สร้างชื่อจากการเป็นร้านอาหารที่ผสมผสานธรรมชาติและศิลปะการทำอาหารเข้าไว้ด้วยกัน ล่าสุด “COBA” เริ่มต้นการเดินทางบทใหม่ด้วยการกลับมาของ เชฟมิชลินสตาร์ “โอลิวิเยร์ ลิมูแซง” (Olivier Limousin) ซึ่งโด่งดังจากการร่วมงานกับเชฟในตำนาน “โจเอล โรบูชง” พร้อมเติมเต็มพลังสร้างสรรค์ใหม่ๆให้กับ “COBA” ซึ่งไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาประสบการณ์ด้านอาหาร โดยแต่ละจานคือเรื่องราวชีวิตที่ “เชฟโอลิวิเยร์ ลิมูแซง” พร้อมแบ่งปันให้ทุกคนได้สัมผัสภายใต้บรรยากาศเขียวชอุ่มจากป่าฝน “COBA” ชวนสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยโซนอาหารแบบ À la carte ที่เปี่ยมชีวิตชีวา, ดินเนอร์ไฟน์ไดนิ่งสุดเอกซ์คลูซีฟ และบาร์ค็อกเทลล้ำสมัย ทุกพื้นที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อปลุกทุกประสาทสัมผัส สะท้อนจิตวิญญาณของ “COBA” ที่มุ่งผสานความงามตามธรรมชาติเข้ากับศิลปะการทำอาหาร เปลี่ยนทุกคำให้เป็นประสบการณ์น่าประทับใจ เลื่องลือสุดยกให้เมนู “Tapas Tree” ที่ไม่ใช่แค่เมนูอาหาร แต่เป็นงานศิลปะมีชีวิต หลอมรวมทั้งรสชาติ, เนื้อสัมผัส และความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน ทุกองค์ประกอบรังสรรค์เพื่อสะกดทุกสายตา เสิร์ฟบนแท่นดีไซน์รูปทรงต้นไม้ เป็นการตีความใหม่ของไฟน์ไดนิ่งในแบบที่คาดไม่ถึงอีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์คือ “Prawn Tartare” กุ้งชั้นเลิศหั่นด้วยมือเพื่อคงความเนียนนุ่ม เสริมรสด้วยเจลยูซุสดชื่น, ไข่ปลาเทราต์ และแครกเกอร์โพเลนต้ากรุบกรอบ หรือจะลิ้มลอง “Tuna Tataki” ทูน่าทาทากิย่างกำลังดี ราดซอสมะม่วงชัทนีย์ ผสานลงตัวระหว่างความหวานและเผ็ดร้อน พลาดไม่ได้ก็ต้อง “A9 Wagyu French Toast” เนื้อวากิว A9 เสิร์ฟพร้อมไข่แดงกงฟีและหอมแดงกรอบ ได้รสชาติหรูละมุน เชฟคนเก่งยังภูมิใจนำเสนอ “Baba Ghanoush” การตีความใหม่ของเมนูคลาสสิกที่เพิ่มความซับซ้อนของรสชาติ ด้วยเจลลี่น้ำผึ้งและบิสกิตพาร์เมซาน และ “Crispy Quinoa” ควีนัวมากิรสชาติเบา ทว่าเผ็ดร้อนด้วยซอสศรีราชารมควันนอกเหนือจาก “Tapas Tree” ยังมี “Tasting Menu” ให้ลิ้มลอง ได้แรงบันดาลใจจากความทรงจำและการเดินทางของ “เชฟโอลิวิเยร์ ลิมูแซง” ถ่ายทอดผ่านเทคนิคอาหารฝรั่งเศสชั้นสูง ผสานความคิดสร้างสรรค์ลงตัวในทุกจาน ทุกคำคือบทสนทนาระหว่างรสชาติและอารมณ์ ที่เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ เมนูพิเศษห้ามพลาดมีอาทิ Foie Gras “Royale” คัสตาร์ดฟัวกราส์เนียนนุ่มละลายในปาก เสริมด้วยพอร์ตไวน์แดง, “Kaviari Caviar” ไข่คาเวียร์เกรดพรีเมียม เสิร์ฟบนเจลลี่ล็อบสเตอร์และครีมดอกกะหล่ำ, “Crispy Langoustine” ล็อบสเตอร์ทอดกรอบในแป้งบางกรอบ หอมสดชื่นด้วยโหระพาและเพสโต้โฮมเมดสูตรพิเศษ, “Black Truffle & Morel Risotto” ริซอตโต้หอมมันจากทรัฟเฟิลดำและเห็ดมอเรล เสริมความกลมกล่อมด้วยไข่ลวก, “Roasted Black Cod” ปลาค็อดดำย่างเนื้อเนียนชุ่มลิ้น เคลือบด้วยซอสพริกไทยมาลาบาร์ เมนูซิกเนเจอร์สะท้อนประสบการณ์ของเชฟยังรวมถึง “Milk-Fed Lamb Cutlets” หรือ “A9 Wagyu” ซี่โครงลูกแกะที่เลี้ยงด้วยน้ำนม หรือเนื้อวากิว A9 ย่างสุกกำลังดี เสิร์ฟคู่มันบดสูตรโรบูชง ปิดท้ายด้วยขนมซิกเนเจอร์อย่าง “Rhum Granite” เยลลี่เสาวรสเปรี้ยวอมหวานตัดกับโฟมมะพร้าวเบาๆ และ “Chocolate Caramel Tart” ทาร์ตช็อกโกแลตคาราเมล เพิ่มความกรุบกรอบด้วยแมคคาเดเมีย. อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่