เชียงราย พบกระสุนตกใส่หลังคาชาวบ้านเวียงแก่นอีกหลัง นายอำเภอเวียงแก่นรุดตรวจสอบ พร้อมออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-ลาว ขณะที่แหล่งข่าวเผย ทหารลาวเร่งหาทางนำเด็กและคนเจ็บออกจากพื้นที่ปะทะเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 นายสุพจน์ ลังกาวีระนันท์ นายอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า เมื่อวาน (4 พ.ค.) เวลา 18.30 น. ผู้ใหญ่บ้านบ้านร่มฟ้าผาหม่นและผาตั้งรายงานว่าได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนขึ้นเป็นระยะ ๆ จากฝั่ง สปป.ลาว และยังดังเป็นห้วง ๆ และได้รับรายงานว่ามีกระสุนตกใส่หลังคาบ้านชาวบ้านบ้านร่มฟ้าผาหม่นอีก 1 หลัง ห่างจากหลังแรกไปพอสมควร เป็นบ้านของ น.ส.มรกต แซ่โซ้ง 51 หมู่ 15 ต.ปอ หัวกระสุนตกใส่ 2 ลูก ลงภายในบ้าน 1 ลูก และนอกบ้านอีก 1 ลูก เช้าวันนี้ได้ออกตรวจพื้นที่ผาตั้ง และจะเข้าตรวจสอบพื้นที่ร่มฟ้าผาหม่นที่เป็นจุดเสี่ยง โดยทางอำเภอเวียงแก่นได้ออกหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้นำชุมชนพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-ลาว ติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนของเจ้าหน้าที่ หากไม่มีความจำเป็นให้งดการทำกิจกรรมในพื้นที่บริเวณตามแนวชายแดนเพื่อความปลอดภัย และขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ หากผู้ใดพบเบาะแสหรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งฝ่ายความมั่นคงอำเภอเวียงแก่น โทร. 063-9041427 และหน่วยทหารในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชม. โดยให้ติดตามสถานการณ์จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติแหล่งข่าวกล่าวว่า ในฝั่งลาวขณะนี้ทหารลาวพยายามเข้าไปในพื้นที่เพื่อนำคนบาดเจ็บ และเด็กหญิงอายุ 7 ขวบ เนื่องจากแม่ทำงาน ไม่มีคนดูแลที่ติดตามพ่อที่เป็นทหารไปที่ฐาน เนื่องจากไม่สามารถนำเสบียงขึ้นไปส่งได้ เกรงว่าจะขาดน้ำขาดอาหาร ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ลาวได้จับกุมสมาชิกกลุ่มติดอาวุธได้ 2 คน เป็นคนม้ง พร้อมของกลางกระสุนปืนลูกซอง วิทยุติดตามตัว ข้าวต้มมัด แซนวิช โดยการสอบข้อมูลเบื้องต้นทราบว่ากลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่ายมีประมาณ 30 คน และมีการขุดอุโมงค์อยู่ในเส้นทางที่ขึ้นไปยังฐานทหารลาว ขณะนี้ทางการลาวได้ระดมกำลังพลเสริมจากพื้นที่ใกล้เคียงมาสนับสนุน แต่การดำเนินการเป็นไปอย่างยากลำบากในการเข้าไปในพื้นที่ฐานที่ถูกปิดล้อม โดยการจะนำเฮลิคอปเตอร์ลงที่ฐานยังมีความเสี่ยง เพราะระยะห่างจากกลุ่มกองกำลังที่ล้อมอยู่ในระยะประมาณ 300-400 เมตร อย่างไรก็ตามตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ (5 พ.ค.) ยังไม่มีการปะทะกันของกองกำลังติดอาวุธและทหารลาวขณะที่เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย โพสต์ข้อความระบุว่า เชียงราย ฐานทหารลาวติดชายแดนไทยถูกโจมตีหลายจุด มีกระสุนตกทะลุหลังคาบ้านฝั่งไทยวันที่ 4 พ.ค. 68 พลตรีกิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง มอบหมายให้ พันเอกไพรัช ศรีไชยวาล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 กองกำลังผาเมือง ติดตามสถานการณ์ชายแดน ไทย - ลาว ด้านตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย หลังจากได้มีเสียงปืนดังหลายครั้งเป็นระยะ ๆ ในเขต สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย โดยเสียงปืนยังดังในหลายจุดและคาดการณ์ว่าดังมาจากพื้นที่บ้านพูผามน เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำโขงที่ไหลไปจากชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เวียงแก่น และเสียงปืนยังดังบริเวณตรงกันข้าม ต.ปอ อ.เวียงแก่น อีกหลายจุดติดต่อกันหลายครั้งซึ่งเสียงปืนดังกล่าวเกิดจากกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายบุกเข้าโจมตีฐานทหารของ สปป.ลาว ขณะเดียวกันพบว่าผลจากการยิงปะทะกันดังกล่าวได้ทำให้มีหัวกระสุนปืนขนาด 7.62 มม. ตกลงมาในฝั่งไทยด้วยจำนวน 1 นัด โดยตกทะลุหลังคาบ้านของชาวบ้านในหมู่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายซึ่งคาดว่าหัวกระสุนดังกล่าวเกิดจากการยิงปะทะกันทั้งนี้การปะทะยังได้ยินเสียงในฝั่งตรงกันข้าม ต.ปอ อ.เวียงแก่น หลายจุดตั้งแต่ผาตั้งไปจนถึงภูชี้ฟ้า คาดว่าเสียงมาจากจุดที่ห่างจากชายแดนไทยเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตรขึ้นไป ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมืองของไทยได้วางกำลังเฝ้าระวังไปตลอดแนว โดย พล.ต.กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองได้มีหนังสือถึงหัวหน้าชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนลาว-ไทย แขวงบ่อแก้ว ว่ากรณีมีลูกกระสุนปืนตกลงมาใส่หลังคาบ้านเรือนประชาชนไทยดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลต่อประชาชนและอาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือไปยังหัวหน้าชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนลาว-ไทย แขวงบ่อแก้ว ช่วยตรวจสอบเหตุการณ์และหากมีเหตุการณ์สำคัญขอให้แจ้งทางฝ่ายไทยได้รับทราบ รวมทั้งขอให้ระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนด้วย ทั้งนี้ประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความสัมพันธ์อันดีและความร่วมมืออันแน่นแฟ้นกับ สปป.ลาว ตลอดจนเคารพในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของทั้ง 2 ประเทศ และหวังเป็นอย่างยิ่งความร่วมมืออันดีจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นหลังเกิดเหตุดังกล่าวทางเจ้าเมืองต่าง ๆ ใน สปป.ลาว ได้มีหนังสือแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้า ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้านต่าง ๆ ให้เฝ้าระวังกลุ่มคนที่ไม่ประสงค์ดีและกองกำลังติดอาวุธที่อาจจะสร้างความไม่สงบเพิ่มเติม โดยเฉพาะตามตะเข็บชายแดนที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีป้อม โดยให้ระมัดระวังเตรียมพร้อมทั้งกำลังพลและอาวุธและสืบหาข่าวตลอด 24 ชั่วโมง
