ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ส่อง 3 คนบันเทิงป่วยเป็นโรคหายาก

การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสิรฐ คือสิ่งที่จริงแท้และแน่นอนที่สุด และสมัยนี้ โรคภัยต่างๆ ก็แปลกประหลาดขึ้นทุกวัน ซึ่งบางโรคที่เกิดขึ้นกับบางคนนั้น เรียกว่าดวงแตกมาก เพราะมีแค่ไม่กี่คนบนโลกที่เป็นโรคนี้กัน งานนี้บันเทิงไทยรัฐออนไลน์เลยขอรวบรวมคนในวงการบันเทิงที่ต้องมาเจอแจ็กพอตเป็นโรคที่น้อยคนจะเป็น ซึ่งจะมีใครกันบ้าง บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ได้รวบรวมเอาไว้แล้ว

เริ่มต้นกันที่ นักร้อง-นักแสดงสาวสวยจากเวทีค้นฟ้าคว้าดาวอย่าง น้ำตาล เดอะสตาร์ หรือ บุตรศรัณย์ ทองชิว ซึ่งเจ้าตัวได้เสียชีวิตไปอย่างสงบและกะทันหันด้วยวัณโรคหลังโพรงจมูก ซึ่งก่อนหน้าที่น้ำตาลจะล้มป่วยลงอย่างฉับพลันนั้น สาวน้ำตาลไม่มีอาการป่วยใดๆ ทั้งสิ้น และยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากๆ แต่กลับเกิดมีอาการเลือดออกปากและจมูกเป็นจำนวนมาก ระหว่างที่กำลังนั่งกินข้าวกับคุณแม่ ซึ่งเพราะมีเลือดออกมาเช่นนี้ จึงทำให้สาวน้ำตาลหยุดหายใจ เพราะเลือดไปอุดตันที่ปอดเป็นจำนวนมากนั่นเอง และเมื่อถึงโรงพยาบาล ก็อยู่ในอาการโคม่า ก่อนจะถูกย้ายตัวมารักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่โรงพยาบาลศิริราช

ซึ่งในระหว่างที่ทางแพทย์เฝ้าดูอาการของสาวน้ำตาลนั้น และหยุดเลือดที่ไหลออกมาได้แล้ว แต่สมองของนักร้องสาวกลับมีอาการบวมและทำให้น้ำตาลจากไปอย่างสงบ ซึ่งทางแพทย์ก็ยังหาคำตอบของโรคที่น้ำตาลเป็นยังไม่ได้ จึงได้ขออนุญาตครอบครัวเพื่อนำชิ้นเนื้อที่หลังโพรงจมูกไปตรวจหลังทำการส่อง และพบว่าน่าจะเป็นจุดที่เกิดเหตุเลือดไหล และหลังจากที่ใช้เวลาตรวจจนมั่นใจว่า น้ำตาล เดอะสตาร์ เสียชีวิตด้วยโรคอะไร ทีมแพทย์ก็ได้แถลงข่าว พร้อมกับเผยโรคที่นักร้องสาวเป็น ว่ามันคือวัณโรคหลังโพรงจมูก

ซึ่งสำหรับวัณโรคหลังโพรงจมูกนั้นพบผู้ป่วยได้น้อยกว่าร้อยละ 1 ของวัณโรคที่พบนอกปอด งานนี้ทีมแพทย์ได้แนะนำให้คนไทยหมั่นตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี หากมีอาการที่ไม่น่าไว้วางใจให้รีบไปพบแพทย์ทันที

...

นักแสดงคนต่อมาที่ต้องมาป่วยเป็นโรคที่คนไม่ค่อยเป็นก็คือ เมฆ วินัย ไกรบุตร ที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังป่วยอย่างหนักกับโรคตุ่มน้ำพอง หรือ เพมฟิกัส ซึ่ง 1 ใน 4 แสนคน จะมีคนที่เป็นโรคนี้ และคนไทยที่เป็นโรคนี้มีไม่ถึง 10 คน โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยอาการป่วยของตนผ่านการไลฟ์สด ซึ่งเมฆ วินัย ได้เผยว่า โรคนี้หากใครเป็นจะทุกข์ทรมานมาก เพราะมีอาการแสบคัน และตุ่มน้ำก็ขึ้นไปทั่วทั้งร่างกายแม้กระทั่งในปาก แต่ไม่ขึ้นที่อวัยวะเพศ

ซึ่งกว่าจะหาหมอที่ทราบโรคอย่างแน่ชัดได้ เมฆ วินัย ก็รักษาตัวมาหลายที่ แต่ก็ไม่ดีขึ้น จนล่าสุด เจ้าตัวได้เป็นคนไข้ของอาจารย์หมอที่เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง และได้ทำการรักษาและให้ยาที่ถูกกับโรคอาการ ป่วยของนักแสดงหนุ่มดีขึ้นตามลำดับ ตุ่มน้ำพุพองที่แตก เริ่มยุบและแห้งลงไปตามลำดับ แต่แพทย์ก็ได้เปิดเผยว่า กว่าจะรักษาให้ดีขึ้น ต้องใช้เวลานานกว่า 3 เดือน และค่ายาในการรักษาก็แสนแพง ยา 1 โดสที่ฉีดมีราคาสูงถึง 5 หมื่นบาท

ซึ่งหลังจากที่ เมฆ วินัย ได้เปิดเผยความโชคร้ายของตัวเองที่ดันมาเป็นโรคนี้ไป ก็มีแฟนๆ ส่งกำลังใจให้เจ้าตัวหายวันหายคืนจากโรคที่แสนทรมานนี้ไวๆ จะได้กลับมาเล่นละคร และกลับมาวิ่งมาราธอนได้อีกครั้ง ซึ่งโรคในกลุ่มตุ่มน้ำพอง เกิดจากภูมิต้านทานของร่างกายทำงานผิดปกติ ทำให้มีการสร้างแอนติบอดีมาทำลายการยึดเกาะของเซลล์ผิวหนังผิวหนังหลุดลอกออกจากกันได้ง่าย ประกอบกับปัจจัยทางพันธุกรรมและปัจจัยเสี่ยงทางสิ่งแวดล้อมมีส่วนในการกระตุ้นโรคด้วย

...

ปิดท้ายกันที่ดาราเด็ก น้องซีดี กฤตไน เลาหปราสาท จากภาพยนตร์เรื่อง ตุ๊กแกรักแป้งมาก และละครเรื่อง เทวดาฟันน้ำนม ที่ป่วยเป็นโรคโมยาโมยา โดยเจ้าตัวมีอาการปวดหัว และจำอะไรไม่ค่อยได้ โดยมีอาการหลอดเลือดสมองมีการอักเสบและก็มีการอุดตันของหลอดเลือด ซึ่งจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด หลังจากที่กินยาครบ 3 เดือนแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น ซึ่งในตอนแรกทางคุณแม่ของน้องซีดีไม่อยากจะให้ทำการผ่าตัด เพราะดูเสี่ยงมากกับลูกชาย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจยอมให้คุณหมอทำการผ่าตัดเปิดกะโหลกฝั่งซ้ายเพื่อต่อหลอดเลือด

...

แม้จะมีอายุยังน้อย แต่น้องซีดีกลับเข้มแข็งและสู้มากๆ โดยก่อนจะผ่าตัด เจ้าตัวได้บอกกับแม่ว่าจะต้องหาย และฟื้นขึ้นมา เป็นฝ่ายให้กำลังใจคุณแม่ที่มีความกังวลและเป็นห่วงลูกชายตัวน้อยเป็นอย่างมาก และหลังจากการผ่าตัด ตั้งแต่ผ่าตัดเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2558 จนกระทั่งถึงตอนนี้น้องซีดีก็ยังต้องไปตรวจติดตามอาการของโรคดังกล่าวอยู่เสมอ ซึ่งโรคโมยาโมยา คุณหมอสันนิษฐานว่าเกิดจากพันธุกรรม ส่วนเรื่องอาหารการกินก็อาจจะมีส่วนเพราะการดำเนินโรค ถ้าไม่ดูแลตัวเอง ก็อาจกระตุ้นให้เกิดโรคได้ ซึ่งโรคนี้เกิดขึ้นบริเวณสมอง และโรคนี้มีโอกาสเป็นแค่ 1 ในล้านคนไทยเท่านั้น

เพราะเช่นนี้เราจึงต้องหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ ด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหมั่นไปตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำทุกปี หากพบอาการป่วยที่ดูเหมือนจะผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็กให้ละเอียดเพื่อหาสาเหตุของการเจ็บป่วยที่แท้จริง อย่าได้นิ่งดูดายกับอาการป่วยของตัวเอง เพราะเงินที่หามาได้จากการทำงานแทนที่จะเอาไว้ใช้เพื่อให้ชีวิตสุขสบาย กลับต้องเอามาใช้รักษาตัวเองก็เป็นได้