ผมกำลังเป็นคนแก่หัวดื้อ ที่มีคนใช้สำนวนเหน็บแนมว่า แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน ไม่ว่าฟังใครพูดจาอะไร ก็มีข้อ “ไม่เชื่อ” ไปเสียทั้งนั้นความเชื่อ ภาษาพระท่านใช้ “ศรัทธา” เป็นคนขาดศรัทธา ไม่น่าจะเป็นคนดีในพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต) กล่าวถึง สัทธา 2 (เขียนตามบาลี สันสกฤต เขียนศรัทธา)1 ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคต 2 กัมมผลสัทธา เชื่อกรรมและผลแห่งกรรมสัทธา 2 นี้ ฟังแล้วสั้นไป ที่คุ้นเคยกว่า คนรุ่นหลังรวบรวมไว้ คือสัทธา 41 กัมมสัทธา เชื่อกรรม เชื่อการกระทำ 2 วิปากสัทธา เชื่อผลของกรรม 3 กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่าสัตว์มีกรรมเป็นของตัว ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว 4 ตถาคตสัทธา เชื่อปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคตยังมีการจำแนกไว้ในอรรถกถา สัทธามี 4 ระดับระดับที่ 1 อาคมนสัทธา ความเชื่อความมั่นใจของพระโพธิสัตว์ อันสืบมาจากการบำเพ็ญสั่งสมบารมี ระดับที่ 2 อธิคมสัทธา ความเชื่อมั่นของพระอริยบุคคล ซึ่งเกิดจากการเข้าถึงด้วยการบรรธรรมเป็นประจักษ์ระดับที่ 3 โอกัปปนสัทธา ความเชื่อหนักแน่นสนิทแน่ว เมื่อได้ปฏิบัติก้าวหน้าไปในการเห็นความจริง ระดับที่ 4 ปสาทสัทธา ความเชื่อที่เป็นเพียงความเลื่อมใส จากการได้ยินได้ฟังได้ยินคำว่าศรัทธา อย่าเพิ่งสรุปว่า เป็นข้อดีทั้งหมด ใครที่มี “สัทธาจริต” พื้นนิสัยหนักในศรัทธา ท่านว่า พึงแก้ด้วยปสาทนียกถา ถ้อยคำที่นำให้เกิดความเลื่อมใส ในทางที่ถูกที่ควรและด้วยความเชื่อที่มีเหตุผลผมทบทวนแต่ละศรัทธา ศรัทธาในกรรม ศรัทธาพระพุทธเจ้า ฯลฯ ก็ยังเห็นว่าตัวเองยังมีศรัทธาอยู่ไม่น้อย เพิ่งจำแนกได้ ตัวเองมีจิตใจอยู่ในสัทธาระดับที่ 4ปสาทสัทธา ความเชื่อที่เป็นความเลื่อมใสจากการได้ยินได้ฟังเข้าใจความหมายของคำว่า ศรัทธาปสาทะ เอาตอนนี้เองแม้ยังมีศรัทธามั่นคง กับพระสงฆ์ผู้ทรงคุณธรรมความรู้มากมาย แต่เมื่อฟังข่าว ตำรวจจับพระเถระผู้ใหญ่หลายๆรูป สึกแล้วเอาเข้าขังคุก ก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นไหวและเศร้าหมองต้องพยายามโน้มน้าวใจ เชื่อมั่นว่าสัตว์มีกรรมเป็นของตัว ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วดื่มด่ำกับคำสอนนี้แล้วทำให้มั่นคงในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ายิ่งขึ้นนึกถึงผู้คนในแวดวงการเมือง หลายคนจากหลายฝ่าย ที่ก่อกรรม ต่างก็รับผลกรรมกันไปแล้ว เข้าคุกไปแล้วบ้าง ถูกยึดทรัพย์บ้าง อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีบ้างถ้าเชื่อว่ากรรมเวรมีจริง แม้อำนาจการเมืองจะทำให้เห็นว่า ฝนตกไม่ทั่วฟ้าคนแก่ที่มีศรัทธาปสาทะ ระดับที่ 4 อย่างผมเชื่อว่าจะเร็วจะช้า ก็ต้องรับผลกรรมที่ทำไว้ถ้าทุกกรรมมีผลฉับไวทันใจ บนเวทีการเมืองไทย อาจไม่มีนักการเมืองเหลือเลย ถ้าเข้าคุกกันไปหมด จะเหลือใครจะอยู่ทำงานนิติบัญญัติในสภา ทำงานบริหารในรัฐบาลที่เป็นห่วง ก็คือผู้คนที่อยู่กับอำนาจใหม่ บางคนทำเหมือนไม่รู้จักกฎแห่งกรรมจะทำจะพูดอะไร ไม่ก่อศรัทธา คงเผลอไปว่าอำนาจคือศรัทธาลืมไปแล้วกระมังว่าอำนาจจากปากกระบอกปืนเป็นเพียงอำนาจชั่วคราว อำนาจที่ยั่งยืนและแท้จริงนั้นมาจากศรัทธาของประชาชน.กิเลน ประลองเชิง