รายงานจนกระทั่งถึงปลายเดือนเมษายน 2024 ตอกย้ำความเชื่อมโยงของวัคซีน mRNA กับอัตราตายสูงขึ้นอย่างผิดปกติ (statistically significant increases) ของมะเร็งทุกชนิดโดยเฉพาะในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen–related cancers) ตามหลังการระดมฉีดเข็มสาม
รายงานจากประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 8 เมษายน 2024 ในวารสาร Cureus ในเครือเนเจอร์ โดยที่เป็นการรายงาน ประเมินผลกระทบของการระบาดโควิดในประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ เป็นการวิเคราะห์อัตราการตายของมะเร็ง 20 ชนิดในประเทศญี่ปุ่น โดยใช้ข้อมูลของทางการที่เกี่ยวข้องกับการตาย การติดเชื้อโควิดและการฉีดวัคซีนโควิด โดยเป็นการปรับตัวแปรในช่วงอายุต่างๆ (age adjusted mortality)
ผลที่ได้ถือเป็นการค้นพบที่น่าตกใจ ในช่วงหนึ่งปีแรกของการระบาดโควิด ไม่พบการตายที่เกิดจากมะเร็งที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ (excess cancer deaths) แต่การตายกลับเพิ่มขึ้นโดยแปรตามการฉีดวัคซีนโควิด

ประเทศญี่ปุ่นมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงที่สุด และในปี 2024 กำลังระดมการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่เจ็ด https://www.cureus.com/articles/196275-increased-age-adjusted-cancer-mortality-after-the-third-mrna-lipid-nanoparticle-vaccine-dose-during-the-covid-19-pandemic-in-japan#!/
...
การระดมฉีดทั้งประเทศญี่ปุ่นเริ่มในปี 2021 และเริ่มเห็นตัวเลขของการตายจากมะเร็งเพิ่มขึ้นคู่ขนานไปกับการฉีดวัคซีนเข็มที่หนึ่งและเข็มที่สอง
หลังจากที่มีการฉีดเข็มที่สามในปี 2022 พบว่ามีการตายจากมะเร็งที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติใน มะเร็งทุกชนิดและโดยเฉพาะกับมะเร็งที่ไวหรือตอบสนองต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่เรียกว่า estrogen and estrogen receptor alpha (ERalpha)–sensitive cancers โดยรวมทั้งมะเร็งรังไข่ มะเร็งเม็ดเลือดขาว ต่อมลูกหมาก มะเร็งริมฝีปาก ช่องปาก ช่องลำคอ มะเร็งตับอ่อนและมะเร็งเต้านม
สำหรับมะเร็งเต้านมนั้นในช่วงระยะเวลาปี 2020 พบการตายจากมะเร็งเต้านมลดลง แต่แล้วเปลี่ยนมาเป็นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2022 พร้อมกับการระดมฉีดทั่วประเทศของวัคซีนเข็มที่สาม มะเร็งตับอ่อนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นคงที่ก่อนหน้าระบาดโควิดและมะเร็งอีกห้าชนิดมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม มะเร็งหกชนิดยังมีการตายเพิ่มกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปี 2021 ในปี 2022 หรือในช่วงระยะเวลาทั้งสองปี

ยิ่งไปกว่านั้นมะเร็งสี่ชนิดซึ่งมีการตายสูงอยู่แล้ว ได้แก่ มะเร็งปอด ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งตับ ซึ่งมีการตายลดลงก่อนปี 2020 แต่เมื่อเริ่มมีการใช้วัคซีนนั้นอัตราการตายกลับไม่ลดลงมากดังก่อนมีการระบาด
อัตราตายของมะเร็งที่พุ่งขึ้นทั้งๆที่ก่อนหน้าการระบาดของโควิดในช่วงระหว่างปี 2010 ถึง 2019 ในประเทศญี่ปุ่น พบว่าการตายจากมะเร็งมีแนวโน้มลดลงในทุกอายุ ยกเว้นที่อายุ 90 หรือสูงกว่า 90 ปี และแม้แต่ในปี 2020 ช่วงที่ยังไม่มีการระดมฉีดวัคซีนและมีการระบาดของโควิดแล้ว อัตราการตายจากมะเร็งก็ยังลดลงในช่วงแทบทุกอายุยกเว้นช่วงอายุ 75 ถึง 79 ปี
ในปี 2021 เริ่มเห็นแนวโน้มในอัตราการตายของมะเร็งที่สูงขึ้นและสูงขึ้นต่อเนื่องจนกระทั่งถึงในปี 2022 ในช่วงทุกอายุ...ในปี 2021 มีอัตราตายเพิ่มขึ้นจากทุกสาเหตุอย่างมีนัยสำคัญ 2.1% และ 1.1% สำหรับการตายที่เกิดจากมะเร็ง...ในปี 2022 การตายจากทุกสาเหตุกระโดดขึ้นเป็น 9.6% และสำหรับมะเร็งสูงขึ้นเป็น 2.1%

การศึกษานี้ได้แยกแยะตามอายุและพบว่าจำนวนการตายจากมะเร็งทุกชนิดจะสูงสุดในช่วงอายุ 80 ถึง 84 ปีซึ่งประชากรในกลุ่มนี้มากกว่า 90% ได้รับวัคซีนสามเข็ม และวัคซีนที่ได้รับนั้นเกือบ 100% เป็น mRNA และเป็นไฟเซอร์ 78% โมเดอร์นา 22%
คณะผู้รายงานยังได้เพ่งเล็งประเด็นของการตายจากมะเร็งดังกล่าวที่อาจจะมาจากสาเหตุที่มีการคัดกรองมะเร็งน้อยลง และการเข้าถึงการรักษาได้จำกัดในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ แต่อย่างไรก็ตาม คณะผู้รายงานระบุว่า ไม่สามารถอธิบายการกระโดดขึ้นของการตายโดยเฉพาะในมะเร็งหกชนิดในปี 2022 ซึ่งไม่มีข้อจำกัดในการคัดกรองมะเร็งและการรักษาแล้ว
...

และมะเร็งที่มีอัตราตายสูงขึ้นจะตกอยู่ในกลุ่มที่เป็น ERalpha-sensitive ทั้งนี้ สามารถอธิบายได้จากกลไกหลายอย่างของวัคซีน mRNA ซึ่งอยู่ในอนุภาคนาโนไขมัน มากกว่าที่จะอธิบายจากการติดเชื้อโควิดหรือการที่มีการรักษาลดลงในช่วงล็อกดาวน์
นักวิทยาศาสตร์วิจัยอาวุโสของ MIT Step hanie Seneff ได้ให้ความเห็นว่า รายงานดังกล่าวชี้ชัดเจนในข้อมูลทางระบาดวิทยาซึ่งสามารถเชื่อมโยงอัตราตายที่สูงขึ้นของมะเร็งหลายชนิดและการที่ได้รับวัคซีนหลายเข็ม
ทั้งนี้ โดยที่ได้เคยให้ความเห็นก่อนหน้านี้แล้วโดยยึดถือพื้นฐานกลไกทางวิทยาศาสตร์ทางด้านระบบภูมิคุ้มกันว่าวัคซีนควรจะมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง โดยที่วัคซีนนั้น ทำให้ระบบการตรวจตราเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดมะเร็งนั้นถดถอยลงโดยเฉพาะในระบบ ที่เรียกว่า innateimmunity และความบกพร่องห่วงโซ่ในระบบภูมิคุ้มกัน ที่นำไปถึงการติดเชื้อโรคได้ง่ายขึ้นและมีโรคภูมิคุ้มกันแปรปรวนทำร้ายตัวเองมากขึ้นและทำให้มะเร็งมีการเติบโตแพร่กระจายได้เร็ว.
หมอดื้อ