จับคู่เคมีใหม่! ได้ 2 หนุ่มฮอตนาทีนี้ ทั้งหนุ่ม “ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร” และ “ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต” นำเสนอหนังผีสายวิทย์แนวใหม่ “GHOST LAB ฉีกกฎทดลองผี” กับการทดลองสุดหลอนที่จะพาคนดูล้ำเส้นคนเป็น เล่นกับความตาย ร่วมด้วยนางเอกสาว ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ โดยฝีมือผู้กำกับ “กอล์ฟ ปวีณ ภูริจิตปัญญา” เรื่องราวของกล้า (ไอซ์) และวี (ต่อ) แพทย์หนุ่มคู่หูที่ไม่อาจสลัดความหมกมุ่นในเรื่องโลกหลังความตาย ได้มาเจอผีแบบจะจะพร้อมกันทั้งคู่เลยจับมือร่วมกันทําทดลองหวังจะเป็นบุคคลกลุ่มแรกของโลกที่จะพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ว่าผีมีจริง! กำหนดฉายวันที่ 26 พ.ค.นี้ รับชมได้พร้อมกันทั่วโลกทาง Netflix เท่านั้น งานนี้ 2 หนุ่ม “ต่อ” และ “ไอซ์” เลยได้มาเปิดโลกใหม่ทางการแสดง ทั้ง “ต่อ” นักแสดงฝีมือดีที่ชอบท้าทายบทบาทใหม่ และ “ไอซ์” กับการเล่นหนังเรื่องแรก!

เล่าบทบาทของทั้งคู่หน่อย

ต่อ “ผมรับบทเป็นหมอวี เป็นผู้ชายเงียบๆเนิร์ดๆ มีโลกส่วนตัวเยอะ แสดงออกไม่เก่ง คิดเยอะ ใช้ชีวิตยึดติดไม่มูฟออน อินกับวิทยาศาสตร์มาก อะไรที่เชื่อวิทยาศาสตร์ต้องพิสูจน์ได้”

ได้ยินว่าตอนต่อมาแคสบอกว่าถ้าไม่ได้บทหมอวีก็ไม่เล่น?

ต่อ “ไม่ใช่ขนาดนั้น แต่ผมยอมรับว่าคือเรื่องจริง ผมพูดว่าถ้าผมไปแคสแล้วทุกคนอยากให้ผมเล่นเป็นหมอกล้า เหมาะกับหมอกล้า ผมมองว่าไม่เป็นไร ผมให้พี่หาคนอื่นเลย คือทุกครั้งที่ผมรับเล่นบทอะไร ผมจะดูว่าพอผมเล่น ผมจะได้อะไร ซึ่งผมจะรับแต่อะไรแบบนี้ ซึ่งผมรู้สึกว่าวีตอบโจทย์นั้น พอกล้าตอบโจทย์นั้นกับผมไม่ได้ ถ้าผมได้บทนี้ ผมเลยคิดว่าน่าจะมีคนอื่นที่เหมาะ”

...

แล้วอะไรในตัวหมอวีที่ดึงดูดต่อ?

ต่อ “หนึ่งคือเค้าไม่เหมือนผมเลย ยิ่งไม่เหมือนผมก็ยิ่งไม่รู้จักเค้า ไม่เข้าใจเค้า ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่ามันน่าค้นหา การวิวัฒนาการของตัวละครนี้น่าสนใจมาก ถ้าทำได้มันจะมันส์มาก”

ได้ใช้การแสดง ใหม่ๆ อะไรบ้าง?

ต่อ “ตอน ผมเริ่มแสดง ผมเริ่มจากศูนย์แล้วค่อยๆ แยกแง่งมันออกมา ผมพยายามแตกตัวเองให้ได้มากที่สุด เปลี่ยนคาแรกเตอร์ไปเรื่อยๆ ซึ่งผมรู้สึกว่าวีก็จะกลายเป็นแง่งใหม่อีกอันของผมที่สามารถทำในสิ่งที่คนไม่คิดว่าผมจะทำได้”

ชอบท้าทายตัวเองบทใหม่ๆ?

“ใช่ครับ เดี๋ยวมีใหม่ขึ้นอีก ผมเริ่มสนใจทางตลก คอมเมดี้”

ไอซ์ “ผมรับบทหมอกล้า ตรงข้ามกับวีเลย ถ้าวีใช้ความคิดเยอะข้างใน แต่หมอกล้าจะแสดงออกมาหมด มั่นใจในตัวเองสูง เชื่อมั่นในตัวเอง สูงเลยต้องการสร้างอะไรยิ่งใหญ่เลยยิ่งมุทะลุ เชื่อโลกหลังความตายเลยอยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น”

เหมาะกับไอซ์ซึ่งเอนเนอร์จี้สูงอยู่แล้ว? 

ไอซ์ “รู้สึกได้ปลดปล่อยมากเลยครับ”

แล้วอะไรของหมอกล้าที่ดึงดูดไอซ์?

ไอซ์ “ตอนแรกที่ไปแคสได้เห็นบทกล้ากับวีคุยกันเฉยๆ ผมเห็นเอนเนอร์จี้ และความมั่นใจและเอนเนอร์จี้ของกล้า เลยมองว่าเอนเนอร์จี้ของผมที่มีอยู่มันสามารถโดนดันขึ้นไปได้อีกหลายๆทาง เลยรู้สึกว่าน่าสนุกมากตั้งแต่จังหวะนั้น ดึงดูดตั้งแต่ครั้งแรก”

กลัวผีมั้ย ขนาดไหน?

ไอซ์ “ผมกลัวความมืดและจินตนาการของตัวเองมากกว่า แต่ต้องเล่นเป็นคนไม่กลัวเท่าไหร่ ขนาดพี่ที่แต่งเป็นผีเข้าฉากผมยังกลัวเลย”

ช่วยเหลือกันทางการแสดงยังไง?

ต่อ “ส่วนใหญ่เป็นการรับส่งบทและอารมณ์ ต้องขอบคุณไอซ์ครับ บางวันเวลาผมเจอฉากเล่นกับตัวเองแล้วพลังงานผมหมดไว มีหลายๆครั้งที่ผมหมดแล้ว ถ้าไม่มีไอซ์อยู่ผมก็จะไม่มีก๊อกต่อไป”

...

ไอซ์ “มีหลายซีนครับที่พี่ต่อช่วยผมเยอะมาก บางทีซีนนั้นกล้องไม่รับหน้าพี่ต่อ แต่รู้สึกได้ว่าพี่ต่อเล่นจริงมาก รู้สึกมาถึงเราทำให้มันออกมาได้ง่ายมากแม้ซีนนั้นเราจะกังวลมาก”

ต่อต้องมีซีนเล่นคนเดียวเยอะ เป็นไงบ้าง?

ต่อ “มันมีอุปสรรคเยอะครับ หนังเรื่องนี้มีคำว่าท้าความตาย แล้วแต่ละอย่างที่หมอสองคนนี้ทำมันเสี่ยงเยอะ มีหลายอันที่มันเสี่ยงมาก เพราะผมเป็นติดเล่นจริง บางฉากผมทำจริงๆ จนทีมงานต้องเซฟให้”

ความยากของไอซ์ล่ะ?

ไอซ์ “คงจะเป็นต้องเล่นให้โตขึ้น ผมโชคดีที่ได้พี่กอล์ฟ-ปวีณ และครูร่ม-ร่มฉัตร เป็นแอ็กติ้งโค้ช มีคนคอยตบเรากลับมา ให้กำลังใจเรา”

พอได้ทำงานร่วมกันได้เห็นอะไรในตัวอีกคนนึง?

ต่อ “เรื่องนี้ตั้งแต่ตอนแรกๆในกอง ไอซ์พูดกับผมว่า เค้าชอบตัวเองมาก รักตัวตนของตัวเอง ผมรู้สึกว่าเรื่องความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานต่างๆ ไอซ์ไม่จำเป็นต้องมาบอกผม แต่ผมรู้สึกได้และเข้าใจว่าคนที่รักตัวเองเป็นแบบนี้ หรือภาพที่หลายๆคนเห็นความดี๊ด๊าพลังเยอะ ผมก็ได้เห็นเค้าในหลายๆโหมด”

...

ไอซ์ “สิ่งนึงที่ผมเห็นจากพี่ต่อ ซึ่งจริงๆผมเห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ตอนโปรเจกต์ 9x9 เคยได้ยินมาจากหลายๆคนถึงความจริงจังของพี่ต่อมากๆในการทำงานของเค้า แต่พอได้มาสัมผัสจริงๆผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่คำนั้นด้วยซ้ำ ไม่ใช่คำว่าจริงจังแต่มันคือความละเอียด และนี่คือคนที่มีแพสชันจริงๆ ผมชอบความรู้สึกในการเห็นคนทำสิ่งที่เค้ารักมากเลย มันเป็นเมจิกบางอย่างที่ยิ่งกว่าคำว่าออร่า มันออกมาจากความเป็นเค้าและดีไปหมดเลย เป็นโหมดที่ผมเห็นพี่ต่อว่าเป็นไอดอลได้เลย เป็นแบบอย่าง”

มีฉากไหนที่เข้าฉากด้วยกันแล้วประทับใจไม่ลืมมั้ย?

ไอซ์ “มันจะมีฉากที่เราเจอกันฉากนึง ผมสัมผัสเลยว่านี่คือพี่คนนึง เพื่อนคนนึง รักมาก มันคอนเนกต์กันมาก ฉากนั้นผมเตรียมตัวมาเยอะแต่ถึงตรงนั้นตอนเล่นไม่ต้องคิดอะไรเลยแค่มองหน้าพี่ต่อมันส่งมาหมด มันเมจิกมาก ผมฟินมากๆที่ได้รู้สึกตรงนั้น”

ต่อ “น่าจะฉากเดียวกันนั้น รวมทั้งฉากตอนเถียงกัน ฉากไหนที่มีของพังมันจะกลายเป็นเมจิก ผมหาช่องอยู่นานว่าตัวละครนี่จะเริ่มเติบโตจุดไหนและฉากนั้นมันใช่”

...

เป็น Original Netflix กลุ่มคนดูกว้างและหลากหลายความคิดเห็นพร้อมตั้งรับมั้ย?

ต่อ “ถ้าคนดูกว้างขึ้นผมว่ามันดีนะ เพราะเราจะมีมุมคอนเฟิร์มที่กว้างขึ้น ตอนเล่นผมมันส์ผมสนุกแต่ผมบอกไม่ได้หรอกว่ามันดีรึยัง คนที่บอกได้คือคนดู พอคนดูกว้างขึ้นก็เป็นผลดีกับเรา ถ้าเรายังทำไม่ดีจะได้มีโอกาส”

ไอซ์ “ผมก็รู้สึกตื่นเต้นมากกว่า ไม่ได้มองว่าคนดูกว้างแล้วคอมเมนต์จะเยอะขึ้น มีกระแสอะไรเยอะขึ้น ด้วยความที่คอนเซปต์หนังเรื่องนี้ใหม่และการที่ได้มาอยู่ในที่ใหม่และกว้างขึ้น ก็เป็นอีกที่ที่มันน่าลองและเหมาะสมกับสถานการณ์ตอนนี้”

ตัวละครนี้ให้อะไรบ้างในการใช้ชีวิต?

ไอซ์ “ถ้าเป็นเรื่องข้อคิด คงเป็นเรื่องทางสายกลาง เรื่องการใช้ชีวิต ไม่ต้องสุดไปสักทาง”

ต่อ “น่าจะเป็นเรื่องการใช้ชีวิตว่าคนเราต้องมูฟออนไปต่อ คนเรามักลืมตัวและติดกับอดีต จนต้องถึงเหตุที่มีคนมาเตือน เรารู้ว่าเราได้รับการอภัยจากทุกคนแล้วแต่อย่าลืมให้อภัยตัวเอง”

คนอาจจะจับคู่จิ้น ต่อ-ไอซ์ เคมีสองหมอที่เข้ากัน?

ต่อ “เรื่องนี้ตอนผมอ่านบทก็อาจจะมีกลิ่นนั้นจริงๆนะ มันอาจจะมีซ่อนอยู่ มันไม่ใช่ความชู้สาวนะแต่มันอาจจะมากกว่าเพื่อนรักปกติ แล้วแต่คนจะคิดแล้วกันครับ”

พอมาเล่นด้วยกัน ต้องทำความรู้จักหรือสนิทกันมากขึ้นมั้ย?

ไอซ์ “ผมว่าเรื่องความสนิทมันไม่ได้ตั้งใจทำขึ้นอีกแต่มันมีมากอยู่แล้ว และพี่ต่อเป็นคนที่ผมมีอะไรก็ปรึกษาเค้าบ่อย แต่เค้าไม่เคยปรึกษาอะไรผมนะ (หัวเราะ) ด้วยความที่ตอนโปรเจกต์ 9x9 พี่ต่อก็เป็นพี่คนโต เราก็อยากได้คำปรึกษาจากเค้า”

แนะนำการอยู่ในวงการบ้างมั้ย เหมือนมองเห็นตัวเองตอนเข้ามามั้ย?

ต่อ “จริงๆไอซ์เป็นอีกคนนึงที่ผมเคยบอกว่าเค้ามีหลายๆอย่างที่ผมก็เคยเป็นแบบนี้ แต่ส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยสอนว่าต้องทำอย่างนี้ จะเป็นแนวว่าผมผ่านมาแบบนี้ ผมแค่แชร์ ส่วนการตัดสินใจเค้าต้องตัดสินใจเองเพราะทุกคนไม่เหมือนกัน สุดท้ายหลักๆคือหาตัวเองเจอรึเปล่า เราจะตอบได้ดีที่สุด เอาแค่คุยกับผมแล้วสบายใจก็ได้ อย่างเรื่องความสนิทสำหรับผมมันไม่ใช่การต้องพยายามเพราะความสนิทของผมมันไม่ใช่การเข้าหา ยิ่งผมสนิทก็ไม่ได้เจ๊าะแจ๊ะ เป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่า ผมว่าความสัมพันธ์ของ 9x9 มันพิเศษ ทุกวันนี้พวกเราไม่ได้มานั่งคุยกันตลอด ผมไม่ได้เชื่อเรื่องว่าสนิทกันต้องคุยกัน ผมรู้สึกว่าคนที่มันสนิทกัน มันแปลว่าเจอกันกี่ครั้งก็ยังคุยกันได้”

ถ้าให้นิยามอีกคนนึงสั้นๆ จะบอกว่าอีกคนเป็นยังไง?

ต่อ “ไอซ์เหรอครับ เด็กเกิ๊น (ยิ้ม) เป็นคนมีความไชน์บางอย่างแบบอันลิมิต เอนจอยไลฟ์ไปได้เรื่อยๆ”

ไอซ์ “พี่ต่อเป็นคนเอาจริง กับทุกอย่างที่เค้ารักและทำ เป็นคนไม่สามารถปล่อยอะไรธรรมดาได้”

เรื่องสาวๆก็คล้ายกันตรงที่มีแฟนสวยนอกวงการทั้งคู่เหมือนกัน มีปรึกษากันบ้างมั้ย?

ไอซ์ “เรื่องนี้ยังไม่เคยปรึกษาเลยครับ สำหรับผมมันยังอาจจะใหม่อยู่ เลยยังไม่เคยคุยเรื่องนี้กับพี่ต่อ”

ช่วงนี้มีเวลาอยู่บ้านเยอะทำอะไรกันบ้าง?

ต่อ “ผมก็ได้หาสิ่งอื่นๆทำด้วย ที่อาจจะไม่เกี่ยวกับวงการ ได้ช่วยที่บ้านด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นการช่วยคุยเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่จะทำ เข้ามาช่วยในการเตรียมตัวเพราะเราอยากทำให้เกิดประโยชน์”

ค้นพบทักษะอะไรใหม่ๆของตัวเองบ้างมั้ย?

ไอซ์ “ช่วงนี้ผมอินเปียโนอยู่ เอาจริงๆเริ่มตั้งแต่รอบที่แล้วที่ต้องกักตัว ตอนนั้นเริ่มๆกดเล่นๆ ตอนนี้ก็ฝึกเพิ่มอีก อินอยู่ครับ”

ต่อ “หลักๆผมงานชนงาน ตอนนี้ผมเริ่มเตรียมตัวเปลี่ยนลุคอีกรอบ ถ้าหมดโควิด เรื่องที่จ่ออยู่คิดไว้แล้วว่าได้เวลาเปลี่ยน ผมโรคจิต คลั่งไคล้ในเรื่องการแสดง (ยิ้ม) แม้แต่บ้านผมก็เป็นห้องเวิร์กช็อปด้วยสำหรับผม ผมเป็นคนอยู่บ้าน เวลาอยู่เงียบๆคือผมคิดงานอยู่ ผมก็เป็นคนที่เชื่อว่าทุกคนก็เดินหน้าไปตลอด ผมก็หยุดไม่ได้เหมือนกัน”

แล้วตอนนี้ต้องเก็บตัวอยู่บ้านความสัมพันธ์กับสาวคนพิเศษล่ะ ได้เจอกันบ้างมั้ย?

ไอซ์ “ส่วนมากก็เป็นการวิดีโอคอล มันไม่ได้รู้สึกห่างเหินมาก โลกแห่งออนไลน์ตอนนี้ทำให้เราแทบจะยังคุยกันอยู่ตลอด ไม่ได้รู้สึกห่างเรื่องความสัมพันธ์”

อย่างไอซ์ เพิ่งมีกระแสเปิดตัวสาว “อลิซ-สรวี” กระแสโอเคมั้ย?

“โอเคครับ โอเคมาก แฮปปี้มาก ผมได้เจอเค้า เจอคุณแม่ แล้วคุณแม่ผมจะชอบถ่ายทุกโมเมนต์ในชีวิต ตอนนี้คุณแม่ผมเลยเต็มที่ได้”

ต่อล่ะ ได้เจอน้องมีน-ชุติญา บ้างมั้ย?

“ความสัมพันธ์ก็ปกติดีครับ ก็ติดต่อกันช่องทางที่ทำได้ ก่อนหน้านี้ติดต่อง่ายเพราะคนส่วนใหญ่ WFH หมด แต่ตอนนี้อาจจะต้องห่างมาสเต็ปนึง เพราะผมก็ไม่อยากทำให้ใครเสี่ยงเพราะเรายังต้องทำงาน เลยต้องเว้นระยะห่างนิดนึง”

เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย