การแข่งขันเขียนโค้ดระดับนานาชาติของแอปเปิล ในปีนี้ได้เห็นถึงพลังสร้างสรรค์ของนัก พัฒนารุ่นเยาว์จากทั่วโลก โดยหนึ่งในนั้นคือกลุ่มนักเรียนไทย ที่สามารถเปลี่ยน App Play ground ให้กลายเป็นเวทีถ่ายทอดเรื่องราว ผ่านโค้ดและการออกแบบที่ชาญฉลาดอย่างน่าทึ่ง
โครงการ Swift Student Challenge ไม่ได้เป็นเพียงแค่รางวัลเชิดชูเกียรติ แต่สร้างขึ้นเพื่อปลุกศักยภาพของนักคิดรุ่นใหม่ ให้เรียนรู้ทักษะสำคัญในยุคนี้ ตั้งแต่การคิดเชิงระบบ การแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ไปจนถึงการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้อย่างลึกซึ้ง
ปีนี้มีผู้ได้รับคัดเลือก 350 คนจากทั่วโลก บางรายยังได้เข้าร่วมงาน WWDC 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9-13 มิถุนายนนี้ ที่เมืองคูเปอร์ติโน สหรัฐอเมริกา เวทีที่ผู้สร้างนวัตกรรมจากทั่วโลกเฝ้ารอ
ชวภณ เนติสิงหะ
จากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ผู้เริ่มต้นเส้นทางการเขียนโค้ดตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จากการทดลองเขียนคำสั่งในเกม Minecraft ก่อนจะต่อยอดสู่ภาษา Swift เขาได้พัฒนาแอปที่มีชื่อว่า Systaxia ซึ่งเป็นเกมที่มีเส้นเรื่องน่าสนใจ โดยผู้เล่นจะต้องช่วย ‘ยูกิ’ ตัวละครหลักซึ่งเข้าไปติดในคอมพิวเตอร์ให้ออกมาสู่โลกภายนอกให้ได้ พร้อมๆ กับเรียนรู้พื้นฐานการเขียนโค้ดและทำแบบทดสอบในแต่ละด่านให้สำเร็จ
ความใฝ่ฝันในอนาคต
“ส่วนตัวผมอยากเรียนที่ MIT, Harvard, Stanford, U-tokyo ครับและถ้าสำหรับไทยก็น่าจะ KMITL กับ Chula ครับในอนาคตผมอยากเปิด Startup ของตัวเองที่มีสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Tech/AI ที่เป็น Ground breaking ที่ทุกคนใช้กันทั่วโลกและช่วยเหลือผู้ใช้งานให้ได้รับประโยชน์ ช่วยให้คนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นครับ”

...
เหตุผลทำไมถึงใช้ iPad ในการพัฒนาแอป
“ผมเลือกใช้ iPad Air Gen 5 เพราะน้ำหนักเบา สะดวกที่จะพกไปโรงเรียนครับ ช่วงเรียนก็จดโน้ตในแอปอื่นๆครับแล้วพอว่างก็เปิด Swift playground มาพัฒนาแอป ได้ครบ จบ ในเครื่องเดียว ที่สำคัญไม่ต้องห่วงเรื่อง Memory limit ด้วยครับเพราะสามารถรับ Simulator / Preview บนเครื่องได้เลยครับ อีกอย่างก็คือเวลาจะสร้าง Art assest มันง่ายกว่าครับ สามารถใช้ปากกากับแอป Procreate วาดรูปได้เลยครับ”.

ศรุติ์ อาจณรงค์
นักเรียนจากโรงเรียนนาคประสิทธิ์ มูลนิธิวัดบางช้างเหนือ ผู้เริ่มต้นเส้นทางการเขียนโค้ดตั้งแต่อายุ 13 ปี เขาได้นำความถนัดในการเขียนโค้ดรวมเข้ากับความรักในการเล่นเปียโนจนสร้างสรรค์แอปที่มีชื่อว่า HearPiano แอปนี้ออกแบบมาเพื่อฝึกการฟังเสียงเปียโนและการจูนโน้ต โดยผู้ใช้จะสวมบทเป็นช่างจูนเปียโน ปรับเสียงให้ตรงคีย์ในเวลาที่จำกัดเพื่อช่วยเสริมทักษะการแยกแยะเสียงในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
ความใฝ่ฝันในอนาคต
“อยากจะเรียนในด้าน Software Engi neer และการออกแบบ UI ของแอปพลิเคชันครับ ผมรู้สึกว่าผมถนัดในการสร้างสรรค์ผ่านการเขียนโปรแกรม ไม่ว่าจะเป็นการทำแอปด้วย Swift รวมถึงงานหน้าบ้านหรือ front end ต่างๆ ผมก็อยากจะศึกษาและทำงานในสายนี้ในอนาคตด้วยครับ

“จุดแข็งหลักๆที่ทำให้ผมตัดสินใจ
ใช้ iPad Air Gen 5 ในการพัฒนาแอป เพราะเรื่องของการพกพาครับ คือพก iPad ได้เหมือนตอนไปเรียนในห้องเรียนตามปกติเลยครับ เมื่อต้องพิมพ์โค้ด ผมแค่พกMagic Keyboard ที่เบามากๆ เพิ่มแค่ 1 ชิ้น ผมชอบ workflow นี้มากๆ ใช้ iPad ร่วมกับ Magic Keyboard
ในการเขียนโค้ด และใช้นิ้วกดหน้าจอเพื่อทดสอบแอป และ scroll ดูโค้ด ทำได้ง่ายและสะดวกมากๆ เลยครับ”.

...
หลี่ เจิ้น หยี่ ลี
นักเรียนจากโรงเรียนวารีเชียงใหม่ เขาเกิดมาพร้อมกับปัญหาด้านการได้ยินซึ่งทำให้เขาได้ยินเสียงจากหูซ้ายน้อยกว่าหูขวา เรื่องนี้ได้จุดประกายไอเดียของเขาในการช่วยเหลือชุมชนผู้ที่มีปัญหาการได้ยินผ่านแอป HearMeOut โดยแอปนี้สามารถแปลงเสียงพูดเป็นข้อความได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้เทคโนโลยี Augmen ted Reality (AR) เพื่อช่วยให้การสื่อสารของผู้ที่มีปัญหาการได้ยินมีประสิทธิ ภาพยิ่งขึ้น

ความใฝ่ฝันในอนาคต
“ในอนาคตผมอยากเรียนที่ MIT คณะ และสาขา Medical Engineering เพื่อที่ในอนาคตผมสามารถเปิดบริษัททำอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้รับมาตรฐานสากลในประเทศไทยได้ครับ”

“ผมใช้ IPad Air5 ในการเขียนโค้ด โดยเหตุผลที่ใช้เนื่องจากมีความสะดวกสามารถนำไปเขียนที่ไหนก็ได้ และยังสามารถใช้ฟังก์ชันกล้องในทันที เช่นแอปของผมที่ต้องใช้กล้องในการทำ AR จึงสามารถทดลองและปรับแก้ได้ทันทีครับ”.

เจษฎา พงศ์ภัณฑารักษ์
นักเรียนจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม ผู้มีความสนใจในประเด็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้เขามุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่ลดปัญหาขยะไมโครพลาสติก และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบของประเด็นนี้ที่มีต่อสิ่งแวดล้อม เขาจึงพัฒนาแอป microPLASTICS เกมแบบอินเตอร์แอ็กทีฟที่ให้ความรู้เรื่องการจัดการขยะอย่างถูกวิธี พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงอันตรายของไมโครพลาสติกในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจ
ความใฝ่ฝันในอนาคต
“ผมอยากเรียนที่คณะวิศวะคอม (sand box) จุฬาฯ อนาคตหลังจากเรียนจบผมอยากจะทำงานในบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีและทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยี ที่ผมอยากเรียนคณะนี้และทำงานในด้านนี้เพราะผมมองว่าในอนาคตจะสามารถต่อยอดไปได้หลายด้านครับ”
...

“ผมใช้ iPad Pro Gen 3 กับ Apple Pencil สำหรับผมแล้วนี่ถือเป็นอุปกรณ์ที่ all in one มากๆ อีกทั้งมีความเสถียรมากพอที่ใช้ในการทำแอปได้ไม่แพ้ MacBook เลยครับ”
ความสำเร็จของนักเรียนไทยในเวทีนี้ ไม่เพียงสะท้อนศักยภาพด้านเทคโนโลยีระดับสากล แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยคนอื่นๆ กล้าคิด กล้าลอง และกล้าเขียนโค้ด เพื่อสร้างอนาคตในแบบของตนเอง ผ่านภาษาที่ไม่จำกัดแค่การสื่อสาร แต่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้จริง.
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม