เสียงระฆังเวทีการเมืองเริ่มขึ้น หลังจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดให้ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ขึ้นสังเวียนลงสมัครชิงชัย นับแต่วันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมากลายเป็นสัญญาณให้ผู้สมัครแบบแบ่งเขต 11,128 คน จาก 80 พรรค ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ 2,718 ราย จาก 72 พรรค งัดกลยุทธ์ นโยบาย เรียกคะแนนเสียงความนิยมจากประชาชน เข้าคูหาในวันที่ 24 มี.ค.นี้แต่ทว่า...การหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง 2562 ไม่ใช่เรื่องหมูเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา กกต.กำหนดกรอบการหาเสียง ใช้อำนาจ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 คือ 1.ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง กำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายของผู้สมัครแบบแบ่งเขตคนละไม่เกิน 2 ล้านบาท และกำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายของพรรคการเมืองตามสัดส่วนการส่งผู้สมัคร ตั้งแต่ 10-70 ล้านบาทส่วนเรื่องที่ 2 ป้ายหาเสียง ต้องมีขนาดกว้างไม่เกิน 130 ซม. สูงไม่เกิน 245 ซม. จัดทำไม่เกิน 2 เท่าของหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง หรือ 540 แผ่นต่อเขตเลือกตั้ง ส่วนพรรคการเมืองจัดทำป้ายขนาดเอ 3 ไม่เกิน 10 เท่าของหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง เท่ากับพรรคหนึ่งจะมีป้ายหาเสียงไม่เกิน 2,700 แผ่นต่อเขตเลือกตั้งเนื้อหาในป้ายหาเสียง ระบุชื่อ ภาพถ่ายผู้สมัคร ภาพถ่ายผู้สมัครคู่กับหัวหน้าพรรค หรือบุคคลพรรคการเมือง มีมติเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี ชื่อพรรค และโลโก้พรรค หมายเลขผู้สมัคร ข้อความอื่นได้เท่าที่จำเป็น สถานที่ติดป้ายหา ผอ.สำนักงาน กกต.แต่ละจังหวัด หัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เป็นผู้กำหนดสถานที่ติดแผ่นป้ายหาเสียง การติดป้ายหาเสียงในที่สาธารณะ ต้องยึดให้มั่นคงแข็งแรง ห้ามยึดกับพื้นที่สาธารณะ ไม่บดบังสายตาผู้ใช้รถใช้ถนน และคำนึงถึงความสะอาดเรื่องที่ 3 การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองแจ้งวิธีการ รายละเอียด ช่องทาง ระยะเวลาการหาเสียงให้ กกต.ทราบ ส่วนบุคคลที่ไม่ใช่ผู้สมัครและพรรคการเมือง สามารถช่วยหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยระบุข้อมูลผู้ดำเนินการที่เจาะจงตัวตนได้แม้ กกต.มีเงื่อนไขมากมาย แต่บรรยากาศก็คึกคักเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง ป้ายหาเสียง ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ตามถนนสายหลัก สายรอง ทุกพื้นที่ของภูมิภาค หากกวาดสายตาตามริมถนน พบป้ายหาเสียงพรรคการเมือง ทั้งพรรคเก่าแก่ พรรคใหม่ ตั้งเรียงรายกันมากมาย แต่ละป้ายมีข้อความชูนโยบายที่ถือว่าเป็นจุดขายมาประชันแข่งขันกันอย่าง “ดุเดือด” เน้นสีความเป็นตัวตนของพรรค ง่ายต่อการจดจำยกตัวอย่าง พรรคชาติพัฒนา ออกแบบป้ายมาในโทนสีส้ม น้ำเงิน โดดเด่น ชูรูปถ่าย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค คู่กับผู้สมัคร พร้อมข้อความ “ชาติพัฒนา ไม่มีปัญหา #NO PROBLEM” ถัดมา...พรรคภูมิใจไทย นำนโยบาย ลดอำนาจรัฐ ชูเรื่องกัญชาไทย ปลูกได้เสรี แก้ พ.ร.บ.ยาเสพติด กัญชา เพื่อการแพทย์ พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างความร่ำรวยให้คนไทย #ทลายทุกข้อจำกัด เพื่อปากท้องประชาชน ส่วนป้ายของ...พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่น้อยหน้าไปกว่าพรรคอื่น มาด้วยโทนสีชมพู มีภาพ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หน.พรรค และ ดร.ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ คู่ผู้สมัคร นำเสนอ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ร่วมปฏิรูปประเทศไทย”พรรคประชาธิปัตย์ ออกแบบป้ายหาเสียงโทนสีฟ้า เป็นเอกลักษณ์ของพรรคดั้งเดิม จุดเด่นของตัวผู้สมัครแต่ละเขต ซึ่ง ธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อธิบายถึงการออกแบบป้ายโฆษณาหาเสียงว่าป้ายหาเสียงของพรรค ปชป.เน้นความเรียบง่ายเป็นระเบียบเรียบร้อย จุดทำเลทองยุทธศาสตร์วางป้ายหาเสียง ไม่ได้เน้นจุดตั้งป้ายเป็นพิเศษ ให้อำนาจแก่ผู้สมัคร ส.ส.แต่ละพื้นที่ จัดตั้งป้ายให้อยู่ในสายตาของประชาชนสัญจร แต่เลือกตั้งครั้งนี้ 30-40 พรรค ส่งผู้สมัครครบทุกเขต ดังนั้น ทุกพรรคต่างแย่งชิงพื้นที่กันอย่างร้อนแรงป้ายหาเสียงแสดงถึงการเชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ที่ไม่เคยมีมา 8 ปี จากเหตุรัฐประหาร ทำให้ตัวแทนประชาชนไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ทุกองค์กรต่างรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง ประชาชนขาดการเอาใจใส่มา 8 ปี ฉะนั้นต้องออกมาเลือกตั้งกันให้มาก เพื่อแสดงพลังปกป้องประชาธิปไตยที่ให้ตัวแทนของตัวเองมาทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเช่นเดียวกับ พรรคเพื่อไทย ใช้ตัวย่อ พท. โทนสีแดง-น้ำเงิน เป็นหลัก เน้นตัวโลโก้และหมายเลขของผู้สมัคร บางพื้นที่มีการขึ้นป้าย “รูปคู่” โดยใช้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ “แคนดิเดตบัญชีรายชื่อนายกฯ” ในป้ายหาเสียง ดึงดูดสายตาประชาชนได้ไม่แพ้พรรคอื่น และชูนโยบายอย่างเด่นชัดของพรรคลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย บอกถึงกลยุทธ์หาเสียงพรรคเพื่อไทยว่า ทำป้ายหาเสียงมา 2 แบบ คือ 1.พรรคทำขึ้นเอง มี 3 ชุด เน้นข้อความนโยบายพรรค ชูผู้บริหารแบบมืออาชีพที่มีประสบการณ์ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง แบบที่ 2 ป้ายผู้สมัคร ออกแบบโดยพรรค หรือผู้สมัครก็ได้ มีชื่อ หมายเลขผู้สมัคร ให้น้ำหนักเน้นโลโก้และชื่อพรรค รวมถึงการชูคุณหญิงสุดารัตน์ นายชัชชาติ ถ่ายรูปคู่กับผู้สมัครแต่ละเขต“พรรคออกป้ายหาเสียงไม่แบ่งแยกกลุ่มเป้าหมาย เน้นติดตั้งป้ายตามถนนสายหลักที่มีประชาชนสัญจรผ่านตลอดเวลา รองลงมา...ตามแยกต่างๆ เพราะรถทุกคันต้องชะลอ หรือจอดรถรอสัญญาณไฟจราจร นำสายตาอ่านข้อความป้ายหาเสียงได้ นอกจากนี้ ในหมู่บ้านชุมชนถือเป็นจุดสำคัญเช่นกัน”นอกจากนี้ยังมีป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองหน้าใหม่ทำป้ายหาเสียงไม่เหมือนที่เคยเห็น มีลักษณะคล้ายกับโปสเตอร์ภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ เช่น “พรรคพลังท้องถิ่นไท” มี นายชัชวาลย์ คงอุดม หรือชัด เตาปูน เป็นหัวหน้าพรรค นายชื่นชอบ คงอุดม โฆษกพรรค และมี นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม นักแสดงชื่อดัง เป็นรองโฆษกพรรค โดยจัดทำโปสเตอร์หาเสียงที่สร้างความฮือฮาให้กับการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยมีแนวคิดมองว่าทุกคนคือฮีโร่อยู่ในตัวคนไทยทุกคน ร่วมกันแสดงพลังออกมาก้าวข้ามความขัดแย้งไปด้วยกันถัดมา พรรคพลังประชารัฐ ป้ายหาเสียงเป็นโทนสีขาว-น้ำเงิน ชุดแรกมีภาพผู้สมัครในแต่ละเขตโดดๆ และป้ายผู้สมัครคู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พร้อมข้อความถึงประชาชน ย้ำพรรคยืนอยู่ข้างประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ไม่ใช่ของใครคนใด ยืนยันอยู่ข้างความถูกต้อง ขณะที่ พรรคประชาชนปฏิรูป มาในป้ายหาเสียงโทนสีเหลือง ชูรูป นายไพบูลย์ นิติตะวัน หน.พรรค เสนอนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติ เพื่อ แก้ปัญหา “ทุกข์ร้อน” มาต่อที่ป้ายหาเสียงของ “พรรคเสรีรวมไทย” มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพรรค ลักษณะป้ายหาเสียง ใช้รูปคู่ผู้สมัครกับหัวหน้าพรรค ให้ประชาชนสนใจหันมาเลือกพรรคเสรีรวมไทย ชูข้อความบนแผ่นป้าย “รวมพลังสร้างชาติ” เราพร้อมรับใช้พี่น้องประชาชนส่วน...พรรคไทยรักษาชาติ ป้ายหาเสียงออกเป็นโทนสีแดง น้ำเงิน ชูแนวคิด คิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง หรือ โลกก้าวไกล ไทยต้องก้าวทัน มีรูป ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หน.พรรคไทยรักษาชาติ คู่กับผู้สมัคร ขณะที่...พรรคอนาคตใหม่ มีหัวหน้าพรรคคนรุ่นใหม่ไฟแรง ออกแบบทำป้ายหาเสียงสีส้มฉูดฉาดร้อนแรง ชูรูป “นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หน.พรรคอนาคตใหม่ เน้นจุดยืนทางการเมือง มีข้อความ อาทิ พอหรือยัง 5 ปี รวยกระจุก จนกระจาย, เราพร้อมแล้ว ได้เวลาคนรุ่นใหม่ แก้ไขประเทศ เรียกคะแนนเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ บอกว่า จุดยืนของพรรคที่สื่อสารออกไปทางป้ายหาเสียง ว่าพรรคมีจุดทำเลทองในเส้นทางมองเห็นชัด แม้จะมีป้ายหาเสียงไม่มากเท่ากับพรรคอื่น ประกอบการหาเสียงมีช่องทางอีกมากมาย โดยใช้โซเชียลมีเดีย และแจกแผ่นพับเป็นหลัก เพราะถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุดนี่เป็นเพียงสีสันป้ายหาเสียงผู้สมัคร ส.ส.ต่างงัดกลยุทธ์ ชิงพื้นที่เรียกคะแนนเสียง เสาะหาทำเลทองตั้งป้ายโชว์ความเป็นผู้นำ จุดยืนทางการเมือง ผ่านรูปถ่าย ข้อความ บนแผ่นป้าย ไม่ว่าจะเป็นพรรคเล็ก...พรรคใหญ่ เพื่อเรียกคะแนนความนิยม ใครจะแพ้ใครจะชนะลุ้นกัน 24 มีนาคมนี้...