ต้องมารับไม้ต่อจาก เอส กันตพงศ์ หลังเกิดเหตุสุดวิสัย ทำให้ หลุยส์ เฮส พระเอกหนุ่มลูกครึ่ง มาแตะมือสวมบท “คุณหมอปาฏิหารย์” ในละคร “คุณแม่แก้ขัด” ทางช่อง 7HD ยอมรับช่วงแรกๆมีความกังวลใจบ้างแต่ยินดีมาเล่นแทน พร้อมเดินหน้าลุยงานเบื้องหลังขยับฐานะเป็นผู้จัดผลิตรายการ ทำงานร่วมกับ จอย ภัทรินญา บุญเลิศ แฟนสาว ไร้ปัญหาทะเลาะกัน ใน “คนดังนั่งคุย”
การมารับไม้ต่อในบทคุณหมอปาฏิหาริย์เป็นอย่างไร
“จากการที่เราได้มารับช่วงต่อจากพี่เอส (กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) ในช่วงที่พี่เอสต้องพักรักษาตัว ความรู้สึกแรกเลยคือไม่สบายใจ เพราะพี่เอสเป็นรุ่นพี่ที่เรารักและเคารพ รวมถึงวันที่เกิดเหตุผมก็อยู่กับพี่เอสเขา เราเป็นพิธีกรร่วมกันที่พารากอน ตอนนั้นเหมือนเพิ่งผ่านไปแค่ 2 อาทิตย์ ทางช่องก็ติดต่อมา ความรู้สึกผมคือพี่เขายังรักษาตัวอยู่เลยยังไม่หาย ไม่ทันอะไรเลยแล้วให้เรามารับช่วงต่อ อาจจะมองว่าเรามาแย่งงานพี่เขาไหม ก็เลยไม่สบายใจ แล้วก็คุยกับทางช่อง และทางค่ายปรากฏการณ์ดี ว่าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ถ้าต้องทำจริงๆผมก็เต็มใจจะทำ แต่ผมขออนุญาตปรึกษากับครอบครัวของพี่เอสก่อน หลังจากที่ได้พูดคุย ปรึกษากับทางภรรยาและแม่ของพี่เอส ซึ่งทางครอบครัวพี่เอสตอบกลับมา เขาเต็มใจและก็ยินดีมากที่รู้ว่าเราจะมาเล่นในคาแรกเตอร์พี่เอส ผมก็เลยมาตอบรับกับทางช่อง และทางค่ายว่าครอบครัวพี่เอสโอเคครับ”
พอทำงานในกองคุณแม่แก้ขัดนานไหมกว่าจะจูนกันติด
“เร็วครับ เร็วแบบผิดคาดเลย แล้วความจริงทางกองเขาก็รู้สึกแบบเดียวกับเรา เขาก็รู้สึกเกรงใจที่ตัวผมต้องมาเล่น เขาพร้อมจะซัพพอร์ตเราทุกอย่าง มันเลยกลายเป็นเราที่กังวลไปเองว่าเขาจะไม่เปิดรับเรา แต่ความจริงเขากลับรู้สึกว่าผมจะไม่โอเคหรือเปล่าที่ต้องมาเล่น พอได้ทำงานทุกอย่างก็ราบรื่นครับ แล้วก่อนหน้าที่จะถ่ายทำเราก็มีเวิร์กช็อปด้วยครับ เวิร์กช็อปกันเป็นอาทิตย์อยู่ รวมถึงผมก็ได้ดูวิดีโอทั้งหมดที่พี่เอสเล่นเอาไว้ด้วยครับ”
...
บทหมอปาเรื่องนี้มีลูกด้วย
“เป็นละครเรื่องแรกที่มีลูกครับ เอาจริงๆผมก็ตกใจอยู่ คือตอนที่ช่องติดต่อมาผมก็พอรู้ว่าบทนี้เป็นอย่างไร ยังคุยกับที่บ้านเลยว่า ช่องเขาให้เราเล่นบทที่มีลูกแล้วนะ (หัวเราะ) เป็นคุณพ่อแล้วนะ ตอนแรกเราก็แปลกใจเพราะเป็นอะไรที่ไกลตัวมาก แต่ก็ลองดู ซึ่งน้องไฟซัล (ด.ช.ไฟซัล นากิ๊บ) เป็นน้องที่น่ารักเข้าฉากกันสนุกมาก รวมถึงคุณพ่อคุณแม่น้องก็น่ารักมาก ตอนถ่ายทำก็คือสนิทกันไปเลย มีแค่ตอนแรกผมแอบกังวลว่าเราต้องเข้ากับเด็ก เราไม่เคยมาก่อน ซึ่งเพื่อนผมเขาเคยร่วมงานกับน้องไฟซัลมาก่อน เขาก็บอกกับผมว่า เดี๋ยวก็รู้ เราก็คิดแล้วคำว่าเดี๋ยวก็รู้คืออะไร? คือทั้งเรื่องอันคอนโทรล และรวมถึงความซน แต่พอเรามาเจอน้องเขาจริงๆแตกต่างมาก เวลาทำงานน้องเขาคือทำงาน สคริปต์ บททุกอย่างน้องทำได้ เวลาเล่นก็คือเล่น แต่เวลาทำงานคือทำงาน”

ร่วมงานกับสกายนางเอกเป็นอย่างไรบ้าง
“เคยเห็นผลงานน้องมาบ้างแต่ยังไม่เคยทำงานด้วยกัน น้องเป็นคนที่มีความโปรเฟสชันแนลสูง เป็นคนน่ารักคนหนึ่ง มีขนม มีอะไรก็มาแบ่งปันกัน แล้วน้องเป็นคนที่ทำให้กองไม่เครียดครับ”
สกายพาเราเข้าวงการติ๊กต่อกด้วย
“คือเขาก็มาขอครับ บอกว่าพี่หลุยส์มาเต้นด้วยกันหน่อยนะ”
เรื่องเต้นสำหรับหลุยส์เป็นอย่างไร
“ก็น่าจะได้อยู่นะครับ (หัวเราะ) ผมรู้สึกว่าผมถูกชวนเยอะเป็นพิเศษ อาจจะเพราะว่าเรานิ่งๆจะไม่ได้เห็นเราเต้นแบบนี้ ซึ่งเขาก็น่าจะอยากให้แฟนคลับได้เห็นเรา ได้ภาพนี้ เลยชวนมาละลายพฤติกรรม เขินไหม ไม่เขินนะครับ ทำได้ แต่อาจจะไม่ดูธรรมชาติมากเท่านั้น”
ตอนนี้หลุยส์ขึ้นแท่นเป็นผู้จัดแล้ว ผลิตรายการออนไลน์
“ความจริงด้วยหลายๆเหตุผล คือผมอยู่ในวงการบันเทิงเป็นนักแสดงก็อยากจะเป็นอะไรที่อยู่ในวงการเดียวกันอยู่ อย่างเบื้องหลัง แล้วเราก็ดูรายการต่างๆของช่องอยู่แล้ว และเหมือนว่าช่อง 7HD ยังไม่มีตรงนี้นะ ตรงที่ผมอยากนำเสนอ อย่างรายการพอดแคสต์เลยคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดี ก็เลยเกิดเป็นช่องพอดแคสต์ครับ ชื่อช่อง มหาชน TALK เรื่องราวชาวมหาชน ตอนนี้ก็มีอยู่ 2 รายการครับ ก็คือรายการ ติดลมบน จะเป็นการสัมภาษณ์นักธุรกิจ แบบ TOP 100-200 ของประเทศ หรือคนที่มีแนวคิด แนวทาง ที่จะมาแบ่งปันให้กับผู้ชม อีกรายการจะเป็นรายการชื่อ เสียงจากหลุม เชิญแขกรับเชิญที่เคยพบเจอเรื่องลี้ลับ ก็นำมาเล่าให้พิธีกรฟัง”
ทำไมถึงเลือกรายการเสียงจากหลุมที่เป็นแนวลี้ลับได้ล่ะ
“ตัวผมยังไม่เคยมีประสบการณ์นะครับ แต่อย่างแรกเลยผมคิดว่ารายการนี้น่าจะตอบโจทย์ฐานคนดูช่อง 7HD ผมมองว่าเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่สนใจเพราะทุกคนก็จะมีความเชื่อแตกต่างกันไป อย่างพาร์ตเนอร์ผมเขาก็จะมีความเชื่อเรื่องลี้ลับ เราก็เลยเลือกที่จะทำ 2 รายการนี้ดูว่าฟีดแบ็กจะเป็นอย่างไร”
ทำรายการต่างๆทางแฟนหลุยส์เองเข้ามาช่วยดูแลด้วยกันไหม
“ครับ เขาคือพาร์ตเนอร์ ดูแลเรื่องสคริปต์ จริงๆเราก็ทำด้วยกันหมดและยังมีน้องในทีมอีก 2-3 คนที่ช่วยกันดูแล 2 รายการนี้ ส่วนตัวผมจะดูภาพรวม พาร์ตเนอร์ผมก็ดูภาพรวมเหมือนกัน คือช่วยกันทั้งหมด อย่างบางวันผมไปดูการตัดต่อ บางวันก็อาจจะเป็นทีมน้องๆไปดู พอเขาดูเสร็จ ผมก็จะขอดูอีกทีอยู่ดี ก่อนไฟนอล”
...
ตอนนี้รายการอยู่ตัวหรือยัง
“เริ่มอยู่ตัวครับ แต่ก็มีสเต็ปต่อไปที่เราจะต้องไปเดิน อย่างการวิ่งเข้าหาสปอนเซอร์ สเต็ปการพัฒนารายการ การที่เราจะเพิ่มยอดวิวมากขึ้น สเต็ปแรกสุดเราใช้เวลา 3 เดือนได้ครับเพื่อจะทำให้มันนิ่ง เป็นรายการที่แพตเทิร์นดูแล้วโอเค สเต็ปต่อไปก็มา ผมว่ามันไม่มีวันจบสิ้น เราก็ต้องเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆอยู่ดี”
พอทำเบื้องหลังจะเฟดตัวเองจากงานเบื้องหน้าหรือเปล่า
“เฟดไหมคงไม่ 100% แต่เบื้องหน้าอาจจะน้อยลงเพื่อมาโฟกัสกับเบื้องหลัง แต่ยังไงก็ยังอยากเล่นละครอยู่ครับ”
หลุยส์ทำงานเยอะมาก บาลานซ์กับชีวิตส่วนตัวอย่างไร
“ไม่บาลานซ์ครับ พูดได้เต็มปาก (หัวเราะ) ช่วงปีใหม่ผมก็มีโอกาสได้ไปต่างประเทศมา 3 อาทิตย์ช่วงนั้นคือพักผ่อนเต็มที่ ได้เที่ยวแต่ก็มีทำงานไปด้วย ผมว่าเราแบ่งเวลาได้อย่างชัดเจน วันหนึ่งผมตื่นมาช่วง 6 โมงเช้า จะไปชงกาแฟแล้วก็นั่งทำงานเลย ผมมองว่าเวลานั้นเป็นช่วงที่สมาธิทุกอย่างกำลังดี โฟกัสได้อย่างเต็มที่ ผมจะทำช่วงเช้าประมาณ 2-3 ชั่วโมง พอเลยเวลาไปผมก็จะเปลี่ยนงานไปทำงานอย่างอื่น แล้วก็จะกลับมาดูอีกทีช่วงเวลาก่อนนอนถ้ามีงานเร่งด่วน ส่วนช่วงระหว่างวันก็จะมีน้องๆในทีมดูแลเราก็จะแค่คุยโต้ตอบ ฟีดแบ็กกัน”
ในหนึ่งปีวางแผนพักผ่อนเที่ยวยังไงบ้าง
“ไม่ได้มองว่าปีหนึ่งเราจะมีกี่ทริปถ้าด้วยความจำเป็นต้องไป ก็คือไป ก็เพิ่งคุยกับคุณแม่ไว้เมื่อ 2 ปีก่อนว่าปีนี้สิ้นปีจะต้องกลับไปบ้านที่ฝรั่งเศสนะ ก็ถือว่าเป็นทริปไฟต์บังคับ ที่เราจะต้องเคลียร์ตัวเองประมาณ 2 สัปดาห์เพื่อจะได้ไปทริปนี้ ส่วนการท่องเที่ยวผมไม่ได้วางแพลนว่าปีหนึ่งจะต้องกี่ทริปเลย แต่ถ้าเรามีเวลามันก็อาจจะงอกขึ้นมาเรื่อยๆ”
...
เที่ยวสลับกับแชป-วรากร เพื่อนซี้เหมือนกันนะ
“ก่อนหน้านี้แชปไปสวีตอยู่ที่ตุรกี ”
เราก็สวีตกับแฟนอยู่ในสตูแทน
“จริงๆแชปก็มาช่วยนะครับ เกือบทุกขั้นตอนเลย ความจริงเขาก็มาแทบทุกวันที่เราออกกองครับ เว้นช่วงที่เขาอยู่ตุรกี ซึ่งเราก็ไม่อยากไปรบกวน แล้วการทำงานกับแชปดีครับ เรารู้ว่าจุดแข็งของเขาคืออะไร เหมือนกับที่เขาก็รู้ของผมเราก็สลับกันทำ อย่างตอนเขาไปตุรกี ผมก็โทร.คุยกับเขาวันละ 3 รอบนะ ไม่ได้ขาด มีการสื่อสารกันตลอดเวลา”

อัปเดตความรักบ้างกับจอย แฟนคนนี้หลุยส์เจอกันได้อย่างไร
“ความจริงเรื่องยาว คือเป็นเพื่อนของเพื่อนครับ ประมาณปี 2566 ก็คือเพิ่งเริ่มทำความรู้จักกันครับ จริงๆเขาอายุมากกว่าผม 3 ปี เป็นรุ่นพี่ ”
น่าจะเป็นคนโฟกัสบ้างานเหมือนกัน
“ใช่ครับ เป็นคนโฟกัสงานเหมือนกัน เขาก็ทำงานเยอะมาก แล้วเหมือนเรามีเป้าหมายเดียวกัน เราตั้งเป้าแล้วอยากไปให้ถึงเป้าหมายด้วยกัน สิ่งที่เขาถนัดก็จะต่างกับตัวผม เขาจะถนัดในด้านพีอาร์ หรืองานเขียน เขาเขียนสคริปต์ได้ ซึ่งตัวผมไม่ได้ถนัดมาก เราก็ลองทำดูว่าเป็นอย่างไร”
...
ทำงานด้วยกันตีกันบ้างไหม
“ไม่ตีนะครับ ก็แปลกใจเหมือนกัน เพราะก่อนทำงานด้วยกันเราก็คุยกัน คือมีคนบอกกับเราว่าอย่าทำงานด้วยกันไม่งั้นจะตีกันแน่ๆ ซึ่งเราก็มาคิดกันว่า จะตีกันจริงๆไหมถ้าทำด้วยกัน ข้อดีข้อเสียจะเป็นอย่างไร มันจะคุ้มไหม ถ้ามาทำงานด้วยกัน วันนั้นเราก็เลยคุยกันชัดเจนเลยว่า เธอถนัดอันนี้ เธอดูแลด้านนี้เลยเราจะไม่ก้าวก่ายแยกกันให้ชัดเจน แต่สามารถขอความคิดเห็นได้ แต่สุดท้ายคนที่จะไฟนอลตัดสินใจจะต้องเป็นคนที่ถนัดในด้านนั้นไป”
เป็นคนใจเย็นขนาดไหน
“ใจเย็นมากครับ ตัวผมก็เป็นคนใจเย็นนะ แต่ถ้าเรื่องงานก็อาจจะไม่ได้ใจเย็นมาก จริงๆในเรื่องการทำงานกับเขา ก็เป็นหลักการเดียวกับแชป และเพื่อนคนอื่นเลย ที่ทำงานด้วยกัน คือแฟร์ๆ คือขอแค่ไม่ทิ้งงาน เรารู้ว่าตัวเราไม่ทิ้งงานอยู่แล้ว ถ้าเขาไม่ทิ้งเหมือนกัน ทุกอย่างก็คือจบ อาจจะนอนดึก เหนื่อยหน่อยครับ”.
เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่