หลายคนอาจคิดว่าการค้นพบไดโนเสาร์ที่สำคัญทั้งหมดเกิดขึ้นจากการพบซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลในท้องทุ่งหรือตามแหล่งธรรมชาติในทันที แต่จริงๆ แล้วบางครั้งการค้นพบไดโนเสาร์ครั้งสำคัญหรือชนิดใหม่ๆ ก็มาจากการที่นักวิจัยหยิบเอาฟอสซิลที่ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์มานานเป็นเวลาหลายปีมาศึกษาใหม่

อย่างเช่น กะโหลกศีรษะ ของไดโนเสาร์สกุลแองคิโลซอร์ (ankylosaur) ซึ่งเป็นสมบัติเก่าเก็บในพิพิธภัณฑ์เซาท์ ออสเตรเลีย ซากฟอสซิลเจ้าแองคิโลซอร์ตัวนี้ค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 2548 ใกล้กับเมืองบูเลีย ในภูมิภาคควีนส์แลนด์ ทั้งนี้ แองคิโลซอร์มีลักษณะเด่นคือเกราะหนาที่หุ้มตั้งแต่หัวไปจนถึงปลายหาง และเดินบน 4 ขา พวกมันมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ยุคจูราสสิกตอนต้นจนถึงปลายยุคครีเตเชียส ประมาณ 196-66 ล้านปีก่อน ทว่าเมื่อเทียบกับไดโนเสาร์ชนิดอื่นๆ เช่น ซอโรพอดคอยาวและออร์นิโทพอดที่กินพืชเป็นอาหารและมีขนาดเล็กกว่า ก็ถือว่าซากฟอสซิลแองคิโลซอร์นั้นพบได้น้อยมากในออสเตรเลียและในซีกโลกใต้ ดังนั้น นักบรรพชีวินวิทยาจึงตื่นเต้นเมื่อค้นพบกะโหลกศีรษะของแองคิโลซอร์ตัวที่ 2 ของออสเตรเลีย

จากการวิเคราะห์กะโหลกศีรษะและฟันของฟอสซิลดังกล่าว นักบรรพชีวินวิทยาระบุว่าเป็นกระดูกของกลุ่ม Kunbarrasaurus ซึ่งเป็นสกุลหนึ่งในวงศ์แองคิโลซอร์ และสันนิษฐานว่าไดโนเสาร์ตัวนี้อาจมีแพร่หลายมากในพื้นที่รัฐควีนส์แลนด์ในยุคอดีต โดยมากกว่าที่เคยคิดไว้และมันน่ามีชีวิตอยู่เมื่อ 105 ล้านปีที่แล้ว.


(พื้นที่ขุดพบแองคิโลซอร์เมื่อปี 2548 Credit : Uppsala University)