ในท่ามกลางข่าวการเมือง “เปลืองสมอง” อ่านแล้วท้อถอย เรามาอ่านข่าวเล็กๆแต่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับความสำเร็จของภาพยนตร์ไทยของเราเรื่องหนึ่งที่ “พิชิตใจ” เพื่อน “อาเซียน” และ “เอเชีย” อย่าง ท่วมท้นดีกว่าครับ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้เอง เว็บไซต์ “VOGUE ประเทศไทย” ได้ขึ้น “พาดหัว” และนำเสนอรายละเอียดของข่าวที่อ่านแล้วชวนให้ปลาบปลื้มใจในฐานะคนไทย...อยู่ข่าวหนึ่ง

เริ่มจากพาดหัวซึ่งอ่านได้ใจความว่า “หลานม่า” ขึ้นแท่นภาพยนตร์ไทยเรื่องที่ 3 ที่ทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านบาท

ตามมาด้วยรายละเอียดของเนื้อข่าวโดยสรุปว่า...“เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย เมื่อมีตัวเลขออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าภาพยนตร์เรื่อง หลานม่า สามารถกวาดรายได้สุทธิ 1,088.5 ล้านบาท หลังจากที่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของหลายๆประเทศ”

“ภาพยนตร์หลานม่ากวาดรายได้ในแต่ละประเทศอาเซียนไปได้อย่างท่วมท้น ประกอบไปด้วยประเทศไทย 337 ล้านบาท, มาเลเซีย 116 ล้านบาท, อินโดนีเซีย 412 ล้านบาท, สิงคโปร์ 91 ล้านบาท, ฟิลิปปินส์ 42 ล้านบาท, เวียดนาม 81 ล้านบาท, ฮ่องกง 6.5 ล้านบาท และลาว 3 ล้านบาท”

“โว้ก ประเทศไทย ขอแสดงความยินดีมา ณ ที่นี้ ที่ หลานม่า ประสบความสำเร็จจากการสะท้อนเรื่องจริงของครอบครัวบางส่วนในสังคม จนสามารถครองใจคอหนังในประเทศอาเซียนอย่างท่วมท้น”

ครับ! ผมขออนุญาตคัดลอกทั้งพาดหัวและเนื้อข่าวบางส่วน บางตอนของ โว้ก ประเทศไทย มาสู่กันอ่านอีกครั้ง พร้อมกับขอแสดง ความยินดีกับ “หลานม่า” ด้วยเช่นกัน

ในฐานะแฟนคลับคนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้...มีโอกาสได้ไปนั่งดูในรอบพิเศษที่ สยามพารากอน เมื่อวันฉายเปิดตัวและเก็บมาเขียนด้วยความประทับใจถึง 2 วัน

...

ยกให้เป็นภาพยนตร์ไทยที่ดีที่สุดในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ พร้อมทั้งเขียนให้กำลังใจ ขอให้ได้ทั้งเงินและกล่องควบคู่กันไป

ที่เขียนเช่นนั้นก็เพราะมั่นใจว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องได้ “กล่อง” หรือรางวัลเกียรติยศแน่นอน...แต่จะได้ “เงิน” หรือไม่? ยังเดายาก

เมื่อปรากฏว่ากลับได้เงินมาพันกว่าล้านบาท ก่อนที่จะได้ “กล่อง” หรือได้รางวัลใดๆเสียอีก เช่นนี้กองเชียร์อย่างผมก็โล่งอกไป

ยิ่งมาทราบว่าเงินส่วนใหญ่ดูจากยอดที่โว้กแจกแจงไว้ ถ้าหักรายได้ในประเทศไทยออกเสีย 337 ล้านบาท ก็จะเป็นรายได้จากกลุ่มประเทศอาเซียนถึง 700 กว่าล้านบาท

ในยามยากการค้าระหว่างประเทศไม่ค่อยจะดี รายได้จากการส่งออกถดถอยลง แต่มาได้รายได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เก็บเกี่ยวจากเพื่อนบ้านในจำนวนสูงถึง 700 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง

ที่สำคัญระหว่างเข้าฉายในแต่ละประเทศก็จะมีรายงานหรือการแชร์ข่าวในโซเชียลมีเดียว่าที่โน่นที่นี่คนแน่นมาก คนดูดูแล้วร้องไห้กันจ้าละหวั่น บางประเทศถึงกับต้องเตรียมทิชชูไปแจกหน้าโรง...ผมอ่านแล้วก็รู้สึกปลื้มใจ และดีใจแทนบริษัท GDH ในเครือ GMM Grammy ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างบอกไม่ถูก

โดยเฉพาะดีใจสุดๆกับผู้รับบท “อาม่า” ซึ่งเป็นเพียงนักแสดงสมัครเล่น...ป้า อุษา เสมคำ ที่กลายเป็นขวัญใจอาเซียน ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกับมาขอลายเซ็นอุตลุดเมื่อเดินทางไปโชว์ตัว

ต้องขอขอบคุณผู้อำนวยการสร้าง วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ และ จิระ มะลิกุล, ขอบคุณผู้กำกับ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์, ขอบคุณผู้เขียนบท ทศพล ทิพย์ทินกร และ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ฯลฯ

แน่นอนขอบคุณดาราแสดงนำทุกคน โดยเฉพาะ พุฒิพงศ์ อัสส รัตนกุล หรือ บิวกิ้น ที่เป็นตัวชูโรง รับบทบาท “หลานม่า” ได้อย่างน่ารักน่าชังและในที่สุดก็น่ารัก...ได้อย่างยอดเยี่ยม

เงินที่ได้รับจากเพื่อนๆอาเซียน+ฮ่องกง แม้จะมีความหมายก็จริงอยู่ แต่คำชื่นชม, เสียงปรบมือ, เสียงร้องไห้ และการยกนิ้วให้แก่หนังไทยของเรา ผมถือว่ามีความหมายมากที่สุด...ขอบคุณ GDH อีกครั้งนะครับ ที่นำความสุขและความปลาบปลื้มครั้งนี้มาสู่คนไทย.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม