สาวแชร์ประสบการณ์ โดนคนพูดคุกคามระหว่างวิ่งออกกำลังกาย หลังตั้งสติได้รีบเรียกแฟน-รปภ. มาช่วยจับตัว จนสุดท้ายอีกฝ่ายยอมไหว้ขอโทษ ก่อนใช้ช่วงชุลมุนหลบหนี ล่าสุดลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว-ติดป้ายห้ามเข้า
วันที่ 20 เมษายน 2568 มีรายงานว่า โลกออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิงสาวมาวิ่งออกกำลังกายที่สวนเบญจกิติ แต่กลับโดนหนุ่มใหญ่รายหนึ่งพูดจาในลักษณะลวนลามทางคำพูด ซ้ำที่ผ่านมาเคยมีคนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ไม่มีคนเอาเรื่อง
โดยมีข้อความระบุว่า อยากมาแชร์สิ่งที่เจอกับตัววันนี้ ปกติมาวิ่งสวนเบญประจำ ไม่เคยมีอะไรผิดปกติ (ใส่กางเกง T8 สีดำ สปอร์ตบราดำแบบมีความยาวปิดลงมาจนถึงเอว) จนมาวันนี้มาวิ่งพร้อมแฟน และช่วง 2 โลหลังไปวิ่งกับน้องที่ทำงานเดียวกัน ก่อนจะแยกมาเจอแฟนอีกทีหลังครบ 5 โล เราบอกแฟนว่าเราจะจ็อกต่ออีกหน่อยให้ถึง 6 โล กลับไปตรงจุดที่วางขวดน้ำนะ แฟนเราก็เลยเดินตามทางมาทางเดียวกันแต่อยู่ด้านหลัง พอเราเลี้ยวมาถนนอีกเส้นตรงที่สามารถเชื่อมกับสวนเบญเก่าได้ เราใส่หูฟัง แต่… ไม่ได้เปิดเพลง เพราะกะจ็อกเบาๆ มาเอาขวดน้ำและจะเลิกวิ่งแล้ว
- จังหวะนั้นมีผู้ชาย อายุ 45-55 ปี ใส่เสื้อกีฬาสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ ผมรองทรงยาว มีผมขาวดำแซมทั่วศีรษะ ใส่หูฟังสีดำ และมองเรา เดินสวนมา ระยะแบบเอื้อมมือไปจับก็ถึง ก่อนจะพูดในจังหวะก่อนที่จะเดินสวนกับเราด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ว่า 'น่าเ_ดจัง'
- จังหวะนั้นคือสวนกันแล้ว และเราอึ้ง หยุดวิ่ง และคิดทบทวนตัวเองว่า ได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย คุยกับตัวเอง 5 วิ ใช่ ได้ยินไม่ผิด เราหันหลังกลับ เดินตาม กดโทรศัพท์หาแฟน กระซิบบอกว่า ให้รีบวิ่งตามมาทางที่เราวิ่งไปเอาขวดน้ำ ให้รีบๆ มา (ยังไม่ทันได้บอกว่าอะไร) และเดินตามผู้ชายคนนี้ไปเงียบๆ (ระหว่างนี้เราสังเกตแล้วว่าเขาไม่ได้พูดโทรศัพท์กับใคร)
...
- จังหวะที่เรารู้ว่าแฟนกำลังจะเลี้ยวมาเจอเรา เราเรียกผู้ชายคนนั้นและบอกว่า
เรา: เมื่อกี้พี่พูดอะไร หนูได้ยิน พี่พูดว่า 'น่าเ_ดจัง' พี่พูดแบบนี้ได้ไง หนูไม่ยอม พี่มาพูดแบบนี้ไม่ได้
ผู้ชาย: ผมไม่ได้พูด ผมไม่ได้พูด ผมบอกว่าเหนื่อย
- ผู้ชายคนนี้เริ่มทำท่าจะวิ่งหนีเรา แต่แฟนเราวิ่งมาตามทางแล้ว และอยู่ในสายมาตลอดและได้ยินที่เราพูดกับผู้ชายคนนั้นไปและรู้สถานการณ์แล้ว
- เราชี้ตัวบอกว่าคนนี้แหละ คนนี้ ตะกี้เขาพูดแบบนี้ แฟนเราเข้าชาร์จและจับคอเสื้อผู้ชายคนนี้ไว้ ผู้ชายพยายามหลบหนี เราโวยวายเสียงดังมากจนทางพี่ยามหลายท่านเข้ามาช่วยควบคุมตัวเขาไว้
- ตอนแรกผู้ชายคนนี้ไม่ยอมรับ และบอกว่าไม่ได้เดินสวนทางกัน อยู่คนละเลน ไม่ได้พูดประโยคนั้น บ่นว่าเหนื่อย นี่วิ่งมา 5-6 โลแล้วเนี่ย ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด (ในใจคือถ้าคุณไม่ผิดอ่ะ จะขอโทษคนอื่นว่าทำให้เข้าใจผิดได้ยังไง คุณอย่ามาอ้าง)
- จนท้ายที่สุดเขายอมขอโทษ ยกมือไหว้
- เราต้องการแจ้งตำรวจ แต่ทางพี่ยามคนหนึ่งมาพูดว่า ให้เลิกแล้วต่อกันพี่เขาเป็นผู้ชายเขายอมยกมือไหว้ขอโทษก็ถือว่าเขาสำนึกแล้ว ผู้ชายไม่ได้ยกมือไหว้กันง่ายๆ นะ แล้วผู้ชายคนนี้ก็อาศัยจังหวะนี้รีบเดินหนีไป
- แต่เราไม่ยอม และคิดว่าผู้หญิงทุกคนไม่ควรเจอสถานการณ์นี้ เราได้ดำเนินการลงบันทึกประจำวันที่ สน.ลุมพินีเรียบร้อยแล้ว
สำหรับใครที่เจอสถานการณ์แบบนี้ ทางตำรวจแนะนำว่าให้ทางยามควบคุมตัวไว้และโทรแจ้งตำรวจไว้ก่อนเลย เพื่อให้ทางตำรวจมาที่จุดเกิดเหตุและบันทึกชื่อ-นามสกุลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เนื่องจาก รปภ. สามารถทำได้แค่ระงับเหตุ แต่บังคับใช้กฎหมายไม่ได้
ที่เขียนมาทั้งหมดคือเป็นเหตุการณ์ที่เราเจอ เราไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่เราได้ยินคำว่า ให้ยอมๆ ให้จบๆ ไป เขาขอโทษแล้วก็จบๆ ไป ทำไมต้องจบ ทำไมต้องยอม ต่อให้ความผิดจะเป็นลหุโทษ แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องถูกกระทำทางคำพูดแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน แต่งตัวอะไร ก็ไม่สมควรได้รับการปฏิบัติแบบนี้ (คำพูดของรปภ. ที่บอกว่าผู้ชายไม่ได้ยกมือไหว้ง่ายแบบนี้นะ ง่ายไม่ง่ายคืออะไร ถ้าเป็นลูกสาวคุณรปภ. จะยอมมั้ยคะ)
หลังจากเกิดเหตุมีพี่นักวิ่งและรปภ. บางท่านถ่ายคลิปไว้ และส่งให้ และเล่าให้เราฟังว่า มีคนเคยเจอ แต่ไม่ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้หรือแจ้งตำรวจ ก็อยากจะบอกว่า ให้ทุกคนรักษาสิทธิ เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิด และถ้าเกิดแล้วก็ต้องไม่ยอม ต้องแจ้งตำรวจเลย
อัปเดตที่ทราบจากทางสวนคือทางสวนจะติดป้ายไม่ให้บุคคลดังกล่าวเข้าสวนนะคะ ขอบคุณรูปจากพี่รปภ. และพี่นักวิ่งด้วยค่ะ (เบลอรูปเนื่องจาก PDPA)
อย่างไรก็ตาม หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ได้เข้ามาให้กำลังใจเจ้าของโพสต์ที่กล้าหาญปกป้องสิทธิของตัวเอง ทั้งยังระบุว่า คนผิดต้องได้รับโทษทั้งทางสังคมและทางกฎหมาย.