สะสมประสบการณ์อ่านข่าวมาอย่างโชกโชน เมื่อ ต๊ะ-พิภู พุ่มแก้วเกล้า ผู้ประกาศข่าว ดีกรีนักเรียนนอก อาสานำทัพผู้ประกาศข่าวเซตใหม่ รายการ “ข่าวเช้า” ทาง MONO 29 นั่งจ้อสดๆ ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ร่วมกับ แนนต์-วรวิตา จันทร์หุ่น ผู้ประกาศข่าวหญิงและทีมเวิร์ก โดยหวังสร้างสีสันใหม่ๆ ต๊ะ-แนนต์ เปิดใจเมื่อต้องมาอ่านข่าวคู่กัน เริ่มจาก
แนนต์ “ก็จริงๆ นอกจากแนนต์ พี่ต๊ะ จะมีพี่อีกคนนึง ก็คือพี่เอก-นนทกฤช ถ้าถามในส่วนของแนนต์นะ แนนต์ก็ค่อนข้างตื่นเต้น เพราะว่าทั้งพี่ต๊ะและก็พี่เอกเป็นคนที่มีประสบการณ์ในเรื่องของข่าวมาอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพี่ต๊ะ ประสบการณ์แก่กล้ามาก แนนต์ก็ถือว่าเราโชคดีที่ถูกเลือกให้มานั่งข้างๆพี่ต๊ะด้วย เราก็ต้องทำการบ้านให้เยอะขึ้นเพราะว่าทำงานกับคนเก่งๆ”
ร่วมงานกับต๊ะกดดันขนาดไหน แนนต์?
“กดดันตั้งแต่วันที่ยังไม่ได้ทำงานวันแรกเลยค่ะ อย่างที่บอกความกังวลมันมีเยอะมากมายเลย พี่ต๊ะเป็นคนเก่งมาก ประสบการณ์เขาเยอะมาก ส่วนแนนต์ก่อนหน้าที่จะมาเป็นผู้ประกาศข่าว ก็คือเราถนัดงานด้านพิธีกรมาก่อน ยังกังวลอยู่ว่าในบุคลิกความเป็นพิธีกรของเราพอมาเจอกับคนที่เขาเป็นสายข่าวจริงๆ แล้วเราจะไปด้วยกันได้ไหม พอวันแรกที่เจอกัน พี่ต๊ะก็บอกเลยว่า แนนต์ไม่ต้องกังวลเพราะที่พี่มาอยู่แล้วเนี่ยพี่ต้องการปรับให้ทุกอย่างมันดูสบายขึ้น เรายังคงความเข้มข้นของความเป็นข่าว การเล่าเรื่องราวที่มันมีสาระ มีประโยชน์ให้กับคนดูเหมือนเดิม แต่การนำเสนอพี่จะทำให้มันสบายขึ้น การเล่าทุกอย่างให้คนดูเข้าได้ง่าย”
ต๊ะล่ะย้ายมาบ้านโมโน 29 เป็นยังไงบ้าง?
“เป็นอีกครั้งที่ผมโชคดีได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เราก็อยากจะลองอะไรใหม่ๆบ้าง เนื่องจากว่า ก่อนเรามาก็ต้องยอมรับว่าเราก็ไม่เคยได้ดูข่าวช่องนี้ จนพอมีเวลาก็เลยทำการบ้านนิดนึง แล้วก็ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เองก็เลยพยายามคุยกับผู้บริหารที่ชวนเราเข้ามา ว่าเราอยากให้มันเป็นแบบนี้นะ เราอยากเพิ่มมิติตรงไหน อยากปรับอะไร ถ้าแนวทางมันไปด้วยกันได้ก็หวังว่าสิ่งที่ผมพยายามจะทำมันจะถูกต้อง ไม่รู้หรอกว่ามันจะถูกหรือผิด แต่เราอยากทำแบบนี้ เพื่อให้มันเป็นมิติของช่องที่เรตติ้งค่อน ข้างดี แล้วก็มีเสาหลักที่แข็งแกร่งอยู่ 2 อย่าง ก็คือ ภาพยนตร์กับซีรีส์อยู่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ต่างจากที่อื่นไม่มี แต่ ณ วันนี้เราจะทำข่าวให้เหมือนที่อื่น แต่ก็ยังต้องคงความต่างบางอย่างให้มันมีความเป็นโมโน 29 เราก็พยายามคุยกันว่าอยากให้มันเป็นแบบไหน ส่วนตัวของการทำงานไม่มีปัญหาเลย พื้นฐานของทั้งคู่ที่นั่งกับผมตอนเช้า ทั้งน้องแนนต์ทั้งคุณเอก โดยพื้นฐานผมว่าเขามีสกิลในการสื่อสารที่ดีมากๆอยู่แล้ว ผมก็บอกว่า 3 เดือนก็รู้แล้วว่ามันจะเวิร์ก-ไม่เวิร์ก ไม่ได้แนะนำอะไรกันมาก เราก็เป็นตัวของตัวเราเอง แล้วค่อยๆเรียนรู้กันไป”
...
เราต้องมีการปรับเปลี่ยนอะไรในตัวเรา สำหรับการอ่านข่าว ต๊ะ?
“ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองต้องปรับเปลี่ยนเยอะนะครับ เพราะผมบอกแล้วว่าเราผลัดกันนำเนอะ ยุคนี้คนคงเบื่ออึดอัด ความหนักเดิมๆ ที่ผู้ชายนำผู้หญิงตาม หรือถ้าเป็นผู้หญิงนำแล้วผู้ชายตาม เราสลับกันนำในด้านที่เราถนัดหรือตามแต่จังหวะ ทุกคนจะได้ช่วยกัน ใครขาดหรือตกอะไรไปเราก็เสริมเข้าไป เราอยากทำให้ความรู้สึกมันมีพี่น้องคุณป้าคุณอามานั่งอยู่ด้วยกันแล้วก็สื่อสารกันในตอนเช้า เราอยากให้บรรยากาศมันเป็นแบบนั้น”
ผู้ประกาศข่าวสามคนนี่ใครคุยเก่งสุด?
ต๊ะ “มันขึ้นอยู่กับว่าคุยเรื่องอะไรครับ”
แนนต์ “ใช่ค่ะ (หัวเราะ) คือเราสามคนเกิดมาเพื่อคุยอยู่แล้วค่ะ”
ต๊ะ “จริงๆควรเปลี่ยนชื่อรายการเป็น คุย คุย คุย (หัวเราะ)”
แนนต์ “นิ่งเป็นหลับขยับเป็นคุย (หัวเราะ)”
แสดงว่าเรื่องคุยนี่ไม่มีใครยอมแพ้ใครเลยใช่มั้ย?
ต๊ะ “เอาตรงๆ ผมรู้สึกว่าตอนมาใหม่ๆ ทั้งสองท่านเขายังเกร็งๆผม เค้าก็จะปล่อยผมพูดไปก่อน แต่ตอนหลังผมก็พยายามให้ทุกคนได้พูดเท่าๆกัน ผมว่าทุกคนคุยเก่งหมด”.