ขณะที่ความรักกับพระเอกนักร้อง โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ราบรื่น แต่เรื่องงานนางเอกสาว ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชีวิต โดยสาว ณิชา มาเปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW แบบหมดเปลือก ถึงสาเหตุที่ไม่ต่อสัญญาช่อง 3 อีกทั้งยังเล่าเหตุการณ์สุดช็อกที่จำฝังใจกับการถูกพูดหยามต่อหน้าว่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นนางเอก

ช่วงที่มีกระแสเกี่ยวกับการไม่ต่อสัญญาช่อง ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น?

“เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มากๆในชีวิตเหมือนกันค่ะ ที่ตัดสินใจไม่ได้ต่อสัญญากับช่อง แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลยนะคะ แค่เราอยากจะลองขยับออกมา แล้วดูงานอะไรที่มันกว้างขึ้น ที่เป็นอิสระมากขึ้น แต่ว่ากับช่องเราก็ยังโอเค ยังมีความสุขดีอยู่มากๆ”

จุดเปลี่ยนในตอนนั้นความรู้สึกเป็นยังไง?

“จริงๆไม่เคยเล่าให้ใครฟังว่าเป็นช่วงที่เครียดมากๆ ด้วยความที่เราอาจจะไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงที่ต้องตัดสินใจกับชีวิตที่รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเราอยู่ช่องมานาน 10 ปี ถ้าไปตรงโน้นจะเป็นยังไง จะเกิดอะไรขึ้น เหมือนกังวลอนาคตเหลือเกิน เป็นความเครียดที่ไม่เคยเจอมาก่อน แต่พอผ่านมาได้ก็รู้สึกว่าเป็นความเครียดที่ดีจังเลย แปลกมากค่ะ คือรู้สึกว่าดีแล้วที่เครียด หมายถึงว่าเพราะมันคือการตัดสินใจ เราเป็นมนุษย์คงไม่แปลกหรอกที่เราจะเครียดกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เราไม่ได้สตรองจนไม่มีความ รู้สึกอะไรเลย เหมือนประสบการณ์ใหม่ๆที่ทำให้รู้ว่าความเครียดไม่ได้เลวร้ายเสมอไป การที่เราใช้เวลากับ
การคิดทบทวนไปมา ตอนนั้นเราอาจจะเครียด แต่พอผ่านมาได้รู้สึกว่าเราจะไม่เสียใจทีหลังแล้ว เพราะเราทบทวนมันมามากที่สุดแล้ว คือมันเป็นวัฏจักรหนึ่ง ความไม่แน่นอนคือเรื่องปกติ”

...

มีคอมเมนต์ไหนที่เราจำขึ้นใจเลย?

“ช่วงแรกที่เข้ามาวงการก็มีหลายกระแสมากเลย แต่ว่าอันที่จำขึ้นใจจริงๆเป็นคอมเมนต์จากการพูดของคนมากกว่าไม่ใช่คอมเมนต์ในโซเชียล เป็นการพูดที่เขาเดินมาพูดต่อหน้าเราประมาณว่า ถ้าเป็นอย่างนี้เป็นนางเอกไม่ได้หรอก แล้วหนูช็อกมันคืออะไร ตอนนั้นเราเพิ่งเข้ามาน่าจะอยู่ประมาณ ม.5-ม.6 พอเจอสิ่งนี้เลยงงนิดหนึ่งว่ามันคืออะไร อันนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่จำขึ้นใจที่สุดเลย”

หลังจากวันนั้นเราไปต่อยังไงกับคำพูดที่มันทำให้เราเจ็บ?

“ก็นอยด์ไปประมาณหนึ่ง ด้วยความที่เราอาจจะไม่เคยเจออะไรแบบนี้ด้วย ก่อนหน้านั้นเราก็แค่เป็นนักเรียน แต่พอเราเข้ามาทำงานกลายเป็นว่าเราเจอสิ่งนี้ แต่สุดท้ายแล้วก็รู้สึกว่าไม่เป็นไร ถ้าวันนี้ยังเป็นไม่ได้แต่ว่าเดี๋ยวจะลองทำดู มันก็เหมือนเทิร์นไปอีกแบบหนึ่ง เพราะก็ไม่รู้ว่าจะนอยด์ไปเพื่ออะไร ก็เปลี่ยนมันมาเป็นแรงผลักดันเราแล้วกัน”

เรื่องที่ได้บทเรียนมากที่สุดในชีวิตคืออะไร?

“จริงๆเยอะค่ะ เรื่องคอมเมนต์เรื่องคำพูดคนก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ณิชาว่าคนที่เข้ามาในวงการต้องรับมือ เพราะว่ามันมาจากหลายทางมากๆเลยค่ะ เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวและเข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้น เคยอยู่ในมุมที่ไม่เข้าใจทำงานไม่ได้เลย เราแคร์แต่คำพูดของคนอื่น แล้วก็เอามาตัดสินตัวเอง ตอนนั้นสภาพจิตใจแย่มาก ความมั่นใจหายไปหมดเลย กลัวไม่ถูกใจคนนั้นคนนี้ จนมาวันหนึ่งช่วงนั้นเล่นละครเรื่องสามใบไม่เถาโดนคอมเมนต์เยอะมาก แต่ว่าต้องขอบคุณกองถ่ายนั้นเลยที่พี่ๆทุกคนสนับสนุนเราเต็มที่ จำได้ว่ามีคำพูดหนึ่งที่เปลี่ยนทำให้เป็นเราอย่างทุกวันนี้เลย ก็คือมีพี่ผู้ช่วยผู้กำกับชื่อพี่กอล์ฟค่ะ เค้าเห็นสภาพหนูคงแย่มาก เขาก็เลยบอกว่าณิชามานั่งคุยกันหน่อยมั้ย เป็นอะไรเกิดอะไรขึ้น เราก็เล่าให้ฟัง เขาก็พูดว่าให้ลองตั้งสติ ลองมองภาพให้กว้างขึ้นนะ แล้วก็แทนตัวเองเหมือนเป็นที่กรองน้ำทุกคอมเมนต์ที่เค้าโยนลงมา ต้องกรองให้ได้ว่าสิ่งนี้มีประโยชน์กับเราหรือเปล่า สิ่งนี้ปรับปรุงได้มั้ย หรือสิ่งที่เขามาว่าเราไม่สวยแต่เราพอใจหรือยังกับสิ่งที่เป็น ต้องแยกให้ดีว่าอันไหนเอามาติเพื่อก่อ หรือว่าอันไหนที่มันไม่มีประโยชน์เลยจริงๆ เขาก็สอนให้หนูแยกระบบความคิดได้ โอเคพอเจอมันก็นอยด์อยู่แล้ว แต่ว่าสุดท้ายมันต้องมาตั้งสติให้ได้ ว่าเค้าคอมเมนต์อย่างนี้มาเรายังแสดงไม่ดีต้องปรับตรงนี้ อันนี้มีประโยชน์งั้นไม่ต้องนอยด์ พัฒนาตัวเอง แต่ว่าอันนี้ที่บอกว่าเราไม่สวยเราทำอะไรไม่ได้ ก็คงไม่อยากไปทำศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าเพื่อให้ทุกคนชอบ งั้นก็ช่างมัน เหมือนฝึกระบบความคิดนี้มาเรื่อยๆ เลยเปลี่ยนมาเป็นเราทุกวันนี้ซึ่งก็ไม่ได้ง่ายค่ะ แต่พอทำได้แล้วเราเบาขึ้นเยอะ”.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่