งัดมาเล่นกันจนไพ่หมดสำรับ เกมประลองอำนาจ 2 สี เพื่อไทย–ภูมิใจไทย ถึงรอบนี้ก็ได้เวลา “เลิกวง”

สุดทางลาก จบทางรักแบบตบ-จูบ มันจบแล้วครับ “2 น.”

หลังจากกระแสข่าวนัดเคลียร์ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร กับ “รองหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย เมื่อค่ำต้นสัปดาห์ บทสรุปชัด วาระสุดท้ายแจ้งเพื่อทราบ “ยึดมหาดไทย”

สัญญาณ “บ้านจันทร์ฯ-ตึกไทยฯ” ตรงกัน เขี่ยทิ้งภูมิใจไทย

ขณะที่ “เสี่ยหนู” ก็ต้องยอมรับสภาพ ไม่เอาสูตร 2 แลก 1 ที่คนเพื่อไทยปล่อยออกมาเสนอเป็นการเยียวยา ถ้ายอมคายเก้าอี้ มท. ก็จะได้กระทรวงสาธารณสุข กับ รมต.ประจำสำนักนายกฯไปแทน

งานนี้เพราะต้องรักษาเชิงไว้ยาวๆ ในเมื่อปล่อยท่าไม้ตายขู่ไปแล้ว หากยื้อเก้าอี้ มท.ไว้ไม่ได้ ก็ยอมถอนตัวไปเป็นฝ่ายค้าน

เมื่อไม่ได้รับการสนอง “เสี่ยหนู” ก็ส่อสมใจ ได้สิทธินั้นเร็วๆนี้

แม้ที่ผ่านมาเหนียวสุดขีด “เสี่ยหนู”-“เนวิน ชิดชอบ” 2 บิ๊กน้ำเงิน กินดีหมีหัวใจเสือ โหน “พลังแฝง” ผู้หลักผู้ใหญ่ไฮพาวเวอร์ เพิ่มความห้าว แต่เอาไม่อยู่

เพราะมีสัญญาณมาตั้งแต่โค้งสุดท้าย “สีน้ำเงิน” โดนอาวุธหนักต่อเนื่องจาก “ปมฮั้ว สว.” นอกจากทลายห้าง จ่อล้างวุฒิสภาเกือบเกลี้ยง ยังลากเอา 2 บิ๊ก น.หนู และลูกข่ายลูกค่ายภูมิใจไทยติดบ่วงเหมาเข่ง

สส. รมต. เครือข่าย ลูกหลาน จะ “ยังบลัด–โอลด์บัด” โดนเรียบ

เมื่อ “นายเก่า” อย่าง “ทักษิณ” ไม่แหยงพลังแฝง ไม่ยั้งมือ

เพราะบิ๊กเบิ้มพลังสูงกว่านี้ก็เคยท้าวัดมาแล้ว

...

ที่สำคัญวันนี้เช็กทิศทางลมฟ้าอากาศ ยังมั่นใจใน “ตั๋วอำนาจ” ที่ถืออยู่ในมือ แม้อีกฝ่ายจ้องฉกชิง

ของขลังกว่ายังกุมแน่น “ทักษิณ” เหนียวกว่าเห็นๆ

ยิ่งรอบนี้มีเดิมพันสูงบีบ “ทักษิณ” ต้องเดินหนัก เก็บเนี้ยบทุกเกมบุกบี้ เพราะหากไม่ทำอะไรก็โดนค่ายอันดับ 2 ในรัฐบาล “ภูมิใจขวาง” ขย่มเขย่าเอาตลอด

ต้องปราบอหังการสีน้ำเงิน ที่ถือว่าได้เปรียบแต้มต่อ 69 เสียง สส. เป็นตัวแปรรัฐบาล แถมถือดุล สว.140 กว่าแต้มอัปในวุฒิสภา เลยโขกเอาโขกเอา

ชีวิตสะกดคำว่า “แพ้” ไม่เป็น “ทักษิณ “ไม่มีทางยอมรับ แม้เคยเปรียบตัวเองในเรื่องจำนวนเสียง สส.กับครั้งรัฐบาลไทยรักไทย วันนี้เพื่อไทยสภาพเป็น “เด็กประถม”

แต่จะให้เด็กเกรียนมัธยมสีน้ำเงินรีดไถอำนาจกันไปตลอดก็คงไม่ได้

เมื่อ “ภูมิใจขวาง” ก็ต้องหาทาง “เต็มใจทุบ”

เพียงแต่ว่า เกมอำนาจเดินช่วยรัฐบาล “ลูกสาวอิ๊งค์” ตามสูตร “ยื้อ–ยับ–ปรับ–ยุบ” ยื้อแย่งอำนาจ ภาพยับเยิน ต้องปรับต้องเขี่ยก้อนกรวดสีน้ำเงินทิ้ง ก็ถึงห้วงเวลาที่หลายคนคาดการณ์

สถานการณ์ยากเลี่ยง ลากไปสู่คิว “ยุบสภา” เลือกตั้งใหม่

เพราะเส้นทางอำนาจรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำแบบนี้ จำนวนสส.เกินครึ่งมาเต็มที่ก็ไม่ถึง 20 เสียง ถึงให้ชุดปฏิบัติการสีแดง–หรือทีม ฉก.ของผู้กอง ไปไล่ตามดึงตามดูดก็ยังไม่มั่นคง

เพราะถือเป็นงานหนัก กับสมการการเมืองคณิตศาสตร์ ต้องปั่นแต้มเติมทดแทนที่หายไป 69 เสียง

แต่เมื่อเป็นเส้นทางที่เลือกเดินแล้ว ยังไงต้องถูลู่ถูกัง

แม้ต้องคอยคุมเสียงทุกช็อตงานที่รออยู่ตรงหน้า การพิจารณากฎหมาย นโยบายเรือธง ตั้งแต่ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ปั่นแผนกาสิโน ดันคิวค่าแรงขั้นต่ำ ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ฯลฯ

คิวบังคับ “ทักษิณ” ต้องคอยช่วยคอนโทรลแต้ม

อีกทางก็ต้องเร่งปั่นโจทย์หลัก แก้เศรษฐกิจปากท้องช่วยรัฐบาล ยื้อลากไปให้นานสุด ปักหมุดหมายเบื้องต้น ต่ำๆถึงต้นปีหน้าก็น่าจะพร้อม ได้เวลาล้างกระดาน “ยุบสภา”

วัดดวงอีกครั้ง โดยเฉพาะกับค่ายสีน้ำเงิน และสีส้ม 2 พรรคตัวเล่นหลักในสนามเลือกตั้ง

ถ้าไม่มีคิวร้อนแทรกซ้อน กระแสอำนาจลัดวงจร

ไม่เกิดเหตุฉุกเฉิน “ไฟช็อต” ใส่ “ทักษิณ” ไปเสียก่อน.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม