"ภูมิธรรม" ยืนยัน "กองทัพ-รัฐบาล" พร้อมทำงานร่วมกัน ปิดประตูรัฐประหาร ชี้แรงกดดันให้ "นายกฯ อิ๊งค์" ลาออก เข้าทางศึกนอก หวังไทยแตกแยก

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีนายกรัฐมนตรีต่อสถานการณ์ชายแดนกัมพูชา และคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ว่า วันนี้ทหารและรัฐบาลยังทำงานร่วมกันอย่างดี ไม่มีอะไร ยืนยันอีกครั้งว่าการทำงานร่วมกับทหารไม่มีปัญหาอะไร วันนี้ก็มีการพูดคุยกันอย่างชัดเจน ว่ามองและประเมินสถานการณ์อย่างไร

แต่ว่าเราต้องคำนึงถึงชีวิตของประชาชนคนไทย โดยวันนี้มีการตกลงกันแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับประเทศกัมพูชา ที่จะต้องเป็นไปตามขั้นตอน มีการเตรียมมาตรการไว้ทั้งหมดแล้ว โดยรัฐบาลได้ประกาศในวันนี้แล้วว่าจะสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ ซึ่งทางทหารมองว่าขณะนี้ไม่ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ภายในประเทศ แต่ห่วงใยสถานการณ์จากภายนอกประเทศมากกว่า

ซึ่งถือว่าสิ่งที่เกิดขึ้น คือภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ จึงต้องร่วมมือกันภายในชาติอย่างดีที่สุด และกองทัพไม่ได้เป็นห่วงเรื่องของสถานการณ์ทางการเมือง ปล่อยให้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองได้พูดคุยกัน และทางกองทัพได้ยืนยันว่าพร้อมทำงานภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในเรื่องของภัยคุกคามภายนอก และการรุกล้ำอธิปไตยของไทยเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ โดยวันนี้ได้เริ่มต้นในขั้นตอนของกระทรวงการต่างประเทศ ที่เรียกเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเข้าพบเพื่อประณาม ต่อจากนี้ก็จะมีขั้นตอนเบาไปหาหนัก และเราจะประคับประคอง และยืนในจุดยืนเพื่อให้นานาประเทศเข้าใจว่าไทยยึดมั่นสันติวิธี และไม่ใช่ผู้เริ่มก่อน แต่พยายามประคองไปตามขั้นตอน หากมีอะไรเกิดขึ้นไทยจะแสดงตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ซึ่งวันนี้ทหารมีความพร้อม

...

เมื่อถามว่า มีกระแสกดดันให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่ง จะอธิบายอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องภายนอกมากดดัน และคาดหวังที่จะเห็นไทยอ่อนแอที่สุด ต้องการให้ประเทศไทยแตกแยกกันภายใน และจะใช้เงื่อนไขเพื่อบุกรุกไทยในทางต่างประเทศ วันนี้การพูดคุยกับกองทัพเพื่อจะเข้าใจสถานการณ์ร่วมกัน เพื่อหาทางออกร่วมกัน ก็เห็นตรงกันไม่มีอะไรขัดข้อง เรื่องนี้มองว่าไม่ใช่เรื่องระยะสั้นแต่เป็นเรื่องระยะยาว

ถามต่อว่า ผู้บัญชาการเหล่าทัพได้ให้คำมั่นหรือไม่ ว่าจะไม่ทำรัฐประหาร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน เพราะเรื่องนี้ได้เกินเลยไปแล้ว ยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

เมื่อถามว่า คำแถลงของนายกฯ ที่ระบุกำลังสู้กับภัยคุกคามของชาติ ถือว่าวันนี้ไทยประกาศศึกกับกัมพูชาแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราพูดความจริงให้ประชาชนฟังว่า ขณะนี้มีภัยคุกคามจากภายนอก ซึ่งจะมองเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักมากกว่าเรื่องภายในประเทศ และจะต้องเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ

ส่วนที่มีมวลชนลงถนนประท้วง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้กังวล วันนี้มีแต่เรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ ซึ่งกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ก็ปักหลักชุมนุมมาอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ ก็ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่าให้ใช้ความละมุนละม่อม และให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย

เมื่อถามว่า ในวันพรุ่งนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะลงถนนด้วยเช่นกัน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ์ของนายสนธิ ไม่ทราบว่าจะปลุกขึ้นหรือไม่ แต่รัฐบาลเชื่อว่าได้ชี้แจงความตั้งใจ ซึ่งหน่วยงานราชการทั้งหมดเข้าใจแล้ว รวมถึงกองทัพก็เข้าใจ และต้องทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย

ถามต่อว่า พอมีสถานการณ์เกิดขึ้นเช่นนี้ได้คุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย ส่วนท่าทีของสองตระกูลผู้นำ จากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ไม่ใช่ประเด็นที่เราใส่ใจ วันนี้คิดแต่เรื่องของประเทศชาติเป็นเรื่องหลัก และเรื่องเอกราชของประเทศไม่ให้ใครมารุกราน

อย่างไรก็ตาม ถามต่อว่าหาก สมเด็จฮุนเซน ไม่ลดละท่าที กองทัพจะตอบโต้อย่างรุนแรงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามกระบวนการของการต่างประเทศ.