ในปี 2563 โรคที่เกี่ยวข้องกับตับเป็นที่พูดถึงมาก เนื่องจากมีนักแสดงชื่อดังเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยโรคมะเร็งตับ ทำให้โรคนี้ได้รับความสนใจขึ้นมาอีกครั้ง สาเหตุของโรคมะเร็งตับมีส่วนหนึ่งมาจากไวรัสตับอักเสบบี ถึงแม้ว่าโรคนี้จะมีวัคซีนรักษา และรักษาหายได้ แต่ก็ยังพบว่ามีพาหะราว 350 - 400 คนทั่วโลก

ดังนั้นเราควรมารู้จักเชื้อไวรัสนี้ พร้อมวิธีป้องกันอย่างถูกต้องกันก่อน


ไวรัสตับอักเสบบี สาเหตุมาจากอะไร

ไวรัสตับอักเสบบีเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ถูกค้นพบครั้งแรก โดยแพทย์ชาวออสเตรเลียในปี ค.ศ. 1965 โดยเชื้อไวรัสตับอักเสบบีก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงกว่าไวรัสตับอักเสบเอ ผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่ในตัวอาจจะไม่แสดงอาการ และผู้ที่หายจากโรคนี้แล้ว มีโอกาสเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี

อาการของไวรัสตับอักเสบบี ได้แก่

  • อ่อนเพลีย
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • น้ำหนักลด
  • จุกแน่นใต้ชายโครงขวา (เนื่องจากตับโต)
  • ปัสสาวะมีสีเข้ม
  • ตาเหลือง

...

ไวรัสตับอักเสบบี ติดต่อทางไหนบ้าง

โอกาสรับเชื้อติดต่อไวรัสตับอักเสบบีในประเทศไทยนั้นลดลง เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบให้แก่เด็กๆ ตั้งแต่วัยทารก และระมัดระวังได้ด้วยการตรวจสุขภาพ ไวรัสตับอักเสบบีติดต่อได้ด้วยช่องทางต่อไปนี้

  • ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
  • ใช้ของมีคมร่วมกัน เช่น อุปกรณ์การสัก อุปกรณ์เจาะหู
  • ติดเชื้อจากมารดาตั้งแต่คลอด
  • ติดต่อทางเพศสัมพันธ์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “ไวรัสตับอักเสบบี”

ไวรัสตับอักเสบเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งตับ หากตรวจพบว่าติดเชื้อแล้วควรรีบเข้าสู่กระบวนการรักษาให้หาย และดูแลตัวเองให้ดี เพื่อให้ตับกลับมาทำงานได้ปกติ

  • ไวรัสตับอักเสบบีอันตรายไหม - หากเป็นแล้วละเลย ไม่ดูแลตัวเองให้ดี มีโอกาสเป็นมะเร็งตับในอนาคต และเสียชีวิตได้
  • ไวรัสตับอักเสบบีควรกินอะไร - กินอาหารที่มีคุณค่าสารอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามปกติ แต่ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และไม่ควรปรุงอาหารด้วยพริกป่นและถั่วลิสงด้วย
  • ไวรัสตับอักเสบบีกินอาหารเสริมได้ไหม - ผู้ป่วยที่มีอาการเกี่ยวกับตับ ไม่ควรซื้อวิตามิน หรืออาหารเสริมมากินเอง ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์
  • ไวรัสตับอักเสบบีมีลูกได้ไหม - ผู้ที่พบเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ควรรักษาตัวเองให้หายก่อนที่จะวางแผนมีบุตร แต่หากเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี ขณะตั้งครรภ์ คุณหมอจะแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันให้แก่เด็กที่เกิดมาภายใน 24 ชั่วโมง 1 เดือน, 2 เดือน, 6 เดือน และ 12 เดือน ตามลำดับ และรับเข้าสู่กระบวนการรักษา
  • ไวรัสตับอักเสบบีติดต่อกันด้วยช้อนไหม - เชื้อไวรัสตับอักเสบบี ไม่ติดต่อด้วยการใช้ช้อนเดียวกัน แต่เป็นเชื้อไวรัสตับอักเสบเอที่มีโอกาสติดเชื้อทางน้ำลาย
  • ไวรัสตับอักเสบบี หายได้ไหม - โรคไวรัสตับอักเสบบี รักษาให้หายได้ และเมื่อหายแล้วก็ควรตรวจสุขภาพทุกปี เพื่อติดตามอาการ

ตรวจไวรัสตับอักเสบบี ราคาเท่าไร

ราคาแพ็กเกจตรวจไวรัสตับอักเสบบี อยู่ที่ประมาณ 1,800 - 2,300 บาท โดยรวมค่าตรวจดังนี้

  • แพทย์จะใช้วิธีตรวจร่างกาย สังเกตอาการเหลือง
  • ตรวจเลือดดูค่าการทำงานของตับ (ALT)
  • ตรวจเลือดดูค่าหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
  • ตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี (Anti-HBs)
  • ตรวจหาการเคยได้รับไวรัสตับอักเสบ บี (Anti-HBc)

ไวรัสตับอักเสบบี รักษาประกันสังคมได้ไหม

ไวรัสตับอักเสบบี การรักษาแพทย์จะตรวจเลือดดูค่าตับต่างๆ และอาจเก็บชิ้นเนื้อตับไปตรวจ โดยการใช้เข็มเล็กเจาะผ่านผิวหนัง และการรักษาด้วยยารักษาไวรัสตับอักเสบบี ต้องจ่ายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากผู้ประกันตนตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชนิดใด ก็สามารถสอบถามได้กับโรงพยาบาลที่ตนมีสิทธิ์ประกันสังคมในโรงพยาบาลนั้น หรือสอบถามได้ที่ www.sso.go.th 

วิธีป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ทำได้ด้วยการตรวจสุขภาพประจำปี โดยแพ็กเกจตรวจเลือดทั่วไปนั้นก็มักจะรวมการตรวจไวรัสตับอักเสบบีเข้าไปด้วย หากคุณมีอาการอ่อนเพลีย น้ำหนักลด ก็ควรสังเกตอาการตัวเองและเข้ารับการรักษา เพื่อดูแลสุขภาพตนเอง และไม่เป็นพาหะสู่ผู้อื่นในอนาคตด้วย ไวรัสตับอักเสบบี วัคซีนราคาอยู่ที่ประมาณเข็มละ 600 บาท (ส่วนใหญ่ต้องฉีด 3 เข็ม) ผู้ที่ต้องการป้องกันโรคนี้ก็ควรฉีดวัคซีนป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ 


ที่มา : เว็บไซต์โรงพยาบาลเวชธานี, เว็บไซต์โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ และเว็บไซต์โรงพยาบาลวิภาวดี

...


อ่านเพิ่มเติม

 

...