หลังมีกระแสอยู่ในค่ายทหาร ทูลกระหม่อมโพสต์ขอบคุณ ทษช.น้อมรับพระราชโองการ“ทูลกระหม่อมอุบลรัตนฯ” โพสต์ไอจีขอบคุณน้ำใจคนสนับสนุน อวยพรให้โชคดีมีความสุข ไทยรักษาชาติออกแถลงการณ์น้อมรับพระราชโองการด้วยความจงรักภักดี เคารพการตัดสินใจของประชาชน “ปรีชาพล” หาย ฝ่ายกฎหมายล่องหน กก.บห.ปลงชะตากรรมส่อโดนคดี “ระเบียบรัตน์” ยันลูกชายยังสบายดี ปัดถูกอุ้มเข้าค่ายทหาร “ไพบูลย์” ชี้ช่อง กกต.ยื่นยุบพรรคที่ทำผิด ม.92 (2) ได้เอง ข้อหาเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง 11 ก.พ. กกต.ถกข้อกฎหมาย จับตาตั้งแท่นเชือด ทษช. “บิ๊กจิ๋ว” ชี้เลือกตั้งไปวุ่นไม่จบ ชงตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลฝ่าวิกฤติ อยู่ 8 เดือน-1 ปีแก้ รธน.ก่อนเลือกตั้ง พท.-ปชป.เมินติงไร้เหตุผล-ไม่เป็นประชาธิปไตย หุ่นล้อการเมือง มธ.ซัดปาหี่เลือกตั้งสืบทอดอำนาจ ปั้นภูเขารัฐ ท.อัด “ตู่-ป้อม-มีชัย-วิษณุ” สร้างมรดกบาป ม.44 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ขบวนพาเหรดจุฬาฯหยันบัตรสวัสดิโกงแห่งรัฐ ตู้เอทีเอ็มลายพรางสืบเนื่องจากกรณีมีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า การเสนอชื่อทูล กระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในนามของพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เป็นการกระทำอันมิบังควร ขัดต่อโบราณราชประเพณีและขัดเจตนารมณ์ รัฐธรรมนูญ ทำให้พรรค ทษช.ถูกจับตามองว่าจะถูกดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปอย่างไร “ทูลกระหม่อมอุบลรัตนฯ” โพสต์ขอบคุณเมื่อเวลา 06.40 น. วันที่ 9 ก.พ. ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรม @nichax ใจความว่า “ขอขอบคุณพวกเราคนไทยทุกๆคน สำหรับความรักและนํ้าใจที่มีต่อกันในวันที่ผ่านมานี้ และขอขอบคุณที่ให้กำลังใจ และให้ความสนับสนุนดิฉันมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ขอบอกอีกครั้งด้วยความจริงใจว่า อยากเห็นประเทศไทยเดินไปข้างหน้า เป็นที่ชื่นชมและยอมรับของนานาประเทศ อยากเห็นพวกเราชาวไทยทุกคนมีสิทธิและโอกาส มีความกินดีอยู่ดี มีสุขทั่วถึงกัน และขอขอบคุณด้วยความรักอย่างจริงใจนะคะทุกคน ขออวยพรให้ทุกคนโชคดีมีความสุข#ILoveYou” ทษช.เคว้งยกเลิกกำหนดการหาเสียงผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคไทยรักษาชาติว่าตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 9 ก.พ. บรรยากาศที่ทำการพรรคไทยรักษาชาติ ถนนแจ้งวัฒนะ เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ไม่มีกรรมการบริหารพรรคและแกนนำพรรค เดินทางมาประชุมหรือพูดคุยกันเหมือนทุกวันที่ผ่านมา มีเพียงสมาชิกพรรคและกองเชียร์ประมาณ 4-5 คนที่เดินทางมาสังเกตการณ์และรอให้กำลังใจเท่านั้น และหลังจากมีประกาศสถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ออกมาช่วงดึกวันที่ 8 ก.พ. กำหนดการลงพื้นที่หาเสียงเดิมของพรรคที่ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กรรมการบริหารพรรค เตรียมยกคณะไปลงพื้นที่แนะนำผู้สมัคร ส.ส.กทม. ที่สมาคมแต้จิ๋ว เขตสาทร เวลา 16.00 น. ถูกยกเลิกไป ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแกนนำพรรคถึงแนวทางการดำเนินการหลังจากนี้ แต่ไม่ได้รับคำตอบว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร“ปรีชาพล” หาย ฝ่ายกฎหมายล่องหนผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ไม่สามารถติดต่อ ร.ท.ปรีชาพล เพื่อสอบถามท่าทีของพรรคหลังจากนี้ รวมทั้งนายพิชิต ชื่นบาน และนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ฝ่ายกฎหมายพรรค ทษช. ก็ไม่สามารถติดต่อเพื่อสอบถามการเตรียมการดำเนินการทางกฎหมายหลังจากนี้ได้ด้วยเช่นกันผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ดำเนินการตรวจสอบประวัติของผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติทุกคนด้วยแถลงการณ์น้อมรับพระราชโองการผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.42 น. พรรคไทยรักษาชาติ ได้ออกแถลงการณ์พรรคไทยรักษาชาติ มีเนื้อหาว่า ตามที่ได้มีประกาศพระราชโองการในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพย วรางกูร เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 พรรคไทยรักษาชาติขอน้อมรับพระราชโองการข้างต้นไว้ด้วยความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ทุกพระองค์ พรรคไทยรักษาชาติซาบซึ้งในพระเมตตาของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มหิดล ที่ได้ให้ความเมตตาต่อพรรค พรรคไทยรักษาชาติจะขอทำหน้าที่ตามระเบียบของ กกต. กฎหมายการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญ ด้วยความเคารพในขนบธรรมเนียมราชประเพณี และพร้อมที่จะดำเนินนโยบายเพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทย ด้วยความเคารพในการตัดสินใจของประชาชน ตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กก.บห.รู้ชะตากรรมส่อโดนคดีผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีพระราชโองการดังกล่าวออกมา ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นการกระทำหมิ่นเหม่ผิดรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง รวมถึงระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. หมวด 4 ข้อ 17 ที่ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมืองหรือผู้ใดนำใช้สถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งอาจมีผลถึงขั้นยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คน ประกอบไปด้วย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรคประกอบด้วย น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ นายฤภพ ชินวัตร ลูกชายนายพายัพ ชินวัตร น้องชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค บุตรชายนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา รองเลขาธิการพรรค ประกอบด้วย นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นายต้น ณ ระนอง นายวิม รุ่งวัฒนจินดา กรรมการบริหารพรรค นายรุ่งเรือง พิทยศิริ นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ บุตรสาวของนางเยาวเรศ ชินวัตร นายทะเบียนสมาชิกพรรค นายพงษ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรค “ภูมิธรรม” เตือนลูกพรรคระวังคำพูดขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ส่งข้อความไปยังสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้มีความอ่อนไหว ขอให้สมาชิกทุกท่านระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นในทุกรูปแบบ และขอให้เดินหน้าทำหน้าที่ของตนเองตามที่ได้รับอาสาพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อชาติเลื่อนทริปปูพรมอีสานนายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า จากเดิมพรรคมีกำหนดการลงพื้นที่เดินสายพบประชาชนและปราศรัยในภาคอีสานตามกิจกรรม “เพื่อชาติสัญจร ภาคอีสาน” ระหว่างวันที่ 8-15 ก.พ. ขณะนี้ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อชาติ ได้เลื่อนกำหนดการดังกล่าวออกไปก่อน เพื่อประเมินและติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด หากจะมีการจัดกิจกรรมเมื่อใดทางพรรคจะแจ้งให้ประชาชนรับทราบอีกครั้ง “ไพบูลย์” ชี้ช่อง กกต.ยื่นยุบพรรคได้เองวันเดียวกัน นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวว่า พรรคการเมืองใดทำผิดกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 92 (2) ว่า กกต.มีหลักฐานเชื่อว่าการกระทำใดที่เข้าข่ายตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในวงเล็บสองที่ระบุว่า “การกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” ถ้ามีพรรคการเมืองใดทำและ กกต.เห็นว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อ กกต.สามารถยื่นเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐ– ธรรมนูญได้เอง เพื่อขอให้ยุบพรรคการเมืองนั้นๆได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนหรือยื่นเรื่องเข้ามาเชื่อใช้เวลาไม่นานเสร็จก่อนเลือกตั้งนายไพบูลย์กล่าวอีกว่า คิดว่ากระบวนการพิจารณาไม่น่าจะใช้เวลายาวนาน เนื่องจากถ้าเป็นเรื่องของ กกต.ที่มีหลักฐานอันควรเชื่อแล้ว สามารถทำได้เลย ถือเป็นหน้าที่โดยตรงของ กกต.อยู่แล้ว ทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับการประชุมของ กกต.ต้นสัปดาห์หน้า ส่วนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจะพิจารณาได้เสร็จก่อนวันเลือกตั้งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญ แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะใช้เวลายาวนาน เพราะกรณีนี้ไม่ได้เป็นคดีเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาทางคดีอาญา ส่วนตัวเคยแสดงเจตจำนงอยู่แล้วว่าจะไม่ยื่นคำร้อง เพื่อยุบพรรคใดอยู่แล้วในระหว่างนี้ “เอนก” ชูราชโองการดับทุกข์ทันกาลเมื่อเวลา 09.20 น. เฟซบุ๊ก “เอนก เหล่าธรรมทัศน์ Anek Laothamatas” ของนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ได้โพสต์ข้อความตอนหนึ่งว่า “พระราชโองการฉบับเดียวดับทุกข์ทวยราษฎร์ได้ดังพลัน” ว่า เมื่อวานนี้ปฏิทินจีนระบุว่า 8 ก.พ. เจ้าลงมาจากสวรรค์เพิ่งเข้าใจว่าหมายถึงอะไร ในยามที่ทวยราษฎร์เกือบทั้งประเทศวิตกว่าบ้านเมืองกำลังเดินไปสู่ความสับสนปั่นป่วน วิตกกังวลว่า “เสาหลัก” ของบ้านเมืองกำลังโยกคลอน กลางดึกนั้นเอง ความมืดมิดในหัวใจก็หมดสิ้น เมื่อได้อ่านหรือฟังประกาศพระราชโองการ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ซึ่งออกมาทันเวลา ประดุจเจ้าลงมาจากสวรรค์ตามปฏิทินบอก ลงมาดับทุกข์เข็ญของอาณาประชาราษฎร์โดยแท้ยกพระปรีชาญาณดับเหตุวุ่น 8 ก.พ.นายเอนกยังระบุในเฟซบุ๊กอีกว่า เหตุการณ์ที่เริ่มต้นแต่เช้าและจบลงก่อนสิ้นวันที่ 8 ก.พ.พิสูจน์ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นธรรมราชด้วย พระราชโองการที่จะจารึกไว้ประวัติศาสตร์นี้วินิจฉัยสิ่งที่เกิดขึ้นตามหลักการรัฐธรรมนูญ และหลักโบราณราชประเพณีที่ใช้มานับแต่ปี 2475 เป็นต้น รวมทั้งตราไว้ว่าด้วยว่าเป็นวัฒนธรรมของชาติที่สถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องไม่ถูกนำเข้าไปเป็นฝักฝ่ายในทางการเมือง ขอน้อมรับพระราชปรีชาญาณและพระบรมราชวินิจฉัยนี้ใส่เกล้าใส่กระหม่อม สุดท้าย ผมอ่านความตอนต้นของพระราชโองการที่จะเป็นเอกสารสำคัญของชาติต่อไปนี้ยังระบุว่าเจ้าอยู่หัวของเราจะทรงครองราชย์แบบพ่อปกครองลูกด้วย เทวราชและธรรมราชฉบับไทยเรานั้น ทรงเป็นพ่อของแผ่นดินด้วย ดับทุกข์ ดูแลให้เกิดสุข แก่ราษฎร และเพิ่มเติมอีก จากเหตุการณ์ 8 ก.พ.2562 คือทรงนำพา ชี้ทางแก่ราษฎรที่เปรียบเสมือนลูกในยามที่พวกเขาสับสนปั่นป่วน เลขาฯ กกต. 11 ก.พ. ถกข้อกฎหมายวันเดียวกัน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงการพิจารณาคุณสมบัติบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ โดยระบุว่า ในวันที่ 11 ก.พ. คณะกรรมการ กกต.จะประชุมกัน คาดว่าจะมีการหารือในทุกเรื่อง รวมถึงประเด็นข้อกฎหมายต่างๆด้วยจับตาตั้งแท่นปมร้อนเชือด ทษช.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่มีประเด็นร้อนของพรรคไทยรักษาชาติ ผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ติดต่อนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.และ กกต.รายอื่น เพื่อสอบถามความคิดเห็นกรณีดังกล่าว แต่ไม่มีใครรับโทรศัพท์ หรือหากรับแต่ก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นที่ กกต.จะหารือคาดว่าจะเป็นประเด็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับหน้าที่ของ กกต.ว่าจะสามารถพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองได้หรือไม่ เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ กกต.มีอำนาจเพียงประกาศเพียงรายชื่อผู้ที่พรรคการเมืองเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น นอกจากนี้ คาดว่าจะมีการพิจารณาระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงฯ ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งด้วย เนื่องจากเป็นประเด็นร้อนที่สังคมให้ความสนใจ“เจ๊เบียบ”บอกลูกชายยังสบายดีผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีกระแสข่าวแพร่สะพัดในโซเชียลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลควบคุมตัว ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ส่งไปสอบสวนในค่ายทหารแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิชย์ นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข มารดาของ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ร.ท.ปรีชาพล ได้โทรศัพท์มาหาเพราะเป็นห่วงความ รู้สึกของแม่ ลูกชายบอกแค่ว่าไม่เป็นไร ยังสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงสื่อนอกโหมตีข่าวคนไทยเป็นงงด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานบรรยากาศการเมืองประเทศไทยอย่างคึกคัก จากกรณีทูลกระ หม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรีพรรคไทยรักษาชาติ แต่ต่อมาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหา วชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมว่าการนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการ เมือง เป็นการกระทำที่มิบังควร ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยสำนักข่าวเอพีระบุว่าชาวไทยต่างตื่นมาพบกับความงงงวยทางการเมือง และเกิดข้อสงสัยว่าทำไมทูลกระหม่อมหญิงฯถึงตกลงรับการเสนอชื่อของพรรคไทยรักษาชาตินักวิเคราะห์ไปไม่ถูกปรับมุมมองใหม่ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายเจย์ แฮร์ริแมน ผู้อำนวยการอาวุโสของโบเวอร์กรุ๊ปเอเชีย บริษัทให้คำปรึกษานโยบายทางการเมือง ประเทศสหรัฐอเมริกา มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ และทำให้ต้องประเมินสถานการณ์และมุมมองกันใหม่ ว่าทิศทางการเมืองของไทยจะเป็นเช่นไรต่อไปบีบีซีมองแผนขั้วทักษิณผิดพลาดสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พระราชโองการของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิได้เจาะจงแก่ทูลกระหม่อมหญิงฯ แต่ดูเหมือนเป็นการกล่าวโทษสมาชิกพรรค การเมืองที่ยื่นเสนอชื่อ ขณะที่นายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซี อังกฤษ รายงาน ดูเหมือนว่าการเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงฯจะเป็นการคำนวณที่ผิดพลาด และมีความเป็นไปได้ที่จะส่งผลกระทบต่อแผนของขั้วการเมืองนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการขับไล่กองทัพออกจากการเมือง“กอบศักดิ์” อวย “ลุงตู่” เก่ง–ดี–มือสะอาดส่วนบรรยากาศการหาเสียงการเลือกตั้งในพื้นที่ต่างจังหวัด ปรากฏว่าบรรยากาศไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ตลาดเอี่ยมสมบัติ เขตสวนหลวง นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ และนายธันวา ไกรฤกษ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 20 กทม. ลงพื้นที่ตลาดเอี่ยมสมบัติ ทั้งนี้นายกอบศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ทุกพรรคมีพร้อมทั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส.ส.แบบแบ่งเขต รวมถึงบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคดีใจมากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ตอบรับเป็นบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรค แม้จะไม่สามารถช่วยพรรคหาเสียงได้ไม่มีผลอะไร เหตุผลที่เลือก พล.อ.ประยุทธ์เพราะเชื่อว่าจะเป็นนายกฯที่ใช่ เหมาะสมกับสถานการณ์ จะสามารถประคองประเทศไทยให้ผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญนี้ไปได้ ขณะนี้คลื่นใต้น้ำและปัญหาต่างๆยังสะสมอยู่ในประเทศไทย จึงต้องการคนที่จะประคองและบริหารสถานการณ์ช่วงผันผวนให้ทุกคนสุขสงบตามที่ประชาชนคาดหวัง อยากให้บ้านเมืองสงบเพื่อทำมาหากินได้ เพราะเบื่อที่ต้องมาทะเลาะเบาะแว้งกันอีก ที่สำคัญเป็นคนมือสะอาด ตรวจสอบได้ ผลโพลต่างๆถามว่าอยากให้ใครเป็นเบอร์ 1 มาเป็นนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ชนะทุกโพล “อุตตม” โอ่ชื่อนี้ตรงใจชาวบ้านเมื่อเวลา 09.00 น. ที่ จ.สมุทรสาคร นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พร้อมแกนนำร่วมพิธีเปิดศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ ประจำ จ.สมุทรสาคร บริเวณถนนนรราชอุทิศ ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จากนั้นได้ขึ้นรถแห่ไปยังวัดเจษฎารามพระอารามหลวง และวัดโกรกกรากก่อนนั่งเรือข้ามฟากจากวัดโกรกกรากมายังฝั่งท่าฉลอม เพื่อเดินเท้าหาเสียงในพื้นที่ ต.ท่าฉลอม โดยมีประชาชนมารอต้อนรับพร้อมกับมอบดอกกุหลาบเป็นกำลังใจ โดยนายอุตตมให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ที่ตอบรับบัญชีชื่อนายกฯในนามพรรคแล้ว เรามั่นใจและเชื่อว่าเป็นผู้เหมาะสมนำพาประเทศไปข้างหน้า ในสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศชาติที่ต้องการความสงบสุข ต้องการผู้นำที่ตัดสินใจได้และทำงานเพื่อประชาชน พรรคพลังประชารัฐได้ช่วยกันคิดและพิจารณาแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้มีความเหมาะสมในเวลานี้ที่จะนำพาประเทศต่อไปเมิน อนค.จี้ “ประยุทธ์” คายตำแหน่งเมื่อถามถึงแถลงการณ์ของพรรคอนาคตใหม่เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งนายกฯและหัวหน้า คสช. นายอุตตมกล่าวว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความเห็นเรื่องดังกล่าว ขอให้ดูว่าการวางตัวของ พล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างไร ได้หารือคร่าวๆ กับ พล.อ.ประยุทธ์เกี่ยวกับนโยบาย ขอให้รอดูว่าจะมีนโยบายออกมาอีกเป็นระยะไม่ช้าไม่นานนี้ “เสรีพิศุทธิ์” แฉไทยหนี้สะสมพุ่ง 7 ล้านล้านที่ จ.ชุมพร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมแกนนำเดินทางเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเสรีรวมไทย จ.ชุมพร ที่สี่แยกหอนาฬิกา ถนนประชาอุทิศ เขตเทศบาลเมืองชุมพร พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.สังกัดพรรคทั้ง 3 เขตคือนายจเด็จ ครูศากยวงศ์ ผู้สมัครเขต 1 หมายเลข 4 นายพิเชษฐ์ ศรีสดใส เขต 2 หมายเลข 3 และนายภิญโญ ฤทธิชัย เขต 3 หมายเลข 13 โดยมีหัวคะแนน ผู้สนับสนุนและชาวบ้านมารอต้อนรับมอบพวงมาลัย ดอกกุหลาบ และสัมผัสจับมือขอถ่ายรูปจำนวนมาก พร้อมกับส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขึ้นกล่าวปราศรัยกับชาวบ้านว่า การตั้งพรรคการเมืองเสรีรวมไทยครั้งนี้ ต้องการเข้ามาแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนและประเทศชาติ เพราะหลังจากทหารยึดอำนาจตั้งรัฐบาล คสช.อ้างว่าจะคืนความสุขให้ประชาชนจนผ่านมาถึงวันนี้ประเทศไทยกลับมีคนจนเพิ่มมากขึ้นรวมกว่า 14 ล้านคน ประเทศชาติเป็นหนี้สะสมขึ้นมากกว่า 7 ล้านล้านบาทจวกสวมโครงการรัฐบาลหาเสียงหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวอีกว่า หลังยึดอำนาจบริหารประเทศมานานกว่า 4 ปี ยังไม่พอ พยายามจะสืบทอดอำนาจทางการเมืองโดยเขียนรัฐธรรมนูญเอื้อประโยชน์ฝ่ายตนเองโดยให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มาจากการแต่งตั้งสามารถออกเสียงเลือกนายกฯได้ แล้วให้พรรคพวกบริวารที่อยู่ในรัฐบาล คสช.พรรคการเมืองรอไว้เพื่อเสนอชื่อตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป นอกจากนี้ ยังใช้โครงการรัฐบาลหาเสียงเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองฝ่ายตนเองทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอลงจากพรรคใหญ่กลายเป็นพรรคเล็ก โดยใช้อำนาจที่มีอยู่กดดันดึงตัวอดีต ส.ส.คนดังที่พวกตนเองเคยกล่าวหาว่าเป็นผู้มีอิทธิพลเป็นคนไม่ดีทุจริตคอร์รัปชันเข้ามาอยู่พรรคของตัวเองเพื่อหวังคะแนนเสียงสืบทอดอำนาจหลังการเลือกตั้งลั่นปฏิรูปกองทัพไม่ให้ยึดอำนาจพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวอีกว่า ตนลงมาสู่สนามการเมืองในครั้งนี้พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีปราบทุจริตคอร์รัปชันทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงโดยมีประชาชนเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจ ที่ผ่านมาประเทศเราถูกทหารยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหารมากเป็นอันดับ 4 ของโลก ดังนั้น หากตนได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะถือว่าเป็นประวัติศาสตร์คนสุดท้ายของประเทศไทยที่จะปฏิรูปกองทัพทำให้ทหารไม่สามารถทำการยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหารได้อีกต่อไป ต่อมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และคณะได้เดินทางไปสักการะเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ พระตำหนักหาดทรายรี ต.หาดทรายรี อ.เมืองชุมพร ก่อนขึ้นรถแห่ปราศรัยไปรอบๆตัวเมืองชุมพร ท่ามกลางความสนใจชาวบ้านและมาขอจับมือถ่ายรูปตลอดเวลาอย่างเนืองแน่น “อภิสิทธิ์” ช่วยลูกพรรคสุราษฎร์ที่ตลาดพุมเรียง ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่หาเสียงช่วยนายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 6 พบปะประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมทำอาชีพประมงมาร่วมต้อนรับพร้อมขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองคนแรกที่มาพบประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทางพรรคมีนโยบายส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ประชาชนอยู่ดีกินดี โดยเฉพาะอาชีพการทำประมงที่เป็นอาชีพหลักของประชาชนที่นี่ จากนั้นเดินทางไป อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ขึ้นรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้างสีฟ้าคู่กับนายภานุ ศรีษุยกาญจน์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 จากหน้าโรงแรมวังใต้ ผ่านศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี ไปรอบเขตตัวเมืองเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ท่ามกลางแสงแดดร้อนระอุ “วันนอร์” นำทัพพบผู้นำศาสนาห้องประชุมอัลใยยานี โรงเรียนดารุสสาลาม ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค นายอารีเพ็ญ อุตรสินธ์ รองหัวหน้าพรรค พล.ต.ท.อนิรุต กฤษณะการาเกตุ รองหัวหน้าพรรค นายวราธิป มะกูดี รองหัวหน้าพรรค นายนัจมุดดิน อูมา โฆษกพรรค ผู้สมัคร ส.ส.จาก 4 เขตของ จ.นราธิวาส และผู้สมัคร ส.ส.พรรคในพื้นที่ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยมีผู้นำศาสนาจำนวนกว่า 500 คน มาร่วมรับฟังนโยบายจากพรรคอย่างใกล้ชิด โดยนายอารีเพ็ญขึ้นกล่าวบนเวทีสรุปว่า การรวมตัวของสมาชิกพรรคประชาชาติในครั้งนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่มีมุสลิมชาวใต้เป็นหัวหน้าพรรคและในอดีตที่ผ่านมาได้ดำรงตำแหน่งมากมายและสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาทุกคนมาแล้ว ตนในฐานะที่เล่นการเมืองมายาวนานถึง 36 ปี แต่ต้องอาศัยพรรคของคนอื่นมาโดยตลอด ทุกวันนี้คิดว่าการที่จะหยุดเล่นการเมืองเพื่อเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ได้มาทำหน้าที่เป็น ส.ส.บ้าง แต่เมื่อมีโอกาสได้เข้ามาอยู่ร่วมกับพรรคประชาชาติเปรียบเสมือนบ้านของตัวเองจึงมีพลังพอที่จะร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองกันต่อไปได้อีก “ทวี สอดส่อง” ชูนโยบาย 5 อ.ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า การวางนโยบายของพรรคโดยรวมนั้นเป็นไปตามหลักสากลและไม่ผิดหลักของศาสนาพุทธและอิสลาม หน้าที่ของทุกคนตามนโยบายพรรคแล้วต้องดูแลเด็กกำพร้าโดยรัฐอีกหนึ่งไม่ใช่ตกเป็นภาระของประชาชนเพียงฝ่ายเดียว ยึดมั่นในความยุติธรรม สร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นโดยแท้จริงให้กับทุกคน พร้อมชูนโยบาย 5 อ. คือ 1.ประชาชนต้องมีอาหารเพื่อลดความยากจน ดูแลผู้สูงอายุอย่างทั่วถึงและท้องอิ่ม พ้นความยากจนอย่างน้อยเดือนละ 3,000 บาทต่อคน 2.ประชาชน เยาวชนต้องมีอาชีพที่ยั่งยืน มีที่ทำมาหากิน มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินทำกิน 3.มีโอกาสทางการศึกษาที่ดีและมีคุณภาพทั่วถึงเพื่อสานต่อไปยังอาชีพที่มั่นคงในอนาคต 4.สร้างสถานพยาบาล สาธารณสุข สร้างสุขภาพที่ดี การรักษาพยาบาลฟรี 5.อัตลักษณ์ ขจัดความอยุติธรรมให้โปร่งใส “บิ๊กจิ๋ว” ชงตั้ง รบ.เฉพาะกาลฝ่าวิกฤติอีกด้าน เมื่อเวลา 12.00 น. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านย่านเกษตร-นวมินทร์ แถลงข่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองว่าด้วยสถานการณ์การเมืองปัจจุบันนี้ ขอให้ทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อไทยและทุกพรรคการเมือง ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น แล้วหันหน้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหา จึงขอเสนอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล ในช่วงเวลาที่จะมาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเฉพาะหน้า โดยรัฐบาลเฉพาะกาลนี้ อาจเป็นการร่วมกันของหลายพรรค การเมืองและคนที่มีความรู้ความสามารถ มาพูดคุยตกลงร่วมกัน โดยคนที่มาต้องมีเจตนาที่บริสุทธิ์ เพื่อประเทศชาติจริงๆอยู่ 8 เดือน-1 ปีแก้รธน.ก่อนเลือกตั้ง“จะต้องรีเซ็ตสิ่งที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำไว้ทั้งหมดเลยหรือไม่นั้น ต้องดูเป็นเรื่องๆไป หากเป็นเรื่องดีจะต้องสนับสนุนและทำต่อไป แต่หากบางเรื่องไม่ดี จะต้องได้รับการแก้ไข ต้องไม่ลืมว่า คสช.เข้ามาเพราะประชาชนทะเลาะกัน ทั้งนี้ รัฐบาลเฉพาะกาล จะทำหน้าที่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ อาจเป็น 8 เดือนถึง 1 ปี เพื่อมาแก้รัฐธรรมนูญก่อนให้มีการเลือกตั้ง โดยมีคณะกรรมการกลางที่มาจากหลายภาคส่วนเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลนี้” พล.อ.ชวลิตกล่าวไม่ได้หยุดยั้งแต่รู้หลัง ลต.วุ่นแน่พล.อ.ชวลิตกล่าวอีกว่า แนวคิดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลนั้นเป็นเพียงข้อเสนอ หากเห็นว่าดีก็ควรหาวิธีการทำให้ได้ แต่หากจะเอาแบบเก่าก็ตัวใครตัวมัน การจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลนี้ควรตั้งก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. เพราะการเลือกตั้งก็เห็นๆกันอยู่ ขนาดยังไม่มีการเลือกตั้งยังมีความขัดแย้งอย่างทุกวันนี้ ที่เสนอไม่ใช่ต้องการให้หยุดยั้งการเลือกตั้ง แต่รู้อยู่แล้วว่าหลังการเลือกตั้งจะเกิดอะไรขึ้น ขนาดยังไม่เลือกตั้งก็ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย ส่วนผู้ที่เหมาะสมจะนั่งในตำแหน่งนายกฯในรัฐบาลเฉพาะกาลนั้น ไม่ขอออกความเห็น แต่ตนคงเป็นไม่ได้ เพราะว่าแก่แล้ว ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้ามีความเข้าใจคงเหมาะสมเหมือนกับคนอื่นๆอย่าโกรธทหารเลยเข้ามามันติดลมพล.อ.ชวลิตกล่าวว่า สำหรับเรื่องการเมืองวันนี้ ขออย่าว่าทหารเลย เพราะเมื่อมีการทะเลาะกัน ทหารจำเป็นต้องแทรกแซงเข้ามา เมื่อทหารเข้ามาก็เกิดความมันและติด เป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้น เราจะต้องเปลี่ยนให้ทหารเป็นทหารอย่างแท้จริงเช่น จะสามารถยกเลิกการเกณฑ์ทหารได้หรือไม่ โดยให้เปลี่ยนเป็นทหารอาสา ซึ่งจะมีการศึกษาและสวัสดิการให้อย่างดีติงนักการเมืองอย่าไปแตะสถาบันฯพล.อ.ชวลิตกล่าวถึงกรณีของพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ด้วยว่า เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นนั้น เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ที่นำสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงถือเป็นสิ่งที่ไม่งดงาม อย่างไรก็แล้วแต่ ขออย่าแตะไปถึงข้างบน เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์คือหัวใจของชาติ พระมหากษัตริย์ทรงเข้าใจถึงสถานการณ์ทางการเมืองเป็นอย่างดี และทรงรู้ว่าประชาชนต้องการอะไร เราจึงต้องทำการเมืองให้ถูกต้อง เพื่อให้บ้านเมืองมีความสถาพรสืบไป “ชัยเกษม” ต้านไม่เป็นประชาธิปไตยนายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถึงสถานการณ์บ้านเมืองเราจะเป็นแบบนี้ แต่ควรปล่อยให้การเลือกตั้งเป็นไปตามปกติ ประชาชนควรได้มีโอกาสตัดสินใจว่าจะอยู่กับรัฐบาลแบบไหน การจะมีรัฐบาลแบบมีคนนั้นคนนี้มา ยังไม่เห็นว่าจะมีผลดีกับประเทศ เชื่อว่ากลไกต่างๆยังเดินไปได้ตามปกติ ยังไม่มีสาระอะไรที่จะทำให้ไปถึงตรงนั้น การที่ยังมีการเสนอเรื่องรัฐบาลเฉพาะกาลและรัฐบาลแห่งชาติ เพราะยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่อาจได้ประโยชน์จากรัฐบาลที่มาลักษณะแบบนั้น แต่ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากเสียงประชาชน ไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่ถ้าจะเป็นรัฐบาลที่เกิดจากเมื่อเลือกตั้งไปแล้ว เสียงที่ได้มาจำเป็นต้องรวม 3- 4 พรรค ไม่ว่าอะไร เพราะถือว่ามาจากประชาธิปไตย “วรชัย” ติงไว้ค่อยคิดกันหลังเลือกตั้งนายวรชัย เหมะ ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อเสนอแนะของ พล.อ.ชวลิตที่ให้ทุกพรรคร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล ตนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวที่เสนอมาในช่วงเวลานี้ ขอให้มีการเลือกตั้งก่อน เพราะผลของการเลือกตั้ง เราจะได้รู้ว่าประชาชนมีความคิดและต้องการการเมืองแบบไหน ถ้าประชาชนเลือกมาอย่างหลากหลาย ไม่มีพรรคไหนชนะขาด ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลได้ ทุกพรรคอาจต้องพูดคุยเพื่อหาทางออกให้ประเทศ แต่ถ้าประชาชนเลือกข้างใดข้างหนึ่งชนะขาด ฝ่ายที่แพ้ต้องยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ให้ผู้ชนะจัดตั้งรัฐบาล และขอให้ ส.ว.เห็นแก่ประเทศชาติโหวตเลือกนายกฯ ตามความต้องการของประชาชนเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ โฆษก ปชป.ฉะไร้เหตุผลไม่เอาด้วยนายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ที่เสนอให้ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งนำไปสู่ความรุนแรงซ้ำรอยอดีตว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมืองที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง คิดว่าไม่มีความขัดแย้งใด จึงไม่จำเป็นต้องตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล ตามข้อเสนอของพล.อ.ชวลิต เพราะยังมีกระบวนการทางกฎหมายปกติที่ดำเนินการกับบุคคลที่ทำผิดกฎหมายได้ ว่าไปตามกฎหมายปกติ อีกทั้งขณะนี้อยู่ในช่วงที่มีการรณรงค์เลือกตั้งหาเสียง เพื่อกลับไปสู่รัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง จึงไม่มีความจำเป็นใดๆต้องทำตามข้อเสนอนี้ เพราะหากใครหรือพรรคใดที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องเฉพาะของคนหรือแต่ละพรรคดันวิธีพิเศษทำทางเดินสู่ ปชต.สะดุดนายธนากล่าวอีกว่า การที่จะเสนอให้ใช้กระบวนการพิเศษ เพื่อเข้ามาแทรกแซงระหว่างการรณรงค์เลือกตั้งมองได้ว่าเป็นความพยายามเข้ามาทำให้การเมืองที่จะเดินไปสู่ระบอบประชาธิปไตยต้องสะดุดหยุดลง จึงไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ มองไม่เห็นความจำเป็น ไม่มีเหตุผลใดต้องทำตามข้อเสนอของ พล.อ.ชวลิตคนไทยในออสเตรเลียตื่นตัวเลือกตั้งสำหรับบรรยากาศการขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรของคนไทยในประเทศออสเตรเลีย ทางสถานกงสุลใหญ่ นครซิดนีย์ โดยนายจักรกฤดิ กระจายวงศ์ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ได้จัดบริการให้ประชาชนชาวไทยลงทะเบียนเลือกตั้งในระหว่างวันที่ 28 ม.ค.-19 ก.พ. (ตามเวลาประเทศไทย และตามสถานที่ที่ได้กำหนดขึ้น) โดยในวันที่ 9 ก.พ. ที่วัดพุทธรังษี สแตนมอร์ ตั้งอยู่เลขที่ 88 ถนนสแตนมอร์ 2048 นิวเซาท์เวลส์ ตั้งแต่เวลา 10.00-13.00 น. มีประชาชนทยอยเดินทางมาลงทะเบียนอย่างต่อเนื่องมีทั้งนักเรียน นักศึกษา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยและผู้ที่อาศัยอยู่แบบถาวร จากการสังเกตคนไทยในประเทศออสเตรเลียให้ความสนใจในการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นอย่างมาก จากการสอบถามคนไทยในซิดนีย์ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากได้นายกฯ ที่สามารถนำพาให้คนไทยผ่านพ้นภาวะข้าวยากหมากแพงเสียที ขบวนหุ่นล้อการเมืองเข้าสนามคึกคักอีกเรื่องที่สนามศุภชลาศัย มีการจัดแข่งขันฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬา ครั้งที่ 73 ท่ามกลางศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันสองสถาบันหลายพันคนเข้าร่วม ไฮไลต์ที่ถูกจับตาคือ ขบวนพาเหรดล้อการเมือง จัดทำโดยทีมนักศึกษากลุ่มอิสระล้อการเมืองแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในเวลา 14.30 น. ขบวนพาเหรดล้อการเมืองที่ประกอบด้วยหุ่นล้อ 4 ตัว มีนักศึกษา มธ.หลายร้อยคนเข้าร่วมในพาเหรด เริ่มเคลื่อนเข้าสู่สนามท่ามกลางความสนใจของเหล่ากองเชียร์ แต่หุ่นตัวที่ 4 ไม่ได้รับอนุญาตจากฝ่ายจัดงานให้เข้าสนาม เพราะเนื้อหาที่แจ้งมาก่อนหน้าไม่ตรงกับรูปลักษณ์ของหุ่น ฝ่ายจัดงานเกรงว่าจะกระทบกับงาน ทำให้ทีมล้อการเมืองต้องชี้แจง จึงเข้าไปในสนามได้แต่งชุดนักโทษเหน็บ ตร.รวบ “ฮาคีม”ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พาเหรดล้อการเมืองปีนี้นำหน้าด้วยนักศึกษาชายที่แต่งตัวชุดนักโทษมีโซ่คล้องที่ข้อมือแต่ถือลูกบอล พร้อมป้ายข้อความว่า “เซฟฮาคีม” นักฟุตบอลสัญชาติบาเรนห์ ตามด้วยหุ่น 1.Game of Trade เป็นหุ่นหมีพูห์สีเหลือง และกัปตันมีโล่ทวิตเตอร์เป็นอาวุธ กลุ่มอิสระล้อการเมืองสื่อว่า โลกปัจจุบันมหาอำนาจทั้งจีนและสหรัฐฯกำลังทำสงครามเศรษฐกิจ บรรดาหญ้าแพรกตัวเล็กตัวน้อยย่อมกลายเป็นหมากในเกมของมหาอำนาจ ประเทศไทยต้องได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วยเช่นกัน กัดเจ็บ พปชร.ดูดไม่เลือกหน้าหนุน “บิ๊กตู่”หุ่นล้อตัวที่ 2 เริ่มเรียกเสียงฮือฮาดังลั่นสนาม ชื่อหุ่น “พลังประสานช่วยรัฐทหาร” เนื่องจากที่มีลักษณะเป็นเครื่องดูดฝุ่นขนาดใหญ่สีฟ้า พร้อมนำภาพใบหน้า พล.อ.ประยุทธ์ ที่ถูกตัดเหลือเพียงแค่ครึ่งหน้ามาติดไว้ มีตุ๊กตาหุ่น 4 ตัวที่ติดป้ายชื่อพรรคการเมืองต่างๆที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯมายืนพยุงเครื่องดูดฝุ่นไว้ กลุ่มล้อการเมืองสื่อความหมายว่า “ในสถานการณ์ที่รัฐบาลหันมาเล่นเกมการเมือง มีการใช้พลังทรัพยากรของรัฐดูดนักการเมืองและ ส.ส. มา โดยไม่สนว่านักการเมืองเหล่านั้น จะเคยเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู แม้จะเคยด่านักการเมืองเหล่านั้นว่าเป็น “นักการเมืองน้ำเน่า” ดังนั้น พรรคของเขาจึงเปรียบดังเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่สูบมาอย่างไม่เลือกหน้า” เหน็บแสบปาหี่ ลต.รองรับสืบอำนาจต่อมาหุ่นล้อตัวที่ 3 “เลือกตั้งไม่ผิด ผิดที่สัญญา” เป็นหุ่นหีบเลือกตั้งสีเขียวขนาดใหญ่ เขียนคำว่าหน่วยเลือกตั้งที่ 44 ข้างหลังป้ายเขียนว่าผลการลากตั้งหน่วยที่ 44 มีนักศึกษาเดินถือป้ายผ้ามีข้อความว่า “เลือกตั้งไม่ผิด ผิดที่สัญญา คนมากมายหลายคนพากาบัตร กฎตระบัดกติกาข้างสหาย” ต้องการสื่อว่า การเลือกตั้งไม่ได้เป็นการแสดงออกถึงอำนาจของประชาชน แต่กลับเป็นเครื่องมือรองรับการสืบทอดอำนาจ เป็นเหมือนละครที่เล่นให้คนดูว่าฉันมาอย่างชอบธรรม กฎกติกาเช่นนี้มีแต่สร้างความเสียหายแก่สังคมไทยในระยะยาว ปั้นภูเขารัฐทหารร่วมสร้างมรดกบาปไฮไลต์มากที่สุดคือหุ่นตัวที่ 4 ที่หวุดหวิดถูกเซ็นเซอร์ไม่ให้เข้างาน ชื่อหุ่น “เขารัฐ ท.” เป็นหุ่นที่มีลักษณะเป็นภูเขาสลักหน้าคนคล้ายบุคคลสำคัญของประเทศไทย 4 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายวิษณุ เครืองาม ทั้งบนเขายังมีศิลาจารึกเขียนว่า ม.44 มีพานรัฐธรรมนูญ ป้ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รถไฟ เรือดำน้ำ ด้านหลังเขานี้ยังเขียนว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมป้ายข้อความขบวนพาเหรดใจความว่า “คสช.อยู่ยั้งยืนยง ไทยย่อมทุกข์มั่นคงทั่วหล้า เป็นบทเรียนภายหน้าเมื่อสิ้นเผด็จการ” โดยกลุ่มล้อการเมืองสื่อว่า อนุสาวรีย์แบบหุ่นในรัฐไทย สลักใบหน้าให้จดจำมรดกที่พวกเขาได้สร้างไว้ หยันบัตรสวัสดิโกง-ตู้เอทีเอ็มลายพรางผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันในส่วนของขบวนพาเหรดสะท้อนสังคมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นผลงานของคณะนิติศาสตร์ และครุศาสตร์ ล้อการเมืองได้แสบสันไม่แพ้กัน ใช้ป้ายข้อความสื่อด้วยภาษาตรงๆเข้าใจง่าย เช่น หุ่นตู้เอทีเอ็มสีเขียวมีลายพราง ติดป้ายว่าภาษีไว้ด้านหลัง พร้อมป้ายผ้าพาเหรดใจความว่า บัตรสวัสดิโกงแห่งรัฐ เงินภาษีเท่ากับทุนหาเสียง ป.ป.ช.=ปกป้อง ...เป็นต้นฝ่ายมั่นคงแหยงไม่กล้าตรวจหุ่นนายพิพิธพงศ์ คำนนท์ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มธ.ชั้นปีที่ 2 รองประธานกลุ่มอิสระล้อการเมืองฯ กล่าวว่าความยากลำบากของการทำหุ่นปีนี้ คือ เรื่องการผันแปรทางการเมืองในขณะนี้กลับไปกลับมา ทั้งยังมีประเด็นต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ตลอดเกือบ 5 ปีที่ต้องนำเสนอ แต่หุ่นล้อการเมืองทำไว้แบบปลายเปิดให้สอดแทรกปรับเปลี่ยนได้ ก่อนหน้านี้ยอมรับว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาพูดคุยแกมบังคับ ไม่ให้ล้อผู้นำประเทศ แต่เมื่อถึงเวลาจริงยังไม่ได้เข้ามาตรวจสอบตามที่นัดไว้ คงกลัวกระแส สังคมตีกลับ น่ายินดีกิจกรรมล้อการเมืองปีนี้ได้รับความสนใจจากเพื่อนนักศึกษามากเป็นพิเศษ เพราะตื่นตัวทางการเมือง และคนรุ่นใหม่ต้องการกำหนดชะตากรรมของประเทศ ส่วนกรณีหุ่นตัวที่ 4 เกือบไม่ได้เข้ามาพาเหรดในสนาม เป็นความเข้าใจผิดในการสื่อสารกันระหว่างฝ่ายขบวนพาเหรดกับทีมอิสระล้อการเมือง เพราะกลัวว่าหุ่นตัวนี้จะมีเนื้อหาล้อที่รุนแรง จึงจะปิดประตูไม่ให้เข้า ยอมรับหุ่นตัวนี้ เนื้อหาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้จริง เพราะเพิ่งทำเสร็จ แต่สุดท้ายลุล่วงไปได้ดี