เป็นคนสมองแล่นปรู๊ดปร๊าดตลอดเวลา จึงออกโรงในโอกาสสำคัญๆของบ้านเมืองเสมอ หลายสิบปีมานี้ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ จึงเผชิญกับสถานการณ์ที่ต้องรับมือมาสารพัด หลังจากปรับตัวจากงานการเมือง ไปเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ก็หันไปมีบทบาทสังคมและธุรกิจ ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในวงการกีฬาระดับโลก โดยเฉพาะเทนนิส และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทำให้ พราว เรียลเอสเตท เป็นกลุ่มพัฒนาอสังหาฯแถวหน้า มีทั้งโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลหัวหิน-ภูเก็ต โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ หัวหิน ซึ่งมีสวนน้ำระดับโลก โครงการคอนโดมิเนียม ศูนย์การค้า ซึ่งเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวไปด้วย

ตั้งแต่เกิดการระบาด คุณสุวัจน์ ซึ่งมองว่างานนี้ยาวแน่ ก็รีบให้พรรคชาติพัฒนา เปิด ศูนย์ฅนโคราชรักจริง ไม่ทิ้งกัน ทำหน้ากากอนามัยสีส้มแจกกระจายเป็นรายแรกๆ ตั้งแต่ต้นปี 2563 และจัดหาอุปกรณ์แพทย์ ตู้เย็น พัดลม SINK ล้างมือ ให้โรงพยาบาลสนาม และแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ถุงน้ำใจ อาหารกล่อง ช่วยชาวโคราชอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ ซึ่งล่าสุดได้หา ต้นกล้า ฟ้าทะลายโจร มาแจก เพราะเห็นว่ายาฟ้าทะลายโจรมีราคาแพงขึ้น เพราะกำลังขาดแคลน หลังทดลองได้ผลกับผู้ป่วย ที่ไม่มีอาการ หรือผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย ว่าสารสกัดแอนโดรกราโพไลด์ ของ ฟ้าทะลายโจร สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และรักษา ผู้ป่วยโควิด หายได้

...

คุณสุวัจน์ ซึ่งให้ความร่วมมือกับการล็อกดาวน์ จึงวิดีโอคอลจากบ้านกรุงเทพฯ ไปเปิดกิจกรรมการแจกต้นกล้า ที่พรรคชาติพัฒนา โคราช มูลนิธิเก้ายั่งยืน มูลนิธิรักษ์ดิน รักษ์น้ำ และออฟฟิศชาวนา ช่วยกันจัดหามาได้ 12,000 ต้น (ซึ่งจากต้นละ 10-20 บาท ตอนนี้ขายกันแพงขึ้น 5-6 เท่า) แจกประชาชน 5,600 ต้น หน่วยงานราชการ เทศบาล อบต. ตําบล ชุมชนต่างๆ 6,400 ต้น โดยบอกวิธีปลูกให้เสร็จ ว่าปลูกราว 3-4 เดือน พอต้นโตราว 1 เมตร ก็ตัดกิ่งและใบมาใช้ได้ จะต้มน้ำดื่ม กินสดๆ หรือจะตากแล้วคั่วกระทะจนแห้งแล้วบดเป็นผงกิน--ตอนนี้ คุณสุวัจน์ จึงมีแต่คนขอต้นกล้าฟ้าทะลายโจรทุกวัน ขนาดต้นที่
เอามาประกอบข่าวตอนนักข่าวไปทำข่าว ก็ถูกจิกไป จนตอนนี้ที่บ้านไม่เหลือแม้แต่ต้นเดียว.

——————————————————————

เพราะได้รับกำลังใจท่วมท้นจากคนรู้จักและไม่รู้จัก กับคดีที่ลูกชายขับรถชนนายดาบเสียชีวิต เมื่อปี 2555 แต่ป่านนี้ 9 ปีแล้ว ยังไม่จบ จนทำให้ทุกคนที่มีใจยุติธรรม เริ่มเปรียบเทียบกับคดีขับรถชนอื่นๆ ซึ่งผู้ขับขี่ก็มีทั้งชนโดยประมาท เมาและอันธพาล ซึ่งหลายราย
ก็ไม่ได้ชดเชยช่วยเหลือผู้ตายเหมือนคดีนี้ ผู้คนจึงส่งความเห็นใจให้มากมาย ทำให้ เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัวเริ่มทำใจได้ ว่ายังมีมิตร มีกัลยาณมิตร และไม่ตอบโต้กับสังคมบางกลุ่มที่มีแต่อคติ โดยยังช่วยเหลือสังคมและคนไทยตลอดเวลา

พอเห็นว่าวิกฤติจากโควิดหนักขึ้น คุณเฉลิม ซึ่งช่วยดูแลอนุรักษ์สัตว์ป่าอย่างเงียบๆมาเป็นสิบปีแล้ว โดยเฉพาะที่ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ที่เป็น ซาฟารีเมืองไทย เพราะมีฝูง ช้างป่า กระทิง เสือโคร่ง เก้งหม้อ กวาง สมเสร็จ ไก่ฟ้าหน้าเขียว และสารพัดนก และสัตว์ป่าหายาก วัวแดง จึงเห็นใจผู้ที่ทำงานช่วยเหลือสัตว์ป่า เมื่อทราบว่า มูลนิธิอนุรักษ์ช้าง
และสิ่งแวดล้อม จังหวัดเชียงใหม่ กำลังลำบาก พยายามฝ่าฟันช่วงวิกฤติโดยทำงานกันอย่างหนัก ทั้งปลูกอาหารให้สัตว์ ขายตะกร้าผลไม้ เค้กผลไม้ เพื่อหารายได้มาดูแลให้ช้างอยู่รอด แต่เพราะแทบทุกคนลำบาก จึงไม่ง่ายที่จะได้การสนับสนุน

แต่วันหนึ่ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก และตื่นเต้นดีใจกันสุดๆ กระจายข่าวให้คนรักช้างทั่วประเทศว่ามีคนเมตตาแล้ว เพราะ คุณเฉลิม ให้ทีมงานจากกลุ่มบริษัทสยาม ไวเนอรี่ ไปดูการทำงานโครงการช่วยเหลือสัตว์ของ มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ที่เชียงใหม่ ว่าอยู่กันลำบากอย่างไร แล้ว คุณเฉลิม กับครอบครัว ก็บริจาคเงินเพื่อใช้ดูแลรักษา ค่าอาหารสัตว์ โดยให้กระทิงแดงช่วยช้าง เป็นเวลา 6 เดือน เดือนละ 5 แสนบาท เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงยากลำบากไปได้.

...

โสมชบา