เคาะงบขาดดุล 4 ปีหนุนเศรษฐกิจโต

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เคาะงบขาดดุล 4 ปีหนุนเศรษฐกิจโต

Date Time: 29 พ.ค. 2561 06:15 น.

Summary

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลางปีงบประมาณ 2562-2564 และกรอบบริหารหนี้สาธารณะ ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561...

Latest

ยุบสภา สะเทือนนโยบายหลักต้องรอรัฐบาลใหม่ตัดสินใจ เผยคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ฝันค้าง

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลางปีงบประมาณ 2562-2564 และกรอบบริหารหนี้สาธารณะ ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐได้กำหนดเป้าหมายระยะสั้น ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ผ่านการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และจัดทำงบประมาณขาดดุล โดยปี 2561 ขาดดุล 550,358 ล้านบาท และปี 2562 ขาดดุล 450,000 ล้านบาท ปี 2563 ขาดดุล 452,000 ล้านบาท และปี 2564 ขาดดุล 524,000 ล้านบาท

ส่วนเป้าหมายระยะกลาง มุ่งบริหารรายได้และรายจ่ายให้อยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีและการปรับอัตราภาษีที่เหมาะสม และการลดภาระรายจ่ายของรัฐบาลที่เป็นรายจ่ายประจำ โดยเฉพาะรายจ่ายบุคลากรและรายจ่ายที่มีลักษณะเป็นเงินอุดหนุนระยะสั้น พร้อมทั้งสร้างความรู้ ความตระหนักของการออม เพื่อการชราภาพ รองรับสังคมผู้สูงอายุ รวมทั้งสนับสนุนและเร่งรัดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานรูปแบบใหม่ที่จะลดภาระการลงทุนของรัฐบาล ได้แก่ การร่วมลงทุนของรัฐและเอกชน (พีพีพี) การลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย เพื่อให้รัฐลงทุนเฉพาะโครงการที่จำเป็นแต่มีผลตอบแทนต่ำได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ นโยบายการคลังควรจะลดบทบาทลงและให้ภาคเอกชนเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยมีจุดมุ่งหมายในระยะยาว เพื่อทำงบแบบสมดุลในอนาคต ซึ่งตามแผนการคลังระยะปานกลางได้ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2561 จะขยายตัว 4.2-4.7% ส่วนปี 2562 ขยายตัว 3.9-4.9% และปี 2563-2564 ขยายตัว 3.5-4.5% ขณะที่สถานะและประมาณการการคลัง ประมาณรายได้สุทธิของรัฐเพิ่มขึ้นจากปี 2561 อยู่ที่ 2.45 ล้านล้านบาท เป็น 2.776 ล้านล้านบาทในปี 2564 ส่วนรายจ่ายปี 2561 อยู่ที่ 2.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 3.3 ล้านล้านบาทในปี 2564 ซึ่งจะเห็นว่าการขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้น แต่หลังจากรัฐบาลดำเนินการมาตรการเพื่อลดรายจ่ายระยะปานกลางและระยะยาวมีผลแล้ว การขาดดุลงบประมาณก็น่าจะลดลง ส่วนหนี้สาธารณะของรัฐบาล ณ สิ้นไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2561 อยู่ที่ 41.17% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เป็นไปตามกรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีไว้ไม่เกิน 60%.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ