
มีผล 22 พ.ค. แก๊สหุงต้มราคาพุ่ง!! จากราคาน้ำมันแพง ผู้ค้าดอดขึ้นไปก่อนหน้าแล้ว แม่ค้าอาหารตามสั่งในพังงา บ่นอุบ ถัง 15 กิโลฯ ขึ้น 400 กว่าบาท ซ้ำแบกต้นทุนวัตถุดิบ กัดฟันยังไม่ขึ้นราคา เพราะสงสารลูกค้า...
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ทันทีที่บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน แจ้งว่า ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หรือแก๊สหุงต้ม ทั้งภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง จะปรับเพิ่มขึ้น 1.5485 บาท/กก. (รวม VAT) มีผลตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. ส่งผลให้ราคาแก๊สหุงต้ม ถังขนาด 15 กก. ปรับขึ้นประมาณ 23 บาทต่อถัง จากราคาที่ประกาศสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 372 บาท/ถัง
ทั้งนี้ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลวของประเทศไทย มีการปรับเปลี่ยนทุกสัปดาห์ โดยอ้างอิงราคาซื้อขายตลาดโลก โดยสัปดาห์ที่แล้ว ราคาอยู่ที่ 563.6 ดอลลาร์/ตัน ขณะที่ต้นเดือน เม.ย.อยู่ที่ประมาณ 449 ดอลลาร์/ตัน หรือขยับขึ้นถึง 114 ดอลลาร์/ตัน เป็นผลให้ราคาขายปลีกขยับขึ้นเกือบทุกสัปดาห์ ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พังงา ว่าราคาแก๊สหุงต้ม ถังขนาด 15 กิโลกรัม ได้ปรับขึ้นจากราคา 380 บาท เป็น 420 บาท หรือขึ้นอีกถังละ 40 บาท ได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการประกอบอาหารสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารตามสั่ง และร้านขายไก่ทอดในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งทางร้านอาหารหลายแห่งต้องแบกรับภาระต้นทุนทั้งค่าอาหาร พืชผัก และแก๊สหุงต้ม แต่จะยังไม่ปรับขึ้นราคาอาหารที่ขายให้กับลูกค้าที่มานั่งรับประทานเป็นประจำทุกวัน แต่อาจใช้วิธีการปรับลดสัดส่วนวัตถุดิบในอาหารแทน
อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม ยังส่งผลกระทบให้กับประชาชนระดับรากหญ้าเป็นอย่างมาก โดยที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ควบคุมราคาที่ปรับขึ้นไปก่อนล่วงหน้ามาประมาณ 2 สัปดาห์
ด้าน นางนิตยา บุญลือ ผู้ประกอบการร้านอาหารตามสั่ง กล่าวว่า จากราคาแก๊สหุงต้มขึ้นราคา โดยถังขนาด 15 กิโลฯ ปรับขึ้นจาก 380 มาเป็น 400-420 บาท ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหาร ต้องแบกรับภาระหลายอย่าง ทั้งราคากุ้ง หอย ปู ปลา และผัก เพราะขณะนี้ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาอาหาร เนื่องจากเห็นใจลูกค้าประจำและจะยังไม่ลดปริมาณอาหารลง โดยทุกวันนี้ทางร้านจะใช้แก๊สปรุงอาหารวันละ 1-2 ถัง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ปัญหา.