ขอมุ่งมั่นทำในสิ่งที่รักบนเส้นทางดนตรี บี้-ธรรศภาคย์ ชี หรือ “BIEXU” (บี้ชี) จุดไฟตัวเองอีกครั้งคัมแบ็กมาทำเพลงในไทยในรอบ 5 ปี รันวงการ T-POP พร้อมความฮอตในจังหวะเดียวกันกับการขึ้นแท่นหนุ่มในฝันของสาวๆทั่วบ้านทั่วเมือง จากบทบาท “เลียม” ในซีรีส์ Netflix “สงคราม ส่งด่วน” หนุ่มหล่อแสนดีและมีรักเดียว ไม่ต่างจากชีวิตจริงของ “บี้” ที่มีรักมั่นคงกับสาว กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ และเป็นคุณพ่อลูกสองที่น่ารักของน้อง “เป่าเปา” และ “เป่าเป้ย์” เลยชวน บี้ มานั่งคุย ถึงความตั้งใจลุยงานเพลง เริ่มจาก
จังหวะความฮอตพร้อมกันทั้งซีรีส์และการกลับมาทำเพลง?
“จริงครับ ตอนแรกจะปล่อยเพลงตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว ใจเรารู้สึกว่าเรื่องนี้อาจจะดี เราเลยรอให้เรื่องนี้ออกมา อย่างน้อยมันก็มีผลงานแล้วก็บวกกับเพลงไปด้วยก็คงเป็นอะไรที่หนุนกันได้ แต่ไม่คิดว่ามันจะเปรี้ยงขนาดนี้ แล้วก็ทําให้แฟนๆที่ดูจาก “เลียม” ก็มาติดตามผลงานเพลงของผม ซึ่งผมรักในการทําเพลงอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ผมถ่ายละคร ซีรีส์ ไม่มีเวลาไม่ได้ทําจริงจังแต่ปีนี้ด้วยความที่ผมจะทําโรงเรียนสอนเต้น ร้องเพลง แอ็กติ้ง ชื่อ Next Idol Academy ด้วยเลยอยากจะทำเพลง เป่าเปาก็เคยบอกว่าป๊าเต้นเยอะขนาดนี้ทําไมป๊าไม่ทําเพลงเต้นไปเลยและเราคิดว่าเราก็ทำได้ เลยตัดสินใจทําอัลบั้มนี้ขึ้นมาในปีนี้ ที่ผ่านมาผมไม่เคยลงมือทําเองหมด ก่อนหน้านี้เรามีค่ายแต่รอบนี้ทำเองทุกขั้นตอน ทุกอย่าง เนื้อร้องเมโลดี้ พาร์ตดนตรี ผมจะดูว่าให้เพื่อนคนไหนหรือใครมาเล่นเครื่องดนตรีไหน เราเป็นคนดีไซน์ ต้องขอบคุณทีมและเพื่อนๆที่เข้ามาช่วย ก็เปิดบริษัท BIEXU ENTERTAINMENT รองรับการทำเพลงของเรา อนาคตอาจจะทำเพลงให้เด็กๆด้วย ประเดิมเพลงแรก “Del (ลบ)” เพลงนี้ผมแต่งกับเพื่อน เล่าการจากลา สำหรับผมเพลงเร็วทํายาก ผมถนัดแต่งเพลงช้ามากกว่าเลยเลือกเปิดตัวด้วยเพลงช้าก่อน เดี๋ยวมีออกมาเรื่อยๆ ในเนื้อเพลงมีทั้งภาษาไทย อังกฤษ และจีน วางไว้ว่าเพลงที่ 3 จะเป็นเพลงแดนซ์ เรียงไว้แล้ว ตั้งใจปล่อยเพลงทุกเดือน ก็ไม่ง่ายนะด้วยทีมเราไม่ได้ใหญ่ มาทำเองหมด ความยากคือเราไม่รู้เลยอะไรที่มันเกี่ยวกับการทําเพลง เรื่องลิขสิทธิ์ มีทำแล้วต้องเอาใหม่ก็มี เชื่อว่าตัวเองกับทีมจะทําได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เหมือนนับหนึ่งใหม่กับค่ายของตัวเอง”
...

คอนเซปต์ อีพีอัลบั้ม ใช้ชื่อว่า ‘After the Rain’ ถ่ายทอดความเป็นบี้ ณ วันนี้?
“After The Rain ก็คือฟ้าหลังฝน จินตนาการเหมือนเราอยู่บนเขา ระหว่างทางที่เจอฝนอาจทำให้ชนหินบ้าง มีแผลถลอกบ้าง แต่สุดท้ายเดี๋ยวฝนหยุดแล้วทุกอย่างมันจะดี ก็มานั่งทําแผลมาเยียวยาตัวเองแล้วเริ่มใหม่ เป็นการปลุกใจนิดนึง อย่างเพลงเร็ว มันก็มีความแบบ I’m still working on my way อยากทําให้เด็กๆได้ร้องเพลงของบี้ ก็คือฉันอยากทําตามความฝัน อยากเป็นไอดอล”
After The Rain เหมือนเส้นทางของตัวบี้เองในวงการ?
“จริงๆผมอินมากเลย ผมก็ผ่านอะไรมาเยอะ ตั้งแต่จบประกวด KPN ก็มีเรื่องราวต่างๆนานา เฟลบ้าง กลับมาได้บ้าง ชีวิตเราก็เป็นแบบนี้ เพลงที่เขียนขึ้นมามันก็เป็นเรื่องราวที่เล่าถึงเรื่องราวประมาณนี้ อุปสรรคที่เราต้องเจอ”
แม้จะเจออุปสรรค อะไรทำให้บี้เดินต่อถึงวันนี้?
“สําหรับผมคงเป็นความมุ่งมั่น คือเรายืนยันว่าจะทําตราบใดที่เรามีขามีแขนที่เราทําได้ เรายังไม่ตาย เราก็ทําไป เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เราอยากทํา เรื่องทำเพลง มันเริ่มเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว มันก็มีโมเมนต์คุยกับกุ๊บกิ๊บว่า อยากทำเพลง เค้าบอกว่าทำไมไม่ทํา ทำสิ เค้าก็ซัพพอร์ตเราอีกแล้ว เราก็บ้ายอ (ยิ้ม) เออน่าลุย ทําซะหน่อย ทุกวันนี้ดีใจที่สุดคือตื่นเช้าขึ้นมา มันมีอะไรทําอยู่ตลอด จากที่เคยมีช่วงที่ตื่นมาไม่รู้ว่าวันนี้จะทำอะไร แต่ตอนนี้หัวมันแล่นอยู่ตลอด ทําให้ผมใส่ใจทุกคําพูดของลูก ของคนที่บ้าน เก็บเรื่องราวความคิดต่างๆอยากเอามาทำเพลง การสังเกตคนรอบข้างของผมมันละเอียดขึ้น จากที่เคยโฟกัสตัวเองมากกว่า ด้วยความที่ลูกก็อยากเป็นศิลปินด้วย ผมอยากให้ตัวเองมีผลงานดีๆ เป็นตัวอย่างที่ดีให้เค้าเห็น เราบอกเค้าไงว่า เป่าเปา เป่าเป้ย์ ถ้าชอบอะไรเราต้องทําให้สุด เค้าก็ไม่รู้หรอกว่าทำให้สุดมันคือทำยังไง อยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับลูก ทำให้เราเห็นว่าถ้าชอบอะไรสักอย่างมันต้องขนาดนี้เลยเหรอ”

บทบาทล่าสุด “เลียม” ในซีรีส์ “สงครามส่งด่วน” ทำให้กลายเป็นชายในฝัน?
“ถ้าเรื่องความหล่อเค้าถ่ายมุมหล่อพอดี (ยิ้ม) จริงๆผมรู้สึกดีใจแล้วก็ตื้นตันมาก สำหรับผมตั้งแต่ซีรีส์คลับฟรายเดย์เรื่องที่เล่นกับพิช ออกัส ก็ไม่เคยมีซีรีส์ในไทยที่ทําให้คนรู้ว่า บี้เล่นละครได้ แสดงได้ ปกติงานแสดงจะอยู่ที่จีน คนไทยก็จะได้เห็นน้อย แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ทําให้เราได้โชว์ศักยภาพ การที่คนชื่นชอบเลียม มันแปลว่าผมดีไซน์บทกับพี่ไก่-ณฐพล บุญประกอบ ออกมาได้ดี ซึ่งผมก็ตั้งใจมากๆกับทุกจุด ทุกการเดิน ทุกการมอง เสี่ยวหรือลมหายใจมันก็เป็นเลียมหมด ผมดีใจมากๆก็หวังว่าในอนาคตในไทยจะมีโอกาสได้ทําอะไรที่ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยทํา”
สามีฮอตขนาดนี้ กุ๊บกิ๊บ ภรรยาว่าไง?
“ภรรยาก็บอกว่าดีใจด้วย ภูมิใจในตัวเรา บอกทุกวันเลย เราก็เหมือนเด็กเนอะ ก็จะถามเค้าตลอดว่าป๊าทำดีมั้ย ป๊าทำได้โอเคมั้ย แค่กำลังใจของเค้านี่คือโอเคเราทำดีแล้ว พอ เค้าเหมือนเป็นคนปรูฟผมอีกที เวลาที่ต้องการกำลังใจพอเค้าเชื่อใจคือทำให้เรามีแรงเลย เค้าคือที่สุดแล้ว”
...
อะไรที่ทำให้รักของเรากับ “กุ๊บกิ๊บ” ไม่เก่าเลย?
“คู่ผมมันเหมือนเพื่อนมากกว่า เดี๋ยวอ้อนบ้าง ทุกวันนี้ที่ทะเลาะกันทะเลาะเรื่องลูก เถียงกันเรื่องลูก เวลาไปทำงานคู่กันก็ไม่เคยต้องมานั่งเถียงกัน สวีตตลอด แต่บางทีการสอนลูกมันมองต่างกันก็มีเถียงกันบ้าง”
เปรียบกุ๊บกิ๊บเป็นเหมือนอะไรในชีวิต?
“เปรียบเหมือนเป็นวิตามินที่คอยเติมพลังให้กันตลอด เป็นเหมือนคู่หู ถ้าวันไหนที่ไม่ได้กัดกันนี่คือเหมือนของขาด หมายถึงต้องได้แหย่กัน ต้องกวนกันก็สนุกดี ถ้าเงียบๆนี่คือมีปัญหาแล้วเพื่อนๆจะรู้เลย”
กุ๊บกิ๊บเองก็สวยแซ่บขึ้นทุกวัน ฮอตไม่แพ้กัน?
“เค้าไม่ใช่แค่สวย เค้าเป็นคน Positive คือการกระทำของเค้าทุกอย่างมันเป็นเชิงบวกหมด เค้าไม่มีด้านลบอยู่แล้ว เป็นคนใจดีมาก เป็นคนที่เราต้องคุยด้วยก่อนนอนตลอด อะไรทั้งวันที่เราเจอมาเราต้องแชร์กับเค้าตลอด มันทำเป็นประจำไปแล้ว และผมเป็นคนที่ชอบกินข้าวบ้าน จะออกไปสังสรรค์น้อยมากถ้าไม่ได้สนิทจริงๆ ด้วยความที่ลูกไปโรงเรียนแล้วเวลาที่เราจะเจอเค้าได้คือ 4 โมงถึง 2 ทุ่มมันมีเวลาแค่ 4 ชั่วโมงเพราะฉะนั้นช่วง 4 ชั่วโมงนี้ถ้าผมอยู่บ้านได้ผมจะอยู่”
ฮอตทั้งคู่แบบนี้ มีหึงหวงกันมั้ย?
“ไม่มีเลย มัน 10 ปีแล้ว มันไม่ได้เป็นจุดที่จะไปคุยกับใคร หรือคอยเช็กคอยถามว่าคนนี้คนนั้นคือใคร แต่ผมชอบนะผมว่าเราต่างคนต่างชอบที่มีสเปซซึ่งกันและกัน สำหรับเรามันคือความผูกพัน มันเป็นครอบครัวมาก เค้ารักพ่อแม่ผม ผมรักครอบครัวเค้า”

...
“บี้” ฝันอยากให้เพลงของเราเดินทางไปถึงไหน?
“ก็อยากให้คนไทยฟังเยอะๆ คนจีนฟังเยอะๆ แฟนๆ AEC อนาคตสัก 2 ปีถ้าเป็นไปได้ก็อยากมีคอนเสิร์ตของตัวเอง ได้กลับไปที่ตัวเองเกิดไต้หวัน อีกอย่างหนึ่งก็คือโรงเรียนที่ผมมองไว้ไกลจะขยายจะทำเรื่อยๆ อยากจะทำให้มันเป็นอาณาจักร”
การที่เราเป็นผู้มีประสบการณ์ในวงการมาแล้วกลับมาเริ่มในวงการเพลงมันกดดันมั้ย?
“ก็อยากทำให้รุ่นน้องเห็นเหมือนกันว่าเออพี่บี้กลับมาทำเพลงนะ รู้สึกว่าบี้ก็ยังใหม่อยู่ เพราะที่ผ่านมามันไม่ได้เป็นตัวเองขนาดนั้น แต่ ณ วันนี้ก็เป็นบี้จริงๆ ปีนี้ผมวางแพลน ลุยเพลง ธุรกิจโรงเรียน”
ผลงานที่จีนล่ะ?
“ยังมีซีรีส์ที่กำลังจะออนแอร์อยู่ ทุกวันนี้ก็มีบางเรื่องก็ยังดังอยู่ มีแฟนๆก็ยังเอามาตัดเป็นเพลงอินเดียก็มี ส่วนงานที่จีนก็อาจจะไปเป็นงานๆแบบไปไม่นาน ตอนนี้เป่าเปาก็ 9 ขวบ อีกนิดนึง 12-13 ปี ก็เป็นสาวแล้ว ผมไม่ค่อยอยากให้ผ่านตรงนั้นไป อยากอยู่กับเค้า ยังไม่มีอะไรที่จะแลกตรงนั้นกับผมได้ ลุยธุรกิจที่ไทยก็ได้ มีหลายอย่างที่ยังทำได้และทำอะไรที่เกี่ยวกับการพัฒนาเด็ก แล้วก็ลุย T-POP ครับ”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่