ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีขึ้นเวที ผ่าทางตันประเทศไทย ช่วงหนึ่งได้พูดถึงประเด็น "คลิปเสียง" การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว ในฐานะนายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชา ผ่านนายฮวด ล่ามแปลไทย-กัมพูชา เมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

หลังฝ่ายกัมพูชาปล่อยคลิปเสียงนี้ออกมาในโลกโซเชียล ทำให้สังคมวิจารณ์ท่าทีของนายกฯ แพทองธาร ทั้งเรื่องเรียก "อังเคิล" บอกว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งบอกอีกฝ่ายว่า หากอยากได้อะไรให้บอกมา ส่งผลต่อกระแสนิยม เรียกร้องให้ลาออกหรือยุบสภาเพื่อรับผิดชอบ รวมถึงเสถียรภาพของรัฐบาลจากการถอนตัวของพรรคร่วม จนเสียงในสภาฯ เริ่มปริ่มน้ำ 

นายทักษิณ เล่าว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ทางฝั่งกัมพูชาต้องการติดต่อกับนายกฯ เพื่อเจรจาปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังอยู่ในความตึงเครียด น.ส.แพทองธาร จึงเข้ามาที่โรงแรมโร้ดวูด พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม (ขณะนั้น) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ และ นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขานายกฯ ตามโปรโตคอลในการเจรจากันของ 2 ประเทศ 

...


ทว่า ผ่านไป 3 ชั่วโมง ยังไม่ได้พูดคุยกัน นายทักษิณจึงได้บอกกับ น.ส.แพทองธาร ว่าให้คณะกลับได้เลย โดยอีกฝ่ายบอกว่า ท่านฮุน เซน หลับอยู่ จึงยังไม่ได้พูดคุยกัน ซึ่งนายทักษิณ ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นแผนการของสมเด็จฮุน เซน ในการเตรียมบันทึกเสียงสนทนาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว 

ต่อมา เมื่อทีมงานของนายกฯ กลับไปทั้งหมดแล้ว สมเด็จฮุน เซน จึงติดต่อกลับมาผ่านทางโทรศัพท์ส่วนตัวของ น.ส.แพทองธาร และมีการสนทนากัน 17 นาทีตามคลิปเสียงที่ถูกลักลอบบันทึกไว้ 

จากนั้น นายทักษิณยังเล่าว่า หลังได้รับชมข่าวว่า กัมพูชาปรับกำลังที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จึงได้โทร.ไปหานายฮวด เพื่อฝากส่งสารถึงสมเด็จฮุน เซน เนื่องจากตนเองมีความโกรธมาก 

"ผมฝากไปถาม (ฮุน เซน) ว่า ลูกเราที่เป็นผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ ตกลงเราจะทำสงครามกันใช่มั้ย" คำพูดของนายทักษิณต่อนายฮวด 

โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้นำทั้ง 2 ประเทศยังไม่ได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการอีกเลย ขณะที่นายทักษิณบอกว่า สมเด็จฮุน เซน ทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเอง คงไม่มีใครกล้าคบด้วยแล้ว เพราะกลัวจะถูกอัดเทปอีก