บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ในเครือ TCC ทุ่มเงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท ปรับโฉม ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่ ที่รู้จักกันในฐานะศูนย์รวมด้านเทคโนโลยีและเกมมิ่งที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือที่เปิดมานานกว่า 18 ปี สู่ "THE PANTIP LIFESTYLE HUB" บนพื้นที่รวมมากกว่า 13,000 ตารางเมตร ที่จะกลายเป็นจุดแลนด์มาร์กสำคัญใจกลางเมืองเชียงใหม่ ตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ครบครันในที่เดียว ทั้งลูกค้าคนไทยทุกช่วงอายุและกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า THE PANTIP LIFESTYLE HUB ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพในย่านถนนช้างคลาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่
นอกจากนี้ยังจะเชื่อมโยงกับพื้นที่โครงการอื่นๆ ของ AWC อีก 12 โครงการครอบคลุมตั้งแต่ถนนช้างคลานถึงประตูท่าแพ อาทิ โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่, โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่, โรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ และโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง ที่กำลังจะเปิดให้บริการในปีนี้ รวมถึง โครงการ ล้านนาทีค ที่จะครอบคลุม ไนท์บาร์ซา เดอะพลาซา และกาแล ไลฟ์สไตล์มาเก็ต เพื่อเชื่อมต่อประสบการณ์ที่มากกว่าการท่องเที่ยวบนเป้าหมายใหญ่ที่จะทำให้ เชียงใหม่เป็น “ไลฟ์สไตล์ เดสติเนชั่น” หนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลกและขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมให้เติบโตยิ่งขึ้น
THE PANTIP LIFESTYLE HUB ภายใต้แนวคิด Lifestyle Experience มิติใหม่ของธุรกิจ Retail ที่จะมอบประสบการณ์หลากหลายบน 3 แกนหลัก เพื่อสร้าง “ทุกเวลาสุขสนุกของทุกคน” ได้แก่
นอกจากนี้ยังดึงเสน่ห์ของเชียงใหม่นำเสนอผ่านออกแบบสถานที่แบบโมเดิร์นและศิลปะล้านนาร่วมสมัย และกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมเดิมของเชียงใหม่ ทั้งหมด 4 โซน ได้แก่
LANNA GAD โซนพื้นที่ร้านค้าปลีก ซุ้มอาหารเจ้าดัง และซุปเปอร์มาร์เก็ต
LANNA ARTISAN โซนพื้นที่ร้านอาหารและร้านอุปกรณ์ไอที ที่จะต่อยอดจุดแข็งเดิมจากศูนย์กลางด้านอุปกรณ์ไอทีให้สอดคล้องกับดิจิทัลไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น
LANNA AESTHETIC ศูนย์สุขภาพและความงาม สินค้าแฟชั่น รวมถึงเครื่องใช้แม่และเด็ก
LANNA AMUSEMENT ศูนย์การศึกษาและพื้นที่ความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน
ทั้งนี้ THE PANTIP LIFESTYLE HUB มีกลุ่มร้านค้าและธุรกิจให้ความสนใจกว่า 50% หรือประมาณกว่า 60 เจ้า และอยู่ระหว่างเจรจา โดยราคาสำหรับผู้เช่าใหม่เริ่มต้น 600-800 บาทต่อตารางเมตร ขณะเดียวกันยังตอบโจทย์ผู้เช่าเดิมเพื่อให้เติบโตไปพร้อมกันได้ ปัจจุบันอยู่ในช่วงการปรับปรุงผังร้านค้า ปรับปรุงระบบจัดการพลังงาน รวมถึงเตรียมแผนการบริหารเพื่อให้ได้มาตรฐานอสังหาริมทรัพย์แบบยั่งยืน โดยคาดจะปรับปรุงเสร็จสิ้นและเปิดตัวภายในไตรมาสสามปีนี้