หลังจากเปิดตัว iPad Pro ชิป M4 และ iPad Air ชิป M2 คู่หูที่ลงตัวที่จับตลาดพรีเมียมและตลาดระดับกลาง เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แอปเปิล ได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่วางตลาดในประเทศไทยผ่านร้านค้า Apple Store ร้านค้าออนไลน์และตัวแทนจำหน่าย อย่างเป็นทางการเมื่อ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา
ทางทีมงานได้รับอุปกรณ์ใหม่เป็นที่เรียบร้อย ขอเวลาทดลองใช้งานสักพักจะทำการรีวิวการใช้งานฉบับเต็ม ตอนนี้ขอพรีวิวไปล่วงหน้า
iPad Pro ชิป M4 นับเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญ ที่แอปเปิลจัดเต็มมาให้ทั้งการออกแบบ ชิปใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยใช้ในผลิตภัณฑ์ใดมาก่อน จอภาพได้อัปเกรดมาให้สมการรอคอย

สัมผัสแรกที่เปิดกล่อง iPad Pro ชิป M4 จอ 13 นิ้ว สีดำสเปซแบล็ก Wi-Fi หน่วยความจำ 1 TB ตัวเครื่องถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม บางเฉียบและรู้สึกถึงความบางได้ชัดจนต้องจับแน่นๆกลัวจะทำหล่น กับความบางเพียง 5.1 มม. เท่านั้นและหนักไม่ถึง 579 กรัม
...
อีกจุดเด่นที่สำคัญคือชิป M4 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและช่วยให้การทำงานของแท็บเล็ตมีความเร็วและลื่นไหลมากขึ้น เป็นหนึ่งในชิปที่ทรงพลังและล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน มีเดียเอนจินล้ำหน้า รองรับ Codec วิดีโอยอดนิยมอย่าง H.264, HEVC และ ProRes พร้อมการเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ที่ช่วยให้การประมวลผลวิดีโอมีประสิทธิภาพสูงสุด
จอภาพเปลี่ยนมาเป็น Ultra Retina XDR เป็นจอแสดงผล OLED สองชั้นที่มีความละเอียด 2420 x 1668 พิกเซล ที่ 264 ppi พร้อมเทคโนโลยี ProMotion ที่ปรับอัตรารีเฟรชได้ตั้งแต่ 10Hz ถึง 120Hz ให้ภาพคมชัดและสีสันสดใส
การออกแบบที่เรียบง่ายแต่หรูหราและมีความบางเบามากขึ้น ทำให้พกพาได้สะดวก เมื่อเทียบกับ iPad Pro ชิป M2 จอ 12.9 นิ้ว เทียบแล้วดูขนาดจอเท่ากัน แต่ความบางของขอบจอต่างกัน ทำให้รุ่นใหม่มีขนาดจอใหญ่กว่าเล็กน้อย เป็นจอ 13 นิ้ว แต่ความบางต่างกันจนเห็นได้ชัด
iPad Pro ชิป M4 2 สี ได้แก่ สีเงิน และ สีดำสเปซแบล็ก 2 รุ่น คือรุ่น 11 นิ้ว ขนาด 256GB Wi-Fi เริ่มต้นที่ 39,900 บาท และรุ่น 13 นิ้ว ขนาด 256GB Wi-Fi เริ่มต้นที่ 52,900 บาท


สำหรับ iPad Air ชิป M2 ได้รับอุปกรณ์มาเป็นสีฟ้า จอ 11 นิ้ว รุ่น Wi-Fi ขนาด 1 TB โดย iPad Air รุ่นใหม่นี้มีความน่าสนใจกับการอัปเกรดมาใช้ชิป M2 ซึ่งเป็นชิปเดียวกับ iPad Pro รุ่นก่อนหน้า แน่นอนว่ามีประสิทธิภาพและทรงพลังยิ่งกว่าเคย
iPad Air ชิป M2 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์, สีฟ้า, สีม่วง และ สีสตาร์ไลต์ มี 2 รุ่น คือรุ่นจอ 11 นิ้ว 128GB Wi-Fi ราคาเริ่มต้นที่ 23,900 บาท ส่วนรุ่น 13 นิ้ว 128 GB Wi-Fi เริ่มต้นที่ 29,900 บาท
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริม Apple Pencil Pro ใหม่ กับการใช้งานในรูปแบบใหม่ ต่างจากเดิมกับเซ็นเซอร์ใหม่ กับความสามารถใหม่ๆ ราคา 4,990 บาท
นอกจากนี้ Magic Keyboard แบบใหม่หมดที่ทั้งบางและเบาขึ้น แถวปุ่มฟังก์ชันสำหรับเรียกใช้คุณสมบัติต่างๆ อย่างความสว่างหน้าจอและการควบคุมระดับเสียงใช้งานเหมือน MacBook Air มีที่พักมืออะลูมิเนียมอันสวยงามและแทร็กแพดกระจกขนาดใหญ่ขึ้น ใช้งานได้รวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น มีสีดำพร้อมที่พักมืออะลูมิเนียม สีดำสเปซแบล็ก และสีขาวพร้อมที่พักมืออะลูมิเนียมสีเงิน รุ่น 11 นิ้ว ราคา 11,990 บาท รุ่น 13 นิ้วราคา 13,990 บาท
...


ส่วนคัฟเวอร์ Smart Folio ใหม่ยึดติดด้วยแม่เหล็กสามารถปรับองศาการมองได้หลากหลายมีให้เลือกทั้งสีดำ สีขาว และสีฟ้าเดนิม รุ่น 11 นิ้ว ราคา 3,390 บาท
iPad Pro ชิป M4 เหมาะสำหรับผู้ต้องการใช้งานระดับขั้นสุด สำหรับมือโปรที่ต้องการใช้ประสิทธิภาพขั้นสุดไม่ว่าจะเป็นงานกราฟิก ตัดต่อวิดีโอ สายคอนเทนต์ คอเกมหนักๆ ต้องการใช้อุปกรณ์บางเฉียบและเบาเพื่อการพกพาสะดวก
...
ส่วน iPad Air ชิป M2 เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป นักเรียน นักศึกษา ซึ่งจำเป็นต้องใช้จดบันทึก ส่งงาน หรือทำคอนเทนต์ และผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพระดับโปร ขนาดจอเท่ากับรุ่นโปรทั้งสองรุ่น แต่ราคาถูกกว่ามาก
ทั้ง 2 รุ่นใช้ร่วมกับ Apple Pencil Pro ซึ่งช่วยในการสร้างสรรค์ผลงานได้หลากหลายและสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ใช้เหมือนกัน
ถูกใจแบบไหน คงมีคำตอบกันแล้ว.


...
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม