เพราะมีแพชชันด้านความเร็ว และมุ่งมั่นการเป็นนักแข่งรถ นางเอกสาว “มารี เบรินเนอร์” เลยเดินหน้าลงสนามแข่งรถยนต์วันเมกเรซสุดสนุกเป็นปีที่ 3 ในรายการ “Toyota Gazoo Racing Motorsport 2022 : Pushing the limits to race your ambition” เจอ มารี ร่วมงานแถลงข่าว ณ ห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ Toyota Live Alive ถนนบางนา-ตราด กม.ที่ 3 เลยได้อัปเดตทั้งเรื่องแข่งรถและเรื่องข่าวเม้าท์ที่ถูกโยงเป็นนางเอกเรื่องเยอะ มีชื่อมารีด้วย ว่า

“มารี” เมินถูกโยงดราม่านางเอกเรื่องเยอะ ไม่กระทบใจ เผยแพชชันฝันแข่งรถ

...

“คอมเมนต์ก็น่าจะติดชื่อประมาณ 80 คน ในวงการได้ ไม่รู้จะตอบว่าอะไรเหมือนกัน”

รู้สึกยังไงที่มีชื่อเราติดอยู่ในนั้นด้วย?

“เรื่องข่าวเราก็โดนมาตั้งแต่เด็กๆแล้วเนอะ ก็เป็นเรื่องปกติ ใครไม่เจอเราจริงก็ไม่ต้องพูด”

ชินกับดราม่าแล้ว?

“ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นไม่กระทบอะไรทั้งนั้น”

เราอ่านข่าวบ้างมั้ย?

“ไม่ได้อ่านเลยค่ะ เสียเวลา เราเอาเวลาไปทำอะไรที่มีผลต่อชีวิตเราดีกว่า”

มีวิธีตั้งรับยังไงบ้าง?

“ก็ไม่รับรู้ เราก็ทำงานของเรานี่คืออาชีพของเรา เราแสดงละคร เราทำยูทูบ เรามาแข่งรถ เราทำหน้าที่ของเราจบแค่นั้นก็คือจบหน้าที่เราแล้ว เราไม่ได้มีหน้าที่มานั่งเอาใจใครที่เราไม่ได้รู้จัก”

เหมือนเราแข็งแรงขึ้นมั้ย?

“ก็ไม่เคยอ่อนแอนะ แต่ก่อนอาจจะสะกิดใจแล้วโมโหบ้าง อารมณ์เสียบ้าง ทำให้เราหงุดหงิดบ้าง แต่ว่าทุกวันนี้รู้สึกว่าคนเราไม่สามารถไปควบคุมการกระทำของคนอื่นได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนพิมพ์ที่อยากจะควบคุมการกระทำของดารา หรือดาราที่อยากจะควบคุมคำพูดของคนอื่น ทำไม่ได้อยู่แล้วก็ปล่อยวาง เสียเวลาชีวิต ไปนั่งเหนื่อยรู้สึกอะไรกับคนที่ห่างไกลจากตัว”

...

งานแสดงตอนนี้มีอะไรบ้าง?

“ละครตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มถ่ายเรื่องใหม่ ก็มีคุยกับผู้ใหญ่บ้าง ปกติจะรับทีละเรื่องอยู่แล้วค่ะ”

มองบทบาทไหนที่อยากเล่นบ้างมั้ย?

“ความจริงก็ไม่ได้มีอะไรในใจเป็นพิเศษค่ะ ก็คือแล้วแต่ว่ามีโอกาสที่เข้ามาว่าเป็นอะไรบ้างก็ค่อยดูว่ามีอันไหนที่รู้สึกว่ามันน่าดึงดูด มันน่าลอง น่าท้าทายดี มันมีเข้ามาบ้าง เราก็อยากเลือก อยากชอบบทจริงๆไม่อยากเล่นละครไปวันๆ อยากเลือกบทที่ท้าทายหรือมันสนุกสำหรับเรา ตอนนี้มีสัญญากับช่องวันอยู่ค่ะ”

มองอนาคตเส้นทางในวงการบันเทิงไว้ขนาดไหน?

“ไม่ได้คาดหวังแล้วก็ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นยังไงคือโอเพ่นมากๆ เป็นคนที่ทำงานทีละงาน เราไม่ได้หวังเส้นทางไว้ว่าเราจะต้องฝันไกลไปถึงฮอลลีวูด เราจะต้องได้รับรางวัล คือถ้างานชิ้นไหนที่เข้ามาแล้วเราทำแล้วมีความสุขเราก็รับแล้วก็ทำให้ดีที่สุดแค่นั้น ก็จบไปเป็นงานๆ”

ถ้าเป็นนักแสดงแล้วมาแข่งรถด้วยมันมีข้อแม้หรืออะไรยังไง เพราะบางคนอาจจะมองว่ามันอันตราย?

“ไม่อันตราย คือจริงๆมันก็มีเซฟตี้ของมันอยู่แล้วเราไม่ค่อยห่วง ส่วนตัวก็เป็นคนลุยๆอยู่แล้วก็ทำอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตประจำวันที่มันก็เกิดอุบัติเหตุได้เสมอ มันคือวิธีที่เราเลือกใช้ชีวิตมากกว่า”

อะไรที่ทำให้เราอยากมาเสี่ยง อยากมาลองตรงนี้?

“ชอบความเร็ว มันสนุก แล้วพอเราได้ลงสนามลองได้ซ้อม ได้เทสต์รถมันเป็นอะไรที่ใช้สมาธิมากแล้วมันก็ใช้ความตั้งใจ แล้วมันดันเป็นอะไรที่เรามีโอกาสได้ทำแล้วมันว้าว แล้วเราชอบด้วย เราก็เลยอยากทำ ก็เลยเหมือนมีแรงขับเคลื่อนที่อยากจะทำในทุกๆ วัน”

ความเร็วถือว่าเป็นหนึ่งในแพชชันของเรา?

“หนึ่งในแพชชันค่ะ”

เราจริงจังขนาดไหน?

เราคงไม่ได้มีฝีมือไปแข่งระดับโลกหรอกตามความเป็นจริง แต่หมายถึงว่า ณ จุดในสนามที่เราแข่งเราเป็นนักแข่งในรุ่นนี้ได้ก็สนุกกับมัน แล้วก็ทำให้ดีโห...ถ้าวันนึงได้แชมป์ รวดเลยแล้วค่อยว่ากัน (หัวเราะ) เราก็มีไมล์สโตนเล็กๆที่อยากจะทำสำเร็จ อยากขึ้นโพเดียมสักครั้งนึง ปีนี้เราก็อาจจะอยากขึ้นอีกในตำแหน่งที่สูงกว่ามั้ยอะไรแบบนี้ ก็พยายามผลักดันตัวเองทีละหน่อย”

บรรยากาศเวลาไปยืนบนโพเดียมเป็นยังไง?

“ตื่นเต้น เขิน คนเยอะ ทุกคนก็จะมายินดีด้วย ก็จะเขินๆนิดนึง ก็ค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบค่ะ”

พิชญ์ กาไชย มีไปเชียร์ที่สนามบ้างมั้ย?

“อ๋อ ไม่ค่ะ”

เราเคยชวนเค้าบ้างมั้ย?

“ไม่ค่ะ คือเราทำงาน เรามีคนไปดูแลเรา”

เค้าชอบมั้ยที่เรามาแข่งรถมาอยู่กับความเร็ว?

“เค้าไม่ค่อยยุ่งค่ะ เค้า แล้วแต่เราเลย ก็ชีวิตเรา เราอยากที่จะทำกิจกรรมอะไรเค้าก็โอเพ่น”

เค้าเคยเกริ่นมั้ยว่าแบบนี้มันเสี่ยงนะ?

“ไม่ค่ะมันไม่ได้เสี่ยงในความเป็นจริง มันค่อนข้างไม่ได้อันตรายอะไรขนาดนั้น คือถ้ามันน่ากลัวมากขนาดนั้นนะเราเองก็คงไม่กล้า”.