ซึ้งในรสพระธรรมคงยากไป สุดท้ายแล้วคือคนทางโลก
พระเอกหนุ่ม “ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร” เผยในงานประกาศรางวัล “นาฏราช” ครั้งที่ 10 หลังผ่านการบวชเรียนมาซาบซึ้งในรสพระธรรม การบวชเงียบๆในครั้งนี้ ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น
ถามถึงความตั้งใจที่จะบวชเงียบๆ?
“จริงๆ ก็อย่างที่งานสุดท้ายที่ได้เจอกับพี่สื่อมวลชน ที่เราก็มีการพูดคุยกันอาจจะหลังไมค์ ที่ผมบอกว่าสุดท้ายการบวชครั้งนี้ ผมไม่ได้รู้สึกว่าบวชเพื่ออะไร หรือว่าบวชเพื่อใคร เราบวชด้วยตัวเอง ก็เลยมีขอพี่ๆนักข่าวไว้ว่าเดี๋ยวเราคุยกันหลังจากสึกมา ก็เป็นความตั้งใจของตัวผมเองและครอบครัวมากกว่าครับ”
บวชกี่วัน?
“15 วันเต็มครับ สึกวันที่ 16”

ระหว่างครองผ้าเหลืองเป็นอย่างไรบ้าง?
“ก็ด้วยลุคความเป็นพระก็ต้องมีความสงบมากกว่าปกติครับ”
มีได้เทศน์ด้วย?
“ใช่ครับ บวชครั้งนี้ได้เทศน์ 2 ครั้งครับ เทศน์วันพระใหญ่ กับมาเทศน์ที่บ้านครับ”
ซึ้งในรสพระธรรมเลยมั้ยหลังเทศน์?
...
“สุดท้ายผมว่าผมชัดเจนครับว่า พูดว่าซึ้งในรสพระธรรมอาจจะยาก ผมว่าไม่เกี่ยว สุดท้ายเราคือคนทางโลก วันนี้เราแค่มีโอกาส แล้วผมสนใจในเรื่องพวกนี้ ก็เลยรู้สึกว่าเราบวชเพื่อจะศึกษาในคำว่าธรรมะ และเอากลับมาใช้ทางโลกได้”
ได้อะไรจากการบวชบ้างที่เราได้สัมผัสมา?
“ผมรู้สึกว่าผมรู้จักตัวเองมากขึ้นอีก แล้วก็รู้สึกว่าทุกวันนี้ผมเข้าใจชีวิตตัวเองมากขึ้น ก็ใช้ชีวิตสนุกขึ้น สบายขึ้นครับ”
ตอนเทศน์เป็น ได้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่งมั้ย?
“คือมันไม่ใช่แค่เราเอากัณฑ์เทศน์ขึ้นไปเปิดแล้วก็อ่าน การที่เราจะเทศน์ผมรู้สึกว่าเราต้องอ่านจนเราเข้าใจจริงๆก่อน ก่อนที่จะไปอ่านให้คนอื่นฟัง ก็ได้ความรู้นอกเหนือจากที่เราเคยรู้เพิ่มเติม”

แล้วก่อนเทศน์เตรียมตัวยังไง?
“สมมติปฏิบัติภาคค่ำเสร็จ พระอาจารย์ก็จะให้นั่งเทศน์คนเดียว มันเป็นพิธีการที่ผมว่ามันสำคัญเหมือนกันนะ ก็ต้องซักซ้อมกันก่อน”
เห็นมีไปมอบทุนให้ผู้ป่วยติดเตียงด้วย?
“ครับ คือจริงๆ มันเป็นโปรเจกต์ที่เกิดก่อนหน้าจะบวช คือผมได้ซื้อเครื่องมือแพทย์ไว้แล้ว ตอนแรกที่เราซื้อเครื่องมือแพทย์เรายังไม่มีโอกาสไปมอบ แล้วตอนบวชญาติโยมและแฟนๆมาหาเยอะมาก แล้วก็มีคนร่วมบุญเยอะ จนวันหนึ่งเราก็เลยคิดกับเจ้าอาวาสว่าร่วมบุญกันเลยไหม ทำเป็นอันเดียวกัน พอบุญมันเกินเป้า มันก็เลยถูกแตกตัวไปเป็นหลายโปรเจกต์ เช่น มีผู้ป่วยติดเตียง ช่วยคนยากไร้ คนไร้บ้าน พ่อแม่ที่โดนลูกทิ้งแล้วก็ไปปิดท้ายที่ทุนการศึกษาของโรงเรียนที่อยู่ที่วัดที่ผมบวช แล้วที่เหลือก็บริจาคให้วัด ในการทำนุบำรุงวัด”
อิ่มบุญอิ่มใจเลยมั้ย?
“ทุกวันนี้ยังไม่เข้าใจว่าอิ่มบุญคืออะไร แต่รู้สึกสบายใจที่จะทำมากกว่า”
มีคนมาขอบคุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?
“ผมว่ามันทำให้เรารู้สึกไม่ลืมตัว ผมพูดตรงๆว่าผมทำงานมาเรื่อยๆ ผมก็เปลี่ยนไปเรื่อยเหมือนกัน แต่วันหนึ่งพอมาเจอคนที่ลำบากกว่าเรา หรือสิ่งที่ไม่เคยเจอในครอบครัวเรา บางครั้งมันทำให้เราฉุกคิดกลับมามากกว่า ว่าจริงๆเราควรให้ความสำคัญกับตัวเองมากขึ้น”

พร้อมกลับมาลุยงานเต็มที่เลยใช่มั้ย?
“ก็ตอนนี้ใครสนใจก็ได้เลยครับ”
มีละครแล้ว?
“มีแล้วครับๆ ตอนนี้อยู่ในช่วงปรับบท บอกอะไรไม่ได้เลย”
ผมกับคิ้วตอนนี้เป็นอุปสรรคมั้ย?
“อันนั้นส่วนหนึ่ง แต่ผมว่าประเด็นหลักๆคือเราต้องฟอร์มไฟนอลที่เราอยากทำจริงๆก่อน”.