สุฐิตา โชติจุฬางกูร จาก เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป มอบเงินรายได้จากการจัดงาน “ตลาดเปิดดวงพยากรณ์ครั้งที่ 2 #สายมูต้องมา” ให้แก่ ทัศนีย์ รัตนะ เพื่อสมทบทุนมูลนิธิช่วยคนตาบอด โดยมี ปภาวรินท์ สมุทแสง มาร่วมในพิธีด้วย ที่ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก วันก่อน.
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ...ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ... เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ปะทะการเมืองร้อนในสภา..... ฉบับ ประจำวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564
@ การแพร่ระบาดของ โรคติดต่อไวรัส โควิด–19...เป็นปัญหาทางสามแพร่งระหว่าง การเมือง–เศรษฐกิจและ สังคม...ที่ละเอียดอ่อน ต้องใช้ความสมดุล...เอาไว้ถ่วงดุล การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน...เงินเยียวยา ที่รัฐบาลปล่อยโครงการออกมา แบบครึ่งๆกลางๆ...ทีละนิดทีละหน่อย...นำไปสู่ ความเหลื่อมล้ำของสังคม...นโยบายการ ฉีดวัคซีน ทั่วหน้า ที่ยังไม่ชัดเจน...ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะออกมารับประกัน การฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด–19 จะเป็นไปตามกำหนดเดิมและมีจำนวนไม่น้อยกว่าจำนวนประชากร 35 ล้านคน....ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่ว่า จะฉีดวัคซีนให้ใครก่อนใครหลัง...แต่ จะมีวัคซีนเพียงพอ ฉีดให้ ประชากร ตามสัญญาหรือไม่เท่านั้น

...
@ บทความใน วารสารการแพทย์ เดอะ แลนเซต รายงานผลวิเคราะห์การทดลองระยะที่ 3 ใน อังกฤษ บราซิล และ แอฟริกาใต้...ยืนยันว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด–19 ของ แอสตราเซเนกา...ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไวรัสโควิด-19...หลังจาก 22 วันที่มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว...มีประสิทธิภาพเฉลี่ยร้อยละ 76...และ วัคซีนโดสที่ 2 จะมีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 82...ซึ่งเว้นระยะห่างจากการฉีดเข็มแรก 12 สัปดาห์ขึ้นไป...โดย แอสตราเซเนกา ตั้งเป้าจำนวน อาสาสมัครจากทั่วโลก เข้าร่วมการวิจัยกว่า 6 หมื่นราย...ขณะที่ แอสตราเซเนกา ได้รับ อนุมัติในกรณีฉุกเฉินในประเทศต่างๆเกือบ 50 ประเทศแล้ว...เพราะฉะนั้นถ้าประเทศไทย จะเข้าร่วมโครงการวิจัยกับ แอสตราเซเนกา ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย...หรือ เป็นข้ออ้างในการที่ได้รับวัคซีนล่าช้ากว่าประเทศอื่นแต่ประการใด

@ และที่กลายเป็นประเด็นเม้าท์มอย...การนำเสนอข่าวเกี่ยวกับกรณีที่ สหภาพยุโรป ซื้อ วัคซีนต้านไวรัสโควิด–19 ได้ในราคาที่ ถูกกว่าประเทศไทย...และ ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวที่ไม่ได้อยู่ใน แผนกลุ่มชาติภูมิภาคอาเซียนที่จะได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา...เลยถูกวิจารณ์เละ ไทยเป็นชาติเดียวในอาเซียนที่ไม่ได้วัคซีน...มีคำตอบจาก นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค...ยืนยัน ประเทศไทย มีแผนร่วมจัดหาวัคซีนโควิด-19 กับ โคแวกซ์ มาตั้งแต่แรก...โดยมีเงื่อนไขว่าจะให้วัคซีนฟรีกับประเทศยากจน...แต่ ประเทศไทย จัดอยู่ใน ประเทศที่มีรายได้ปานกลาง...จึงไม่มีสิทธิได้รับวัคซีนฟรี...เช่นเดียวกับ วัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข ที่ออกมาอ้างเหตุผลว่าประเทศไทยมีเหตุผลต้องตัดสินใจและเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ไม่เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือ...เลยได้รับวัคซีนช้ากว่าประเทศอื่นและต้องซื้อในราคาที่แพงกว่าประเทศอื่น ณ จุดนี้ “อินทรีเหล็ก” อยากจะตั้งข้อสังเกตเป็นเพราะ เราตัดสินใจไปซื้อหุ้น ไว้กับ แอสตราเซเนกา ก่อนที่จะมีการผลิตวัคซีนออกมาหรือไม่...เนื่องจาก หวังว่าจะได้วัคซีนก่อนในฐานะผู้ถือหุ้น...เฮ้อ เพราะขาดประสบการณ์แท้ๆ เลยต้องเอาสีข้างเข้าถูไปวันๆ

...
@ นาทีนี้ องค์การอนามัยโลก จี้ให้ บริษัทยา เร่งผลิต วัคซีนโควิด–19...เพื่อป้องกันการขาดแคลนวัคซีนทั่วโลก...เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในปริมาณที่สูงมาก...โดย นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผอ.ใหญ่องค์การอนามัยโลก...เน้นลดขั้นตอนการผลิตโดยหน่วยทางราชการ...และ อนุญาตให้บริษัทอื่นสามารถผลิตวัคซีนโดยไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตเป็นการเฉพาะ... เหมือนกับที่เคยดำเนินการในการผลิต วัคซีนต้านเอชไอวี และ วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบซี มาแล้ว...ขณะนี้ทั่วโลกมีการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวน 238 ตัว...63 ชนิดกำลังอยู่ในระหว่างการทดลอง... “อินทรีเหล็ก” แนะให้รัฐบาลหันมา สนใจ สมุนไพรไทย ที่ได้รับการยืนยันว่า สามารถต้านไวรัสโควิด–19 ดูบ้าง...ไม่ใช่เอะอะก็ของนอก...กระชายขาว และ ฟ้าทะลายโจร ได้รับการทดลองจาก แพทย์ไทย ได้ผลต้านไวรัสร้อยเปอร์เซ็นต์...ไทยทำไทยใช้ไทยเจริญ
@ หันมาที่ การแพร่ระบาดของโควิด–19 ในประเทศไทย ไม่ทันไร...มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม เกินกว่า 2 หมื่นรายไปแล้ว...มีผู้เสียชีวิต เฉียด 80 ราย...ภาคกลาง มี
ผู้ติดเชื้อมากที่สุดกว่า 17,000 ราย...สาเหตุใหญ่ของการติดเชื้อเกิดจาก...คนในครอบครัว การนัดรวมตัวเลี้ยงสังสรรค์ (ส่วนตัว)...ดื่มแก้วเดียวกัน อยู่ห้องเดียวกันเป็นเวลานานๆ...การคลายล็อก ปล่อยให้การ์ดตก กลายเป็นดาบสองคม

@ อ้า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรายบุคคล...ได้ข้อยุติ โดยรองประธานสภา สุชาติ ตันเจริญ ชี้แจง...การหารือ 3 ฝ่าย มี พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลฯ วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล และ สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน...ได้ข้อสรุป การอภิปราย รมต.จำนวน 10 คน...จะใช้ เวลา 4 วัน...ซึ่ง จะเริ่มประชุมในวันที่ 16 ก.พ. เวลา 09.00 น. และ ต้องอภิปรายให้จบภายในวันที่ 19 ก.พ. ก่อนเที่ยงคืน...นัดลงมติ วันที่ 20 ก.พ. ...พรรคร่วมฝ่ายค้านได้เวลาอภิปราย 42 ชั่วโมง การลุกขึ้นประท้วงจะถูกหักเวลาจากผู้อภิปราย...โปรดเข้าใจตามนี้
@ แต่ที่ต้องจับตาจะทำให้การเมืองร้อนอีกระลอก...เมื่อ ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กำลังถูกชงเข้าสู่ ศาลรัฐธรรมนูญ ตามข้อเสนอของ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ส.ว.บางคน...เป็นการขัดกับรัฐธรรมนูญ หรือไม่...คำตอบที่เห็นอยู่รางๆ คือ รัฐธรรมนูญปี 60 แก้ไม่ได้...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
@ จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง 2 ฉบับ ประกอบด้วย บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวราชพัสดุภายใต้การดูแลของกรมป่าไม้ โครงการสวนกลางมหานคร อ.พระประแดง จ.สมุทร ปราการ และ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวและบริหารจัดการเรียนรู้ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ระหว่าง กรมป่าไม้ กับ ปตท. โดยมี ดร.สุเมธ ตันติเวช-กุล ประธานคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าสู่ความยั่งยืน ร่วมเป็นสักขีพยาน
@ ศพ ประชุม ชาตะสิงห์ อยู่วัดมกุฏกษัตริยาราม สวดพระอภิธรรมถึงวันที่ 12 ก.พ. เวลา 19.00 น. พระราชทานเพลิงศพ วันที่ 13 ก.พ. เวลา 17.00 น.
...
"อินทรีเหล็ก"