สู้โควิด วิสิทธิ์ ลีละศิธร จากมูลนิธิไกรสิทธิการกุศล มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อสมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดี โครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยมีศ.นพ.พรชัย สิมะโรจน์ และ มาลี สังวาลย์เล็ก เป็นผู้รับมอบ ที่อาคารมูลนิธิ พอ.สว. วันก่อน.
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ...ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ... สถานการณ์วิกฤติโควิด สะท้อนวิกฤติผู้นำ...ฉบับ ประจำวัน
พฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม 2564
ความรุนแรงการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในประเทศไทย ยังอยู่ในอาการที่น่าวิตก...จำนวนผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ใกล้แตะ 2 หมื่นราย อยู่ในระดับ 1.7-1.8 หมื่นราย...ติดต่อกันเกิน 14 วัน ตามมาตรการล็อกดาวน์ของ ศบค. ...เป็นเหตุให้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้อง ประกาศล็อกดาวน์ต่อเนื่อง เป็น 2 ระลอก จนถึงวันที่ 18 ส.ค.นี้ เป็นช่วงที่ 1 และไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค. เป็นช่วงที่ 2...ไม่มีอะไรรับประกันว่า จะมีการล็อกดาวน์ไปนานแค่ไหน หรือ จะเพิ่มระดับการล็อกดาวน์ จังหวัดพื้นที่ควบคุมสีแดงเข้ม เป็น ล็อกดาวน์ 24 ชั่วโมง หรือไม่...

...
พิสูจน์ถึง ความล้มเหลว ของ ระบบสาธารณสุขไทย และ การออกมาตรการ นโยบายของรัฐบาล ในการรับมือป้องกันโรคระบาด...ไม่ว่าจะเป็นล็อกดาวน์ ตรวจหาเชื้อเชิงรุก ระบบการฉีดวัคซีน หรือการนำระบบ Home Isolation มาใช้...นอกจากไม่ได้ผล กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้...ในทางตรงกันข้าม ทำให้เกิดการแพร่ระบาดจาก ครอบครัว ติดกันยกบ้าน ลามไปถึง บุคลากรทางการแพทย์ ในโรงพยาบาลและพบว่ามีการติดเชื้อจาก โรงพยาบาล และ สถานที่ฉีดวัคซีน...กลายเป็น แหล่งคลัสเตอร์จุดยุทธศาสตร์ เพราะความแออัด...ไหนสัญญาว่า จะไม่ทิ้งให้ชาวบ้านตายอย่างอนาถา

นอกจากนี้ ยังพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใน ระดับสีเหลือง และ สีแดง เพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก จำนวนผู้ป่วยหนัก จะตามหลัง จำนวนผู้ติดเชื้อ ประมาณ 7-10 วันในจำนวนผู้ติดเชื้อพบว่า เป็นผลการตรวจจาก Antigen Test Kit เพิ่มขึ้นสะสมที่ 5,835 ราย...ณ วันที่ 3 ส.ค. มี จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม แล้ว 652,185 ราย...อยู่ในระหว่างการรักษาตัว 209,039 ราย โรงพยาบาลหลัก รับได้แค่ 72,728 ราย อยู่ใน โรงพยาบาลสนาม 136,311 ราย...ที่รักษาหายไปแล้ว สะสม 438,050 ราย...เสียชีวิตสะสม แล้ว 5,315 ราย...คนป่วยที่มีอาการหนัก 4,893 ราย...ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 1,046 ราย...
ในขณะที่มีการ ฉีดวัคซีนสะสม ไปแล้ว 17.861 ล้านโดส...เฉลี่ยแล้ว ฉีดได้วันละประมาณ 2.5-2.7 แสนโดสต่อวันจากเป้าหมาย 5-7 แสนโดสต่อวัน...เมื่อเทียบสัดส่วนจากปัจจัยที่ว่ามานี้ ความพร้อมในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด และ การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่...ความพร้อมของ ระบบสาธารณสุข ทั้งเตียง โรงพยาบาลและห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน...เฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 โรคเดียว...ยังไม่รวมผู้ป่วยอาการหนักจากโรคอื่นๆ...ก็ยากที่จะรับมือ...เวลาเดียวกัน จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ มีสถิติการติดโควิด-19 เพิ่มขึ้นทุกวัน...ถ้ารัฐบาลจะรับมือแค่การ ล็อกดาวน์ และไม่ฉีดวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกัน ที่มีคุณภาพ ให้กับ บุคลากรทางการแพทย์...อนาคตคงขึ้นอยู่ที่ดวง

...
นโยบาย ให้ ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า เปิดจำหน่ายอาหารแบบ ออนไลน์ ผ่าน ไรเดอร์...ไม่อนุญาตให้จำหน่าย ซื้อกลับบ้าน...หรือดันทุรังจะจัด โครงการกระตุ้นการท่องเที่ยว ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์...สมุย โมเดล เปิดเกาะ กระบี่ พังงา รับนักท่องเที่ยว...โดยที่ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ หนักจนต้อง ล็อกดาวน์ ยุติการขนส่งโดยสาร ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม...
การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในต่างประเทศ มีแนวโน้มที่จะกลับมาระบาดหนักรอบใหม่...พบการติดเชื้อที่เมือง อู่ฮั่น ประเทศจีนอีกครั้ง...ใน สหรัฐฯ ต้องกลับมาใช้มาตรการเข้มข้น กลับมาใส่หน้ากาก เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิดรุนแรงขึ้น...ภูเก็ต เองต้องขยับระดับการติดเชื้อโควิด มาเป็นสีส้ม แล้ว...เพิ่มจังหวัดควบคุมสีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัด ...จะไปกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบไหน...เคราะห์ซ้ำกรรมซัด นอกจากยัง จัดหาวัคซีน ไม่ทันใช้...ไฟแนนเชียลไทม์ รายงานว่า ทั้ง ไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา ประกาศ ขึ้นราคาวัคซีน ที่ใช้ฉีดในทุกประเทศของ สหภาพยุโรป เป็นการนำร่อง...ไฟเซอร์ จาก 18.39 ดอลลาร์ เป็น 23.15 ดอลลาร์...และ โมเดอร์นา จาก 22.60 ดอลลาร์ เป็น 25.50 ดอลลาร์...เนื่องจากวัคซีนทั้ง 2 ชนิดนี้มีความต้องการเป็นจำนวนมาก.....ว้าเหว่
เอ้า แล้วเบื้องหน้าเบื้องหลังของการ บริจาควัคซีน ไฟเซอร์ จาก รัฐบาลสหรัฐฯ จากเดิม 1.5 ล้านโดส เป็น 2.5 ล้านโดส...นอกจากจะต้อง มีการตรวจสอบจำนวนวัคซีนที่รับบริจาคกับจำนวนที่วัคซีนที่ได้รับตรงกันหรือไม่แล้ว...มนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ...

...
ยอมรับ ต้องไปประสานกับ บริษัทยาโดยตรง ทั้ง ฝ่ายรัฐบาลและทำเนียบขาวกับกระทรวงการต่างประเทศและกับ ส.ส. และ ส.ว.ของสหรัฐฯ...เพื่อเร่งผลักดันให้ได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด...รวมทั้งมี ชุมชนไทย ได้ใช้ความพยายามสื่อสารกับ นักการเมืองของสหรัฐฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือไทยอีกแรง...นอกจากนี้ยังมี บริษัทอเมริกาที่อยู่ในเมืองไทย ช่วยสนับสนุน...ต้องติดต่อกับทุกบริษัทวัคซีนของสหรัฐฯทุกช่องทาง...เพราะฉะนั้นเมื่อ ไฟเซอร์ ได้มาด้วยความยากลำบากจากหยาดเหงื่อของพี่น้องคนไทย...ก็ต้องถึงมือบุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงทุกโดส...ใช่ไม่ใช่
หันมาที่ การเมืองร้อนตามสถานการณ์โควิด...การแสดงภาพความเหนียวแน่นของ พรรคร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่ามกลางมรสุม สารพัดม็อบ ไล่ พล.อ.ประยุทธ์....จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าประชาธิปัตย์...อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าภูมิใจไทย และ วราวุธ ศิลปอาชา แกนนำชาติไทยพัฒนา...ถือว่าเป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน...แต่ไม่ได้รับประกันว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป...การเมืองที่ไม่มีมิตรและศัตรูที่ถาวร...อะไรก็เกิดขึ้นได้
ปรากฏการณ์สามัคคีชุมนุมที่ ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท อดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เป็นหน่วยกล้าตาย...ออกมายืนเคียงบ่าเคียงไหล่ ไล่ พล.อ.ประยุทธ์ และขอโทษ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์...และปรากฏการณ์ ล้มกระดาน แต่งตั้ง ปลัดมหาดไทยข้ามห้วย...ได้ สุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ที่มีอาวุโสอันดับ 1 มานั่งเก้าอี้ปลัดมหาดไทย ตามการเสนอของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย...กลายเป็นการไปเหยียบตาปลาใครบางคน...ที่จะเอา จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯมานั่งเก้าอี้นี้ตามข่าว...เกมพลิก คนก็พลิก

...
“อินทรีเหล็ก”