นายซาอัด ฮารีรีรอฟิก ฮารีรี เป็นนายกรัฐมนตรีเลบานอนระหว่าง พ.ศ.2535-2541 พอถึง พ.ศ.2543 ก็เป็นนายกฯอีก และโดนระเบิดพลีชีพกลางกรุงเบรุตเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2548ทันทีที่นายกฯฮารีรีถูกระเบิดพลีชีพ ผมก็ตามอาจารย์นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย บินด่วนไปจอร์แดน จับแท็กซี่จากจอร์แดนเข้าไปซีเรีย และนั่งแท็กซี่จากกรุงดามัสกัสต่อไปจนถึงชายแดนเลบานอน สาเหตุที่อดีตนายกฯ ฮารีรี ผู้พ่อถูกฆ่าในครั้งนั้น เพราะไปขัดแย้งกับซีเรียซึ่งเป็นประเทศใหญ่ที่มีพรมแดนประชิดติดกันความตายของนายกฯฮารีรี ทำให้คนเลบานอนออกมาประท้วงซีเรียกันมากมาย สมัยนั้น ซีเรียส่งทหารเข้ามาปฏิบัติภารกิจเป็นกองกำลังสันติภาพมากถึง 14,000 คน ภารกิจจบไปตั้งแต่ พ.ศ.2547 แต่ซีเรียไม่ถอนทหารออก ตอนนั้นสหรัฐฯต้องเข้ามากดดันให้ซีเรียถอนกำลัง แต่ซีเรียดื้อ แถมขู่ว่าจะไปจับมือ กับอิหร่าน หากโดนขู่คุกคามอดีตนายกฯ ฮารีรีผู้พ่อมีอดีตเป็นครู ตอนหลังเข้าไปทำก่อสร้างในซาอุดีอาระเบียจนรวยเป็นอภิมหาเศรษฐี และกลับมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจของเลบานอนให้ดีขึ้น คนเลบานอนจึงรักแกมาก ตอนที่นายกฯ ฮารีรีผู้พ่อบริหารงานก่อสร้างในซาอุฯ แกให้กำเนิดบุตรชายคนที่สองที่มีชื่อว่าซาอัด ฮารีรีธันวาคม พ.ศ.2559 นายซาอัด ฮารีรี เป็นนายกรัฐมนตรีของเลบานอน แต่เมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2560 ขณะอยู่ในซาอุฯ นายกฯฮารีรี ผู้ลูกออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ของซาอุฯ ประกาศลาออกจากนายกฯ ให้เหตุผลว่าตอนนี้มีการวางแผนฆ่าตัวเอง พวกอิหร่านขยายอิทธิพลเข้ามา แถมกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ นิกายชีอะห์ก็มีอำนาจมากขึ้นในเลบานอน จนตัวแกอันตรายหลังจากนั้นก็มีข่าวไม่ค่อยดีว่าอาจจะเกิดสงครามใหญ่ระหว่างซาอุฯกับอิหร่านเลบานอนเป็นประเทศที่มีความขัดแย้งกันอยู่ตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเบรุตที่ประชากรเป็นมุสลิมซุนนีและชีอะห์ มีชาวคริสต์อยู่เยอะ แม้แต่พวกที่นับถือศาสนาคริสต์ด้วยกัน ก็ยังแบ่งออกเป็นหลายนิกายที่ทะเลาะกันไม่จบ เดี๋ยวพวกนิกายอาร์เมเนียนออร์ทอดอกซ์ซัดกับพวกกรีกออร์ทอดอกซ์ เดี๋ยวก็ตีกันระหว่างชาวคริสต์นิกายมาโรไนต์กับนิกายคาทอลิก พวกเลบานอนโปรเตสแตนต์ก็แรง พวกที่นับถือฮีบรูก็ยอมใครซะที่ไหน แถมยังมีชนกลุ่มน้อยอย่างปาเลสไตน์ ซีเรีย อาร์เมเนีย ฯลฯพ.ศ.2475 มีการสำรวจประชากร ปรากฏว่ามีชาวคริสต์ มากกว่ามุสลิม พอมีตัวเลขมากกว่า ชาวคริสต์ก็ไม่ยอม บอกว่าพวกฉันต้องเป็นผู้นำเบอร์ 1 ทะเลาะกันจนต้องมีกติกาสัญญา แห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2486 ว่านักการเมืองและผู้บริหารประเทศจะต้องมาจากสัดส่วนของผู้คนตามกลุ่มศาสนา ให้ถือเกณฑ์ชาวคริสต์ 6 คนต่อมุสลิม 5 คนตำแหน่งสำคัญๆ จึงตกแก่คนคริสต์ อย่างเช่นประธานาธิบดี ที่จะต้องเป็นชาวคริสต์นิกายมาโรไนต์เสมอ คนคริสต์ก็จะมีสัมพันธ์ที่ดีกับชาติตะวันตกที่นับถือศาสนาคริสต์ด้วยกัน คนเลบานอนที่เป็นมุสลิมไม่ชอบที่เลบานอนคริสต์ชอบดึงตะวันตกเข้ามาทำโน่นนี่นั่น คนคริสต์ก็ตำหนิมุสลิมที่ชอบไปคบค้าสมาคมกับอาหรับสถานการณ์ในเลบานอนรุนแรงถึงขนาดมีสงครามกลางเมือง พ.ศ.2517-2519 ซีเรียซึ่งเป็นเพื่อนบ้านขนาดใหญ่หนุนมุสลิม ส่วนอิสราเอลหนุนคนคริสต์แค่ซีเรียกับอิสราเอลเข้ามานี่ ก็ปัญหาเยอะอยู่แล้ว เลบานอนยังเละเทะตุ้มเป๊ะด้วยกองกำลังปลดปล่อยปาเลสไตน์ (พีแอลโอ) ซีเรียและอาหรับมาช่วยมุสลิมรบกับคริสต์ยังไม่พอ ยังมีคนอิหร่านที่เป็นชีอะห์มาช่วยมุสลิมอีกด้วยในที่สุด กรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอนต้องแบ่งออกเป็น 2 เขต คือกรุงเบรุตเขตชาวคริสต์ทางตะวันออก และกรุงเบรุตเขตมุสลิมทางตะวันตก มีการยิงกัน ปาระเบิดกัน บ้านเมืองเสียหายถูกทำลายนักการเมืองและคณะผู้นำเลบานอนมีประวัติถูกฆ่าจากฝ่ายตรงข้ามบ่อยมาก จึงไม่แปลกใจที่นายกฯฮารีรีผู้ลูกขอลาออกเพราะกลัวถูกฆ่าหลบอยู่ในซาอุดีอาระเบียดีกว่า.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com