ผงาดความเป็นวงป๊อปพั้งก์ขวัญใจวัยรุ่นทั่วโลกมายาวนานมากกว่า 20 ปี วง “SIMPLE PLAN” (ซิมเพิล แพลน) ยังคงลุยต่อในเส้นทางดนตรีเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตมาแล้วทั่วโลก รวมทั้งคอนเสิร์ตครั้งล่าสุดในประเทศไทย หลังจากห่างหายไปนานกว่า 7 ปี กับคอนเสิร์ต “SIMPLE PLAN-The Harder Than It Looks Tour-Live In Bangkok 2023” จัดโดย Defiance Entertain ment ณ centralwOrld Live House ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ ก็ยังคงเติมเต็มแฟนเพลงทุกช่วงวัย ทั้งแฟนเพลงตั้งแต่ยุคแรกที่ได้ย้อนวันวาน รวมทั้งแฟนเพลงรุ่นใหม่ๆที่พร้อมมันส์ไปกับเพลงสีสันปัจจุบัน ซึ่งแม้คอนเสิร์ตจะปิดฉากไปแล้วงานนี้ 4 หนุ่ม “SIM PLE PLAN” ได้เปิดใจสุดพิเศษกับ “ทีมข่าวบันเทิง” ถึงความรู้สึกที่มีต่อประเทศไทย รวมทั้งความเป็นซิมเพิล แพลน ณ วันนี้ เริ่มจากความรู้สึกที่ได้กลับมาเล่นคอนเสิร์ตในไทยในรอบ 7 ปี?“ก่อนหน้านี้พวกเราก็อยากกลับมาแต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่ได้ทัวร์คอนเสิร์ตถึง 2 ปี ซึ่งการได้กลับมาประเทศ ไทยครั้งนี้มันสุดยอดมาก พวกเรามีความสุขกับคอนเสิร์ตมาก พวกเรารู้สึกพิเศษเพราะประเทศไทยเป็นที่แรกๆที่เราเคยมาแถบอาเซียนตั้งแต่ปี 2002 เราจำได้ว่าได้มาโชว์ที่ฮาร์ด ร็อค คาเฟ่ จำได้ว่าตอนนั้นมันส์มากๆ และ 21 ปีต่อมา เราก็ยังได้เจอแฟนๆที่มาเจอพวกเราตั้งแต่ปี 2000 มันยอดเยี่ยม มาก ต้องขอบคุณที่ยังสนับสนุนวงของเราและเราได้เจอกับแฟนๆกลุ่มใหม่ ขอบคุณ ที่ให้การต้อนรับพวกเรา อย่างดี เป็นเกียรติมากที่ได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง ได้เห็นกรุงเทพฯเปลี่ยนไปในหลายๆด้าน หวังว่าจะได้กลับมาเจอทุกคนอีกครั้ง”ความทรงจำของพวกคุณที่มีต่อประเทศ ไทยมีอะไรบ้าง?“พวกเรามีความทรงจำมากมาย อย่างที่บอกว่าครั้งแรกที่เราเดินทางมาประเทศไทย เป็นครั้งแรกที่ได้บินมาในแถบอาเซียนทุกอย่างดูเป็นเรื่องแปลกใหม่และน่าตื่นเต้น เราได้ไปในหลายสถานที่ ได้ไปเดินเล่นเยี่ยมชมวัดและได้พบวัฒนธรรมใหม่ๆ อาหารก็ยอดเยี่ยม ตอนนั้นพวกเรายังเด็กและเป็นการเดินทางไกลครั้งแรกของวง จึงเป็นความทรงจำที่แสนพิเศษ หลังจากนั้นเราก็ได้กลับมาอีก 3-4 ครั้ง และมีความสุขทุกครั้งที่ได้มาเล่นที่นี่ ประเทศไทยจึงเป็นประเทศที่พิเศษสำหรับเรา และเป็นประเทศที่ทุกคนอยากมาเที่ยว ซึ่งพวกเราโชคดีที่ได้มาแสดงคอนเสิร์ตที่นี่และได้มาเห็นหลายๆสิ่งพัฒนาและเปลี่ยนไปมาก แต่ในทางกลับกันหลายสิ่งก็ยังคงเหมือนเดิม” ถามถึงอัลบั้ม The Harder Than It Looks ที่ปล่อยเมื่อปี 2022 มีสีสันใหม่ๆ และการเติบโตอย่างไรบ้าง?“คอนเซปต์ของอัลบั้มนี้เราพยายามสร้างสรรค์ให้เห็นถึงความเป็นแก่นเพลงของ Simple Plan เป็นอัลบั้มที่รวบรวมทุกสิ่งที่เรารักเกี่ยวกับวงของเรา เมื่อแฟนๆได้ฟังก็จะรับรู้ถึงความพิเศษของความเป็น Simple Plan ทั้งเอเนอร์จี้ของเพลงในยุคแรก ความเป็นเพลงร็อกของชุดที่สอง และความบาดลึกทางอารมณ์ของอัลบั้มที่ 3 รวมทั้งมุมมองการเล่าเรื่องจากอัลบั้มที่ 4 และ 5 นำมารวมกัน นำเสนอความเป็นพวกเรา ปรุงเป็นส่วนผสมใหม่ เราไม่ได้ต้องการทำเพลงเหมือนเดิมทุกอย่าง มันก็สำคัญนะที่เราจะต้องนำอิทธิพลของซาวด์ดนตรีสมัยใหม่ใส่เข้าไป ทำให้แฟนๆได้ฟังเพลงที่มีความเป็น Simple Plan ในปี 2023 จริงๆ”วงครบรอบ 20 ปีจากอัลบั้มแรก รู้สึกอย่างไรที่พวกคุณขึ้นแท่นวงป๊อปพั้งก์ขวัญใจยุคมิลเลนเนียม (Y2K) ซึ่งแฟนๆก็ยังติดตามยาวนานถึงวันนี้?“วงของเราโชคดีมาก เราเกิดในช่วงยุค 2000 เราผ่านหลากหลายช่วงเวลาของวงการเพลง มันพิเศษมากๆที่เรายังเป็นหนึ่งในวง ที่ยังคงอยู่และยังคงรักการที่จะอยู่ในวงนี้ โดยมีแฟนๆคอยสนับสนุนพวกเรา ซึ่งวงเราเกิดขึ้นในยุคที่ถือว่าสุดยอดมาก เพราะมีวงต่างๆในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน อาทิ Blink-182, Green Day, Sum41, Good Charlotte, The All-American Rejects มันเป็นเรื่องดีที่ตอนนี้มีการสตรีมมิงและวงการเพลงป๊อปพั้งก์กลับมาฟื้นคืนชีพ แฟนๆกลับไปฟังเพลงในยุคเหล่านี้อีกครั้งย้อนความทรงจำและดนตรีในช่วงวัยรุ่นของตัวเอง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่จะอยู่กับเราตลอด ซึ่งมันยอดเยี่ยมมากที่เราสามารถเป็นวงที่สำคัญต่อชีวิตของแฟนๆและทุกวันนี้ยังมีโอกาสได้เล่นเพลงเหล่านั้นอยู่ ขณะเดียวกันทุกๆการแสดงก็มีแฟนกลุ่มใหม่ๆที่ยังไม่เคยดูโชว์ของพวกเราเสมอ ดังนั้น การแสดงทุกครั้งเปรียบเหมือนโอกาสใหม่ๆที่ทำให้แฟนๆเห็นว่าเรายังทำอะไรได้บ้าง เวลาที่พวกเราได้เห็นรีแอ็กชันจากแฟนๆที่ร้องเพลงตาม หรือแม้แต่ร้องไห้ท่ามกลางคนดู ทำให้เรารู้ว่าเพลงของพวกเรานั้นมีอิทธิพลต่อพวกเค้าจริงๆ เราได้รับจดหมายและข้อความทางโซเชียลมีเดียมากมายจากทั่วโลกที่บอกว่าเพลงของเราสำคัญกับพวกเค้าแค่ไหน บางคนถึงกับสักชื่อวงหรือเนื้อเพลงของพวกเราไว้บนร่างกาย มันเป็นสิ่งที่สุดยอดมาก พวกเรารู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณมากๆ จริงๆ”อะไรที่ทำให้พวกคุณยังมีแพสชันถึงวันนี้?“มันเป็นความฝันของพวกเราเสมอตั้งแต่วันแรกที่จะได้เล่นดนตรีกับวง ได้เดินทางรอบโลกไปทัวร์คอนเสิร์ต เราเริ่มต้นจากจุดเล็กๆและฝันว่าผู้คนได้ยินเพลงของเราและพาเราให้ได้เดินทางไปทั่วโลก โชคดีมากที่ฝันของเรา เป็นจริง ซึ่งพวกเราไม่เคยลืมคุณค่าของความโชคดีนี้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงยังเดินหน้าต่อและไม่เคยทำมันเล่นๆ เพราะเราไม่เคยลืมจุดเริ่มต้นที่เราอยากก้าวเข้ามา บางครั้งเราอาจจะเหนื่อยที่ต้องนั่งเครื่องบินนานๆหรือว่าตื่นเช้ามาก แต่เราก็จะปลุกตัวเองขึ้นมา นึกถึงตอนที่เราทำสิ่งนี้เมื่อ 20 หรือ 25 ปีก่อน ตอนที่เราเริ่มต้นทำทุกอย่าง เราจะเห็นว่าตอนนี้นี่ไงคือสิ่งที่พวกเราฝันและเตือนตัวเองเสมอว่าเราโชคดีแค่ไหน เรามีความสุขมากๆที่เรายังอยู่ตรงนี้ ยังอยู่กับความฝันของเราและยังมีแพสชันกับสิ่งที่ทำ ซึ่งพวก เราก็ภูมิใจและอยากจะทำสิ่งนี้ต่อไปให้ได้นานที่สุดเท่าที่เราจะทำได้”.สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย
