มาถึงโค้งสุดท้ายของละครโรแมนติกคอมเมดี้ “สะใภ้ TKO” ช่อง GMM 25 ที่เผยให้ได้เห็นมุมน่ารักในการแสดงของคู่รักชีวิตจริง “แดน-วรเวช ดานุวงศ์” กับสาว “แพทตี้-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา” ลงจอละครร่วมกันในรอบ 7 ปี แล้วยังต้องปะทะนักแสดงตัวแม่ “แอน-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์” อย่างสุดมันส์พักในจอ เลยได้โอกาสชวน แดน–แพทตี้ มาล้วงหัวใจกับความสัมพันธ์ที่ยิ่งนานทำไมยิ่งหวาน เริ่มจากการร่วมงานละครสะใภ้ TKO แดน เผยว่า “พอเราได้เล่นด้วยกันมีความสบายใจ เล่นง่ายขึ้น เหตุที่รับเพราะเราไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันก็มาใช้ในกองนี่ล่ะ 7 ปีแล้วที่ไม่ได้เล่นละครกับน้อง ผมว่ามันตลกดี เรื่องนี้ผมเป็นผู้ถูกกระทำ ไม่ต้องทำอะไรเยอะ (ยิ้ม) ใช้ตัวเองลงไป บทใกล้เคียงผมนะ ถามว่าละครเป็นแนวแม่สามีกับสะใภ้ ต้องคิดหนักมั้ย ผมว่าเป็นบทที่โตขึ้นตามวัย ถ้าเรามาเล่นบทวัยรุ่นแบ๊วๆ เจอกันปิ๊งกัน มันก็แปลกๆ พอมันเป็นการจำลองการใช้ชีวิตคู่เลยคิดว่ามันน่าจะสนุกดี” >> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<แพทตี้ล่ะต้องเปลี่ยนเยอะเพื่อบทนี้มั้ย? แพทตี้ “ที่ผ่านมาเล่นดราม่ามาตลอด แต่อันนี้เป็นแนวตลกโชะๆใส่กับพี่แอน-สิเรียม ตลอด เลยต้องมาปรับเยอะ บางซีนก็ยาวต้องใช้สมาธิ ไม่คุยกับพี่แดนเลย ใช้พลังงานเยอะมากแต่ก็สนุกมากค่ะ”แดน “บทนี้ไม่ใช่ชีวิตจริงเค้าเลยไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง” แพทตี้ “พี่แอนน่ารักมาก การทำงานเลยสนุกมาก ในการทะเลาะกันมันแฝงความตลกจริงๆ เรื่องนี้พี่แดนช่วยต่อบทช่วยตีความบท ช่วยได้เยอะมาก ฉากที่เข้าด้วยกันก็จะแกล้งกันจนรักกัน”ปีนี้แฟนๆได้เห็นงานคู่กันเยอะขึ้น เป็นความตั้งใจรับงานคู่มากขึ้นในปีนี้รึเปล่า เพราะอะไร? แดน “ผมว่ามันคงเริ่มมาจากการทำช่องยูทูบ ต้องขอบคุณการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ทำให้เราทำช่องขึ้นมา ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรมาก มองว่าเวลาเราไปเที่ยวด้วยกันไม่ค่อยได้ถ่ายรูปกันเลย ไม่มีอะไรบันทึกไว้ เลยคิดว่า ณ วันนี้ถ้าได้ถ่ายอะไรไว้มันก็อยู่กับเรา เป็นอัลบั้ม ความทรงจำ เก็บโมเมนต์ดีๆ อีกอย่างก็เป็นการบังคับให้ได้ทำกิจกรรม ตัวผมเป็นคนทำอะไรจำเจ ซ้ำๆ กินข้าวร้านเดิมๆ ไม่เดินเข้าไปในที่ที่ไม่คุ้นเคย แต่พอทำคลิปแบบนี้มันต้องไป มีความสุขมากเลย ทำให้ชีวิตผมมีสีสัน และข้อดีที่อยากทำต่อก็คือคอมเมนต์หลักๆที่เข้ามาในช่องส่วนใหญ่เค้ามีความสุขกับสิ่งที่เราทำ แล้วเค้าอยากมีความรักแบบนี้ หรือเค้ามีแล้วเค้าลืมคิดไปว่าเราควรอยู่กันแบบนี้สิ อย่างสาวๆแชร์ให้แฟนว่าทำแบบนี้บ้างสิ คอมเมนต์มันไปในทางบวกเลยรู้สึกว่าเราก็ทำต่อสิ มันเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนรักดูแลกัน” ดูแดนมีเวลาให้แพทตี้มากขึ้นด้วย เป็นผลจากการทำงานที่ผ่อนลงมั้ย? แดน “เรียกว่ามีสติเลือกงานมากขึ้น เมื่อก่อนบ้าพลังรับทุกอย่าง บ้าคลั่งการทำงานโดยเฉพาะงานเบื้องหลัง ตอนนี้ก็รู้สึกว่าเราได้รู้หมดทุกอย่างได้ทำสิ่งที่อยากทำ เลยย้อนกลับมาดูตัวเองว่าสิ่งที่เรายังทำแล้วมีความสุข ใบหน้าสดชื่นคืออะไร คงเป็นการไม่ได้ทำงานเยอะ ได้ร้องเพลง ยอมรับว่าจากเจ้าโปรเจกต์ตอนนี้ไม่มีโปรเจกต์ในหัวเลย”แพทตี้อยู่กับแดนตั้งแต่ยุ่งมากจนหัวโล่งวันนี้ รู้สึกยังไง? “รู้สึกดีมาก หนูดีใจมากว่าสุดท้ายพี่แดนก็เห็นตรงนั้น ที่ผ่านมาเราเห็นว่าการทำงานของเค้ามันหนักมาก หนูมองว่ามันเป็นชีวิตที่ไม่เวิร์กจนมาถึงจุดที่เค้าไม่ไหว เริ่มปวดหัวไมเกรน เลยบอกว่าพักก่อนมั้ย สุดท้ายเค้าก็ได้เห็นเองว่าสิ่งที่เค้าแฮปปี้คืออะไร”แดน “เราเป็นคนอินกับครอบครัว แต่กลับไม่ค่อยมีเวลา นัดกัน 10 ครั้งผมแคนเซิลไป 8 ครั้ง เพราะงานมันกะทันหัน แล้วเราเป็นคนนำโปรเจกต์ต่างๆ โชคดีที่น้องเข้าใจ แต่ผมมารู้สึกว่าการทำงานเยอะทำให้เราทำงานออกมาแย่ลง บางงานคิดว่าเราทำดีกว่านี้ได้ แต่เราไม่มีเวลา ผมว่าหลังจากได้บวชด้วย ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น สมองก็โล่ง ความสุขของเราไม่ได้ต้องทำงานทุกวันหรือมีเงินมหาศาล แต่มันอยู่ที่ใจเรา”แพทตี้ “ช่วงหลังสุขภาพเค้าไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน เลยบอกให้ทำงานไปเที่ยวไป” คบกันเกือบ 10 ปี ภาพที่มองแต่ละคนมองกันจากวันแรกที่เป็นแฟนกับวันนี้ มันต่างออกไปมั้ย? แดน “มันก็มาได้ไกลมากๆ ผมรู้สึกกับเค้าเหมือนวันแรกที่รู้สึก สิ่งที่เพิ่มเติมคือมันมีหลายจังหวะที่เราภูมิใจในตัวเค้า อยู่กับเค้ามันเป็นมากกว่าแฟน เป็นน้องสาว เป็นเพื่อน เป็นคนที่เราเฝ้าดูชีวิต เห็นการเติบโต สิ่งหนึ่งที่ดีก็คือ เราคิดมาตลอดว่าการมีใครสักคนในชีวิตมันต้องบวก ผมเคยบอกตัวเองว่าชีวิตผมมีความสุขแล้ว ผมมีครอบครัวที่ดี ผมมีงาน มีเงินพอ ผมอยู่คนเดียวได้ แต่พอเค้าเข้ามามันรู้สึกว่า มันต้องมีหว่ะ มันต้องมีเค้า”แพทตี้ “จากวันนั้นเราไม่ได้มองอะไรไว้เยอะ ตอนนั้นหนูยังเด็กมากๆ คบกันไปก็แฮปปี้ ทุกวันนี้พี่แดนก็พยายามทำให้เหมือนวันแรกๆที่เราคบกัน เค้าก็เป็นคนรักครอบครัวมากๆ มีอะไรก็คอยบอก ดูแลแนะนำเรา บางทีเค้ารู้ตัวว่าเค้าไม่มีเวลา แต่เค้าก็พยายามที่จะทำเพื่อเรา”ช่วงหลังแดนดูหวานขึ้น? แดน “จริงๆเราก็เป็นแบบนี้แต่คนอาจจะไม่เคยเห็น”ช่วงหลังถูกถามเรื่องแต่งบ่อยๆ มีผลเร่งมั้ย? แดน “ไม่ครับ มันมีแพลนอยู่แล้วว่าเมื่อไหร่ควรจะพร้อมดี เดี๋ยวมันก็ถึงเวลาของมัน ไม่นานมากหรอก”กลัวการเปลี่ยนแปลงที่ต้องใช้ชีวิตคู่มั้ย? “ผมก็มีนะ เพราะผมเป็นคนรักอิสระมาก ก็ต้องมาดูว่าเรามั่นคงพอรึยัง ผมโตมาในครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย ในวันที่เราลำบากผมเห็นพ่อแม่ลำบาก ร้องไห้ ทะเลาะกัน หาเงินให้ลูก เป็นหนี้ เราเลยคิดว่าเราต้องพร้อมจริงๆ”แพทตี้ “เราเองก็กลัวนะ หนูติดบ้าน ติดที่บ้าน เรื่องที่คุยกันคือการปิดกับการเปิดของอีกคน ต้องเซอร์เวย์ว่าแถวบ้านมีห้างอะไรบ้าง หนูเป็นคนเปิดชอบทำกิจกรรมใหม่ๆไปที่ใหม่ๆ แต่พี่แดนเป็นคนปิด ก็ต้องหาตรงกลางกัน”แดน “เรื่องนิสัยคือพร้อมมาก แต่คือการวางแผนว่าวันนึงที่เรามาอยู่ด้วยกันจะอยู่ยังไงมากกว่าครับ”.