น้ำหอม (FRAGRANCE) น้ำมัน (OIL) พาราแบน (PARABEN) แอลกอฮอล์ (ALCOHOL) และสีสังเคราะห์ (SYNTHETIC) นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ของ MizuMi ทุกตัวได้ผ่านการทดสอบการแพ้ระคายเคืองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางผิวหนังอีกด้วย 

กลยุทธ์ใช้ความเป็นญี่ปุ่นในการสร้างแบรนด์

จุดสำคัญที่ทำให้ MizuMi โดดเด่น นั่นก็คือ ภาพลักษณ์ความอ่อนโยน ความสวยงามแบบเอเชีย คลีนและมินิมอล ซึ่งไม่แปลกท่ีหลายคนจะเข้าใจผิดว่า MizuMi เป็นแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น

โดยคำว่า Mizu มิซึ (น้ำ) Mi มิ (ความงาม) โดยรวมแล้ว MizuMi จึงแปลว่า ความงามที่เริ่มต้นจากน้ำ ซึ่งน้ำเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยนแต่ประสิทธิภาพสูง ภายใต้คอนเซปต์ ‘นิยามใหม่ของความอ่อนโยน’ (Gentle Defined) ได้อย่างเป็นดี สอดคล้องไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มี ‘น้ำ’ เป็นส่วผสมหลักในการบำรุงผิว เน้นการเติมน้ำความชุ่มชื่นให้กับผิว นั่นเอง

นอกจากนี้ถ้ารู้จัก MizuMi ให้มากยิ่งขึ้นจะพบว่า แบรนด์ยังนำเข้าส่วนผสมหลักจากญี่ปุ่นมาผลิตในประเทศไทย รวมถึงเทคโนโลยี know-how ต่างๆ เป็นที่มาของการพัฒนาครีมสูตรน้ำ (Water-Based) ที่ทำให้ครีมกันแดดของ MizuMi แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ นั่นก็คือ มีเนื้อสัมผัสแบบน้ำ สามารถแตกตัวเป็นเนื้อเซรั่มแบบละเอียด ซึมซาบได้เร็ว ทาทับเครื่องสำอางและออกแดดได้ทันทีอีกด้วย

แน่นอนว่าการนำเข้าและใช้เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น ทำให้ MizuMi มีความน่าเชื่อทั้งด้านมาตฐานและควาน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นที่รับรู้กันว่า ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องมาตรฐานการผลิตระดับโลกและได้รับความน่าเชื่อเป็นอย่างมากในเรื่องเทคโนโลยีความงามในระดับเอเชีย

มู้ดแอนด์โทนและกลิ่นอายแบบสกินแคร์สาวญี่ปุ่น ตั้งแต่การเลือกตั้งชื่อแบรนด์การออกแบบแพ็กเกจ การขึ้นสูตร ไปจนถึงการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่จริงจังขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเสริมให้ MizuMi มีศักยภาพเติบโตในระดับภูมิภาคมากยิ่งขึ้น

ย้อนดูผลประกอบการสามปีย้อนหลังของ มิซึฮาดะ กรุ๊ป จำกัดที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปี 2565 รายได้ 531 ล้านบาท กำไร 110 ล้านบาท ปี 2564 รายได้ 345 ล้านบาท กำไร 59 ล้านบาท ปี 2563 รายได้ 288 ล้านบาท กำไร 65 ล้านบาท  

ปัจจุบัน MizuMi กวาดรางวัลกว่า 20 รางวัลจากหลากหลายเวทีที่การันตีถึงคุณภาพ โดยนอกจากครีมกันแดด MizuMi ขยายไลน์สินค้าอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีคอนเซปต์หลัก คือ อ่อนโยนเพื่อคนผิวแพ้ง่ายแบบ Non-Chemical 100% ในทุกๆ ผลิตภัณฑ์

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney