
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ประเมินแนวโน้มการท่องเที่ยวพบว่าปรับตัวดีขึ้น ต่อเนื่อง และปีหน้าหากมีการผ่อนปรนเปิดด่านชายแดนให้นักท่องเที่ยวจากเพื่อนบ้านทั้ง 4 รวมถึงจีนเปิดให้คนเดินทางออกนอกประเทศได้ จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวไทย ล่าสุดได้ปรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติปีหน้าเป็น 8-15 ล้านคน สร้างรายได้ 1.3 -1.5 ล้านล้านบาท ส่วนปี 2566 คาดมี นักท่องเที่ยว 20 ล้านคน
“การเปิดประเทศในช่วงที่ยังมีโควิด-19 ทำให้มีขั้นตอน ที่นักท่องเที่ยวต้องดำเนินการมากขึ้น ผมจึงได้ปรับปรุงและพัฒนาแพลตฟอร์มกลางข้อมูล การเดินทางเข้าประเทศและเชื่อมโยงข้อมูลและแอปพลิเคชันที่จำเป็นสำหรับนักท่องเที่ยวในการท่องเที่ยวในไทยเอาไว้ที่เดียวกัน แพลตฟอร์มนี้จะดำเนินการอยู่บนเว็บไซต์ Entry Thailand เช่น ระบบ Thailand Pass หมอชนะ การซื้อประกันโควิด การสืบค้น ข้อมูลการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว ระบบอาสาสมัครการ ท่องเที่ยวไทย การขอวีซ่าออนไลน์ และการขอคืนภาษี ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว นับตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้ามาในประเทศ จนเดินทางกลับ”
ด้านการท่องเที่ยวในประเทศ นายพิพัฒน์กล่าวว่า เตรียมคืนงบประมาณที่เหลือจากโครงการทัวร์เที่ยวไทยจำนวนเกือบ 5,000 ล้านให้กับรัฐบาล หลังดำเนินโครงการแล้วไม่ได้รับความสนใจ มีจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศที่เข้าร่วมโครงการ 6,635 คน เดินทางท่องเที่ยวจบแล้ว 6,289 คน ณ วันที่ 14 ธ.ค. คิดเป็นเงินที่รัฐบาลสนับสนุน 27.7 ล้านบาท
“ผมยังได้เตรียมหารือกับสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (สศช.) ว่า หากคืนเงินดังกล่าว กรณีสิ้นสุดโครงการใช้เงิน ม.ค.นี้ แล้วนำเงินจำนวนนี้มาดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกันระยะที่ 4 ซึ่งจากเดิมจะขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 21 ธ.ค.เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จำนวน 2 ล้านห้อง/สิทธิ ด้วยวงเงิน 13,200 ล้านบาท แต่หากคืนเงินทัวร์เที่ยวไทยอีกเกือบ 5,000 ล้านบาท จำนวนห้องในโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 จะเพิ่มเป็น 2.8-3 ล้านห้อง/สิทธิ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศปี 2565 ได้”.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง